fbpx

รู้เฟื่องเรื่องวัดไข้ วัดอย่างไรให้ถูกต้อง!

Writer : Phitchakon
: 4 สิงหาคม 2565

เมื่อลูกน้อยเริ่มตัวร้อน หรือมีอาการไม่สบายเนื้อ ไม่สบายตัว การวัดไข้เป็นด่านแรกที่คุณพ่อคุณแม่ต้องเผชิญ
เชื่อว่าทุกท่านคงประสบปัญหาไม่น้อยกับการวัดไข้ เพราะมีวิธีให้เลือกหลายรูปแบบ มีอุปกรณ์มากมายชวนให้งงไปกันใหญ่ ไหนจะอุณหภูมิของส่วนต่างๆ ในร่างกายที่ไม่เท่ากันอีกต่างหาก
วันนี้ ParentsOne ขอแบ่งปันเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ชวนมาเรียนรู้เรื่องการวัดไข้ไปด้วยกัน เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับทุกอาการเจ็บป่วยของลูกรักแบบไร้กังวล จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลยค่ะ

อุณหภูมิปกติ  

เด็กและทารก มักมีอุณหภูมิร่างกายปกติอยู่ที่ 36.6-37.2 องศาเซลเซียส  

เตรียมพร้อมก่อนวัดอุณหภูมิ 

  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น  

เช่น ออกกำลังกาย รับประทานอาหาร อาบน้ำอุ่น เพราะจะทำให้อุณหภูมิผิดไปจากความจริง หรือหากทำกิจกรรมอยู่ ควรให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย 1 ชั่วโมงก่อนแล้วค่อยวัดอุณหภูมิ  

  • ตรวจสอบอุปกรณ์ 

ปรอทแท่งแก้ว : เช็กให้แน่ใจว่าอุณหภูมิเริ่มต้นต่ำกว่า 35 องศาเซลเซียส 

อุปกรณ์ดิจิทัล : เลือกโหมดใช้งานให้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์  

การวัดไข้ทางทวารหนัก 

  • เหมาะสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 18 เดือน  
  • อุณหภูมิปกติ 36.6-38 องศาเซลเซียส  
  • 38 องศาหรือมากกว่า ถือว่ามีไข้  

วิธีวัดไข้ : ใช้สารหล่อลื่น เช่น ปิโตรเลียมเจลทาที่วัดอุณหภูมิเพื่อลดการเสียดสี ให้เด็กนอนคว่ำบนพื้นที่ราบ หากไม่ถนัดให้จับเด็กนอนหงาย และยกขาเด็กขึ้นทั้ง 2 ข้าง จากนั้นสอดที่วัดอุณหภูมิเข้าไปทางทวารลึกประมาณ 1.25-2.5 เซนติเมตร ถือค้างเอาไว้ประมาณ 2 นาที หรือหากใช้ที่วัดอุณหภูมิแบบดิจิทัลให้รอจนกว่าสัญญาณจะดัง  

ข้อควรระวัง : เป็นวิธีที่มีความเสี่ยงบาดเจ็บสูง ต้องระมัดระวังอย่างมาก หรือมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลใกล้ชิด  

 การวัดไข้ทางรักแร้  

  • เหมาะสำหรับทุกวัย 
  • อุณหภูมิปกติ 34.7-37.3 องศาเซลเซียส  
  • 37.3 องศาหรือมากกว่า ถือว่ามีไข้ 

วิธีวัดไข้ : สอดที่วัดอุณหภูมิให้ส่วนปลายอยู่บริเวณกึ่งกลางรักแร้ หนีบไว้ประมาณ 3-5 นาที หากเป็นที่วัดอุณหภูมิแบบดิจิทัลให้รอจนกว่าสัญญาณจะดัง  

ข้อควรระวัง : การอ่านค่าที่วัดทางรักแร้จะต่ำกว่าอุณหภูมิที่วัดบริเวณอื่นประมาณ 0.6 องศาเซลเซียส 

การวัดไข้ทางหู  

  • เหมาะสำหรับเด็กอายุ 3 เดือนขึ้นไป 
  • อุณหภูมิปกติ 35.8-38 องศาเซลเซียส
  • 38 องศาหรือมากกว่า ถือว่ามีไข้ 

วิธีวัดไข้ : ใช้เครื่องวัดอุณหภูมิสอดเข้าไปในหูให้ตัวรับอุณหภูมิอยู่ตรงกับรูหู จากนั้นยิงเพื่อวัดอุณหภูมิ ขณะที่วัดไข้ควรดึงใบหูให้ตรง โดยเด็กอายุต่ำกว่า 12 เดือนให้ดึงติ่งหูเอียงไปทางด้านหลัง ส่วนเด็กอายุมากกว่า 12 เดือน ให้ดึงติ่งหูขึ้นด้านบนและเอียงไปทางด้านหลัง  

ข้อควรระวัง : ค่าอาจคลาดเคลื่อนได้ ถ้าใช้กับเด็กเล็ก เพราะรูหูเล็ก หรือมีขี้หูที่ปิดรูหูไว้ 

การวัดไข้ทางปาก  

  • เหมาะสำหรับเด็กอายุ 5 ปีขึ้นไป
  • อุณหภูมิปกติ 35.5-37.5 องศาเซลเซียส  
  • 37.5 องศาหรือมากกว่า ถือว่ามีไข้  

วิธีวัดไข้ : สอดที่วัดอุณหภูมิให้ส่วนปลายอยู่ใต้ลิ้น และปิดปากให้สนิท รอประมาณ 3-4 นาที หากเป็นที่วัดอุณหภูมิแบบดิจิทัลให้รอจนกว่าสัญญาณจะดัง  

ข้อควรระวัง : เด็กวัยต่ำกว่า 5 ปีอาจอมปรอทไม่เป็น ทำให้เผลอกัด ทำปรอทแตกและก่อให้เกิดอันตรายได้

การวัดไข้ทางหน้าผาก  

  • เหมาะสำหรับทุกวัย  
  • อุณหภูมิปกติ 35.8-38  องศาเซลเซียส  
  • 38 องศาหรือมากกว่า ถือว่ามีไข้ 

วิธีวัดไข้ : ทำความสะอาดบริเวณหน้าผากแล้วนำแถบวัดอุณหภูมิทาบตรงกลางหน้าผาก กดเบาๆ แล้วอ่านผลตัวเลขที่แสดงบนแถบ หรือใช้เครื่องวัดไข้แบบอินฟราเรดที่ไม่ต้องสัมผัสร่างกาย ยิงวัดอุณหภูมิ  

ข้อควรระวัง : มีความแม่นยำน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับวิธีอื่น  

ระดับไข้  

  • ไข้ต่ำ 37.5-38.4 องศาเซลเซียส  
  • ไข้ปานกลาง 38.5-39.4 องศาเซลเซียส  
  • ไข้สูง 39.5-40.4 องศาเซลเซียส  
  • ไข้สูงมาก สูงกว่า 40.5 องศาเซลเซียส  

อ้างอิงจาก

Writer Profile : Phitchakon

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



7  โรคเด็กที่ต้องเฝ้าระวังในหน้าฝน
ข้อมูลทางแพทย์
Update
anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save