คิดว่าหลายๆ บ้านเองก็คงมีบ้างใช่ไหมคะที่ทานเผ็ดกันทั้งบ้าน หรือชื่นชอบที่จะทานอาหารรสจัด แต่คราวนี้การที่จะให้เจ้าตัวเล็กของเรามาร่วมวงโต๊ะทานด้วย ในบางทีเขาเองก็อยากลองทานเผ็ดบ้าง หรือทางผู้ใหญ่อยากให้ลองดูว่าทานได้หรือไม่ ยิ่งกับประเทศไทยเองที่มีเมนูอร่อยหลายๆ อย่างเลยที่มีส่วนผสมของความเผ็ดจนได้รสชาติกลมกล่อม จึงเป็นเรื่องที่ควรให้เด็กๆ ได้ลองมีประสบการณ์ทานดุซักครั้งและให้เขได้ตัดสินใจว่าจะชอบหรือไม่ค่ะ
เอาล่ะ! เรามาดูกันดีกว่า ว่าอายุเท่าไหร่จึงสามารถทานได้, หากแพ้ควรหลีกเลี่ยงอย่างไร รวมไปถึงเมนูเผ็ดที่เหมาะกับการฝึกทานมีอะไรบ้าง มาลองดูไปด้วยกันเลยค่ะ
การทานเผ็ดต้องดูความสมัครใจของลูก
อันดับแรกที่สำคัญที่สุดคือการถามความสมัครใจของคนเก่งบ้านเราค่ะ ว่าอยากลองทานหรือไม่ หากลูกรู้สึกอยากลอง หรือมีความสนใจมากๆ ก็อาจให้ลองได้ในปริมาณไม่มาก แต่หากสามารถทานได้ และชื่นชอบ จึงค่อยแนะนำเมนูรสจัดอื่นๆ ต่อไปได้โดยให้อยู่ในความดูแลของเราเสมอเวลาให้รับประทาน
ทำความรู้จักที่มาความเผ็ดก่อนทาน
อาหารรสเผ็ดส่วนมาก มักมีส่วนประกอบจากพริกซึ่งพริกนั้นมีสาร แคพไซซิน หรือสารให้ความเผ็ดอยู่ซึ่งสารนี้ในพริกจะมีปริมาณที่ไม่เท่ากันในแต่ละสายพันธุ์ซึ่งสายพันธุ์ที่มีสารแคพไซซินมากที่สุดคือพริกขี้หนู, พริกเหลือง, พริกชี้ฟ้า และมีความเผ็ดน้อยสุดคือพริกหยวก แต่ในเวลาเดียวกันนั้นก็มีผักชนิดอื่นนอกจากพริกอีกที่ให้ความรู้สึกเผ็ดร้อนได้อย่างหัวหอม, ขิง, ข่าและกระเทียม
ดังนั้นการทานเผ็ดนั้นควรจะต้องดูชนิดของพริกหรือระดับความเผ็ดให้ดีก่อนจะเริ่มทาน รวมไปถึงมีการทดลองว่า เด็กๆ ในบ้านนั้นมีอาการแพ้ แคปไซซินหรือไม่ เพราะหากมีอาการแพ้แล้วล่ะก็ ควรจะงดหรือไม่ให้ทานสารความเผ็ดจากพริกเลยจะดีที่สุดค่ะ
อาการไหนที่ทำให้รู้ว่าลูกแพ้สารในพริก
เรื่องที่สำคัญยิ่งกว่ากับการลองทานเผ็ดคือเรื่องของอาการแพ้ หากเราต้องการทราบว่าลูกเราแพ้สารให้ความเผ็ดในพริก ต้องสังเกตอาการที่เกิดขึ้นได้ดังนี้หลังรับประทานของเผ็ดเข้าไปว่าเป็นเช่นไรเพราะบางทีอาการอาจอันตรายจนทำให้ต้องเข้าโรงพยาบาลเลยค่ะ
- แสบปาก, แสบในกระพุ้งแก้มจนทนไม่ไหว
- ปวดท้อง, แสบร้อนในท้อง
- ท้องอืด, ท้องเฟ้อ ทำให้มีกรดในกระเพาะมากไป
- มีอาการเหมือนเป็นภูมิแพ้, หายใจขัด, คัดจมูก
อายุเท่าไหร่ถึงทานเผ็ดได้
โดยปกติแล้วเด็กเล็กมาก จะยังไม่ควรให้ลองทานเผ็ดเพราะว่าสารในพริกนั้นให้รสร้อน และแสบ ดังนั้น การทานเผ็ดจึงควรเริ่มจากอาหารที่มีรสหรือกลิ่นที่ฉุนขึ้นก่อน แล้วจึงเริ่มให้ทานของที่มีส่วนผสมความเผ็ดจริงของพริก ซึ่งสามารถเรียงลำดับได้ดังนี้
- อายุเกิน 6 เดือน เริ่มให้ลองทานหัวไชเท้าต้มสุกจนเนื้อนุ่มละลายไม่ต้องเคี้ยว
- อายุเกิน 1 ขวบ เริ่มให้ลองทานกระเทียมที่ผ่านความร้อนมาแล้ว
- อายุ 3-4 ขวบ เริ่มให้ลองทานหัวหอมหรือผักกลิ่นแรงอื่นๆ อาทิ ขิง, โหระพา, กะเพรา ซึ่งเมนูเหล่านี้สามารถนำไปทอดกรอบได้เพื่อให้เกิดความสนุกในการรับประทาน
- อายุ 5-6 ขวบ เริ่มให้ลองได้ทานพริกได้โดยเริ่มไต่ระดับความเผ็ดจากพริกหยวกก่อน แล้วจึงไปเป็นพริกชนิดอื่นเมื่อเห็นว่าเขาสามารถทานเผ็ดได้
ประโยชน์ของการทานเผ็ด
จากข้อก่อนที่พูดเรื่องอาการแพ้ไปแล้วนั้น หากเจ้าตัวเล็กของเราไม่ได้มีอาการแพ้และทานเผ็ดได้ ก็จะมีข้อดีอยู่หลายข้อเลยทีเดียวสำหรับการทานเผ็ดซึ่งประโยชน์ทางด้านโภชนาการของรสชาติเผ็ดมีดังนี้
- ในพริกมีวิตามินซีสูง แต่ต้องเป็นพริกสด ไม่ผ่านความร้อน
- บรรเทาหวัด ช่วยให้หายใจสะดวกยิ่งขึ้น
- ลดปริมาณคอเรสเตอรอลได้
- กระตุ้นให้หลั่งสารเอ็นโดฟินออกมา ทำให้แจ่มใส
- ช่วยการไหลเวียนของเลือดให้ดียิ่งขึ้น
เราจะเห็นได้ว่า สารให้ความเผ็ด หรือพริกนั้นก็มีประโยชน์ทางโภชนาการมากๆ เลยใช่ไหมคะ แต่อย่าลืมนะคะ ทุกอย่างจะดีได้ต้องมีความพอดี การทานเผ็ดเองก็เช่นกันที่ต้องทานในปริมาณที่เหมาะสมกับวัย และการรับไหวของกระเพาะ เพราะหากทานเผ็ดมากไป ก็อาจส่งผลร้ายหลายๆ อย่างตามมาได้ ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดท้อง, ทำให้ติดกินอาหารรสจัดเกินจำเป็น, มีปัญหาการขับถ่าย ดังนั้นควรทานในปริมาณที่พอเหมาะนะคะ
ที่มา : parentgenalpha ,rakluke , thaihealth