ในช่วงที่อากาศเริ่มเปลี่ยนแปลงแบบนี้ แน่นอนว่าโรคภัยก็ย่อมถามหา โดยเฉพาะโรคไข้หวัดใหญ่ที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องดูแลเจ้าตัวเล็กเป็นพิเศษ
นายแพทย์อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีและโฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคที่เกิดขึ้นตามฤดูกาล ไม่ใช่สายพันธุ์ใหม่ แต่จะพบมากในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว จากข้อมูลจากกองระบาดวิทยา ในปี 2562 พบผู้ป่วยมากกว่าปีที่ผ่านมา ประมาณ 3 เท่า และพบได้ตลอดทั้งปี
โดยในปี 2562 ตั้งแต่เดือนมกราคม–ตุลาคม 2562 มีรายงานผู้ป่วย 310,678 ราย เสียชีวิต 22 ราย ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ ซึ่งช่วงต้นปีส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์บี กลุ่มอายุที่พบอัตราป่วยสูงสุดคือ กลุ่มเด็กเล็กและเด็กวัยเรียน
โรคไข้หวัดใหญ่ มีอาการคล้ายไข้หวัด แต่จะมีอาการปวดกล้ามเนื้อมากและปวดศีรษะ อ่อนเพลีย โดยหลังจากได้รับเชื้อจะมีไข้สูง สามารถติดต่อจากการสัมผัสสารคัดหลั่ง (น้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะ) ของผู้ป่วย ผ่านการไอหรือจามรดกัน แต่สามารถหายเองได้ใน 5-7 วัน กลุ่มเสี่ยงอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น ปอดบวม หายใจลำบาก และอาจทำให้เสียชีวิตได้
สำหรับวิธีการป้องกัน คือ “ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด” เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทุกสายพันธุ์ ดังนี้
- ปิด คือปิดปากและจมูกเมื่อไอ จาม ต้องใช้หน้ากากอนามัย ผ้า หรือกระดาษทิชชูปิดปากและจมูกทุกครั้ง
- ล้าง คือล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ เมื่อสัมผัสสิ่งของ เช่น กลอนประตู ลูกบิด ราวบันได
- เลี่ยง คือหลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย
- หยุด คือเมื่อป่วย ควรหยุดเรียน หยุดงาน แม้จะมีอาการไม่มากก็ควรหยุดพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านจนกว่าจะหายเป็นปกติ
อ้างอิงจาก