หลายคนมักทราบกันดีว่า เมื่อเหล่าคุณแม่ตั้งครรภ์ และคุณแม่หลังคลอดอารมณ์มักจะเเปรปรวนง่ายอยู่แล้ว เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง จนคุณพ่อเอาใจไม่ถูก ยิ่งในปัจจุบันได้มีการแพร่ระบาดอย่างหนักของโรคโควิด – 19 ยิ่งทำให้เหล่าแม่ๆ นั้นเกิดอาการเครียดทางอารมณ์กันไปใหญ่

จิตแพทย์จึงแนะนำว่า คนในครอบครัวต้องมีการดูแลจิตใจของแม่ที่ตั้งครรภ์ และคุณแม่หลังคลอดลูกเป็นพิเศษ เพื่อลดความเครียดที่อาจส่งผลต่อตัวลูกในครรภ์ และสภาพร่างกายจิตใจของคุณแม่ด้วย ไปดูกันเลยค่ะ

How to ดูแลคุณแม่ตั้งครรภ์ และคุณแม่หลังคลอด เมื่อเจอวิกฤต Covid-19

มี “สติ” สำคัญสุด

สิ่งที่สำคัญ อันดับ 1 เลย ก็คือ การที่คุณพ่อคุณแม่มีสติไปพร้อมกัน ค่อยๆ ไล่เเก้ปัญหาต่างๆ ที่คับคาใจ และอย่าวิตกกังวลมากเกินไป เพราะความเครียดจะส่งผลกระทบต่อลูกในครรภ์ได้

เลี่ยงได้เลี่ยง

ไม่ไปในสถานที่ที่มีความเสี่ยงที่จะติดโรค และคอยระวังระวังไม่ให้ตัวเองไม่จับสิ่งของต่างๆ ที่เป็นของสาธารณะ ที่สำคัญ คือ ควรล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ทุกครั้งที่ทำกิจกรรมต่างๆ เสร็จ หรือไปหยิบจับสิ่งของมา

สงสัยอะไร? รีบปรึกษาแพทย์

หากสงสัยเรื่องที่เกี่ยวกับโรคโควิด – 19 ระหว่างตั้งครรภ์หรือหลังคลอด ควรรีบปรึกษาแพทย์หรือแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ลดการเสพข้อมูลที่มากเกินไป สื่อสารในสังคมออนไลน์เป็นบางครั้ง

รู้ทันอารมณ์ตัวเอง

คนในครอบครัวต้องหมั่นสังเกตการเปลี่ยนแปลงทางด้านอารมณ์ พฤติกรรม และความคิดของเหล่าคุณแม่ว่าเป็นเช่นไร จะได้แก้ปัญหาถูกจุด เพราะคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ หรือหลังคลอดมักจะเกิดภาวะโรคซึมเศร้าขึ้นได้ง่าย หากมีอาการที่ไม่ดีควรรีบไปพบแพทย์

ดังนั้น ความเข้าใจในการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติของคนในครอบครัวจะทำให้ลดปัญหาความเครียดที่อาจเกิดขึ้นได้

ดูแลลูกให้ดีที่สุด

สิ่งที่ขาดไม่ได้เลย คือ หน้าที่สำคัญของคนเป็นพ่อเป็นแม่ที่จะต้องดูแล และเลี้ยงดูลูกให้ดีที่สุด เท่าที่จะทำได้ ปกป้องลูกให้ห่างจากโรคนี้ และไม่ทำสิ่งที่เสี่ยงโดยเด็ดขาด

สิ่งที่ควรทำ

• ดูแลร่างกายให้แข็งแรง

• ดูแลจิตใจให้เข้มแข็ง

• ดูแลเรื่องการกินเป็นพิเศษ

• ใส่ใจในการให้นมลูก

หากแม่มีความเสี่ยง หรือมีอาการว่าจะติดโรคนี้ สามารถปั๊มน้ำนมให้ลูกดื่มจากขวดแทนได้ โดยให้ผู้อื่นเป็นคนป้อน และระวังเรื่องความสะอาด หรือเชื้อปนเปื้อนจากการสัมผัสค่ะ

ปัจจุบัน อ้างอิงข้อมูลจากศูนย์ภูมิต้านทานและระบบทางเดินหายใจแห่งชาติ และกองโรคแพร่ระบาดของสหรัฐ ระบุว่า ยังไม่มีงานวิจัยที่บ่งบอกชัดเจนว่าหญิงตั้งครรภ์มีความเสี่ยงจากการติดเชื้อโควิด 19 มากกว่าคนทั่วไป และยังไม่มีการศึกษาใดพบว่าเชื้อไวรัสสามารถแพร่เชื้อผ่านทางน้ำนมสู่ลูกได้