“การพูดติดอ่าง” เป็นความผิดปกติเกี่ยวกับความคล่องแคล่วและจังหวะในการพูด พูดไม่คล่อง พูดตะกุกตะกัก พูดติดๆ ขัดๆ พูดซ้ำๆ คำเดิม พูดลากเสียง พูดขาดตอนเป็นช่วงๆ พูดไม่ต่อเนื่อง หรือมีอาการลังเลต่อการพูด ทำให้คุณพ่อคุณแม่เกิดความกังวลใจ ซึ่งสาเหตุอาจจะมาจาก เกิดจากการเลี้ยงดู การขัดใจในการพูดของเด็ก ความกังวลใจไม่มั่นใจในการพูด การเลียนแบบการพูดติดอ่าง หรืออาจเกิดจากความผิดปกติทางระบบประสาท ซึ่งเมื่อลูกมีปัญหาการพูดติดอ่างแล้ว เราจะมีวิธีแก้ไขอย่างไรได้บ้าง ไปติดตามกันค่ะ
1. เป็นผู้ฟังที่ดี
ควรให้ความสนใจและตั้งใจฟังเด็กที่กำลังพยายามพูดมากกว่าจ้องจับผิดว่าเด็กกำลังพูดอะไร และไม่ควรแสดงท่าทีผิดปกติขณะที่เด็กพูดไม่คล่อง รับฟังลูกด้วยท่าทีที่อ่อนโยน ใจเย็นและเข้าใจ ไม่ว่าเด็กจะพูดติดอ่างหรือไม่ ท่าทีที่ผ่อนคลายของผู้ใหญ่ จะทำให้เด็กมีความมั่นใจ สบายใจ และหายติดอ่างได้ค่ะ
2. หาคำศัพท์ใหม่ให้ลูกฝึก
หาคำศัพท์ใหม่ๆ ช่วยฝึกลูกพูด ไม่ว่าจะเป็นการเล่านิทาน การพูดคุย อ่านหนังสือ รูปภาพ ฯลฯ เป็นอีกหนึ่งเทคนิคในการเพิ่มคำศัพท์ที่จะทำให้เด็กรู้จักคำพูดที่เขาจะได้นำมาใช้ในการสื่อสารมากขึ้น เพราะเด็กบางคนคิดเร็วแต่ไม่รู้คำศัพท์ที่จะสื่อสาร
3. ชวนลูกพูดคุย
ยิ่งรู้ว่าลูกของเราพูดติดอ่างแบบนี้ ยิ่งต้องชวนลูกคุยมากขึ้น แต่อย่าทำให้ลูกรู้สึกลนลาน หรือเร่งรัดให้เขาพูดคุยกับเรา ให้เขาทำตัวสบายๆ ค่อยๆ พูด ไม่ต้องรีบ สร้างความมั่นใจให้ลูก โดยเป็นนักฟังที่ดี ทำให้เขารู้ว่าพ่อแม่รอฟังเขาพูดได้เสมอ และจะไม่ดุ ไม่ว่าจะพูดผิดหรือถูก
4. สังเกตคำที่ลูกพูดติดอ่างบ่อยๆ
สังเกตคำที่ลูกพูดติดอ่างบ่อยๆ เพราะอาจจะเป็นไปได้ว่าลูกมีปัญหากับการออกเสียงคำนั้นๆ แล้วจึงช่วยลูกด้วยการพูดคำนั้นให้ชัดขึ้น
5. ชวนลูกร้องเพลง
ลองชวนลูกร้องเพลง เปิดเพลงโปรดของลูก และร้องคลอไปด้วย ควรเป็นเพลงจังหวะปานกลาง ฟังสบาย ไม่เร็วเกินไป จะช่วยให้ลูกสงบ มีสมาธิที่จะใช้พูดมากขึ้น
6. พ่อแม่เป็นต้นแบบที่ดีให้ลูก
คุณพ่อคุณแม่ หรือผู้เลี้ยงดู ควรเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็ก โดยการพูดช้าๆ ชัดถ้อยชัดคำ ได้ใจความ กะทัดรัด ไม่เยิ่นเย้อ ไม่ควรพูดติดอ่างตามลูกด้วยความเอ็นดู แบบนี้ไม่ดีค่ะ เพราะลูกน่ะจะคิดว่าเป็นสิ่งดีแล้วก็เลียนแบบเราอีกทีหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่ต้องไม่เร่งรัด และเปรียบเทียบความสามารถด้านการพูดของลูกกับเด็กที่โตกว่า เด็กส่วนใหญ่มักพูดไม่คล่องในช่วงอายุ 2 – 4 ปี แล้วจะค่อยๆ ลดลงไปเองเมื่อโตขึ้น เพราะมีพัฒนาการทางด้านภาษาเพิ่มขึ้นเอง แต่ถ้าอาการติดอ่างยังไม่หาย และมีอาการมากขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ ตลอดจนปรับอารมณ์จิตใจให้ผ่อนคลายมากขึ้น เมื่อต้องพบกับสถานการณ์ที่เคยทำให้ลูกพูดติดอ่างค่ะ
ที่มา –