fbpx

เคล็ดลับดูแลลูกน้อย เสริมพัฒนาการเด็กในแต่ละด้าน

Writer : Lalimay
: 30 พฤษภาคม 2567

ลูกน้อยเปรียบเสมือนของขวัญอันล้ำค่า แน่นอนว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่ย่อมอยากที่จะดูแลลูกให้ดีที่สุด โดยเฉพาะเมื่อลูกยังเล็กอย่างเช่นช่วงวัย 6 เดือน – 3 ขวบ ถึงแม้ว่าคุณพ่อคุณแม่หลายๆ ท่าน อาจจะไม่ได้เลี้ยงลูกแบบเต็มเวลา เพราะต้องออกไปทำงาน แต่มั่นใจได้เลยค่ะว่า คุณพ่อคุณแม่ก็รักและต้องการดูแลลูกน้อยให้ดีที่สุดไม่แพ้ใครๆ

โดยเฉพาะอาหารการกิน ยิ่งถ้าไม่มีเวลาทำอาหารเอง การเลือกซื้อ ‘อาหารเสริมตามวัยสำหรับเด็ก’ ที่มีสารอาหารหลักครบ 5 หมู่ และมีอย. ก็ถือเป็นทางเลือกที่ดี ที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ดูแลเจ้าตัวเล็กให้มีการเติบโตที่ยิ่งใหญ่ในทุกวันได้ค่ะ

พัฒนาการเด็กวัย 6 เดือน – 3 ขวบที่พ่อแม่ต้องรู้!

อย่างที่กล่าวไว้ว่าช่วงเวลาทองของชีวิต รวมช่วงอายุ 6 เดือน – 3 ขวบ คุณพ่อคุณแม่จึงควรให้ความสำคัญด้านพัฒนาการเด็กเป็นพิเศษ เพราะการที่ได้รู้ว่าพัฒนาการของลูกเป็นอย่างไร และเหมาะสมหรือไม่ จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่รับมือกับเจ้าตัวน้อยได้ถูกต้องค่ะ โดยพัฒนาการเด็กอายุ 6 เดือน – 3 ขวบแต่ละช่วงวัยมีดังต่อไปนี้

พัฒนาการเด็กวัย 6 เดือน

  • พัฒนาการด้านร่างกาย
    • กล้ามเนื้อมัดใหญ่ : เริ่มยันตัวขึ้นจากท่านอนคว่ำ โดยเหยียดแขนตรงทั้งสองข้างได้
    • กล้ามเนื้อมัดเล็ก : เอื้อมมือหยิบของและถือในท่านอนหงายได้
  • พัฒนาการด้านการสื่อสาร
    • ความเข้าใจภาษา : หันตามเสียงเรียก
    • ภาษาพูด : เริ่มเลียนแบบการเล่นทำเสียงได้
  • พัฒนาการด้านสังคมและการช่วยเหลือตนเอง
    • สนใจฟังคนพูดและสามารถมองไปที่ของเล่นที่นำมาเล่นกับเด็ก

พัฒนาการเด็กวัย 9 เดือน

  • พัฒนาการด้านร่างกาย
    • กล้ามเนื้อมัดใหญ่ : ลุกนั่งจากท่านอน คลาน เหนี่ยวตัวยืนขึ้นและเกาะยืนได้แล้ว
    • กล้ามเนื้อมัดเล็ก : ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วอื่นๆ หยิบของ
  • พัฒนาการด้านการสื่อสาร
    • ความเข้าใจภาษา : ทำตามคำสั่งง่ายๆ เมื่อใช้ท่าทางประกอบ เช่น ปรบมือ
    • ภาษาพูด : เลียนเสียงคำพูดที่คุ้นเคยได้ อย่างน้อย 1 เสียง
  • พัฒนาการด้านสังคมและการช่วยเหลือตนเอง
    • เล่นจ๊ะเอ๋เป็นแล้ว อีกทั้งยังใช้นิ้วหยิบอาหารทานเองได้

พัฒนาการเด็กวัย 1 ขวบ

  • พัฒนาการด้านร่างกาย
    • กล้ามเนื้อมัดใหญ่ : ตั้งไข่ และยืนขึ้นได้ด้วยตนเองในช่วงเวลาสั้นๆ
    • กล้ามเนื้อมัดเล็ก : ใช้ปลายนิ้วหยิบของ
  • พัฒนาการด้านการสื่อสาร
    • ความเข้าใจภาษา : ทำตามคำสั่งง่ายๆที่มีท่าทางประกอบ เช่น โบกมือ สวัสดี หรือปรบมือได้
    • ภาษาพูด : แสดงความต้องการด้วยการทำท่าทางและเปล่งเสียง
  • พัฒนาการด้านสังคมและการช่วยเหลือตนเอง
    • เริ่มใช้สิ่งของตามหน้าที่ถูกต้อง เช่น ใช้หวีมาหวีผม

พัฒนาการเด็กวัย 2 ขวบ

  • พัฒนาการด้านร่างกาย
    • กล้ามเนื้อมัดใหญ่ : เหวี่ยงขาเตะลูกบอล และกระโดด 2 เท้าอยู่กับที่
    • กล้ามเนื้อมัดเล็ก : ต่อก้อนไม้ 4 ชิ้น และเริ่มแก้ปัญหาโดยใช้เครื่องมือง่ายๆ ด้วยตนเอง
  • พัฒนาการด้านการสื่อสาร
    • ความเข้าใจภาษา : เริ่มพูดตอบรับหรือปฏิเสธ
    • ภาษาพูด : พูดวลีที่ประกอบด้วย 2 คำต่อกัน เช่น กินข้าว
  • พัฒนาการด้านสังคมและการช่วยเหลือตนเอง
    • ใช้ช้อนตักอาหารทานเอง ล้างและเช็ดมือเองได้

พัฒนาการเด็กวัย 3 ขวบ

  • พัฒนาการด้านร่างกาย
    • กล้ามเนื้อมัดใหญ่ : ยืนขาเดียวได้ 3 วินาที
    • กล้ามเนื้อมัดเล็ก : เลียนแบบลากเส้นเป็นวงต่อเนื่องกัน
  • พัฒนาการด้านการสื่อสาร
    • ความเข้าใจภาษา : เลือกวัตถุขนาดใหญ่-เล็กได้ นอกจากนี้ยังนำของ 2 ชิ้นมาให้ตามคำสั่งได้
    • ภาษาพูด : พูด 3-4 คำ อย่างน้อย 4 ความหมาย
  • พัฒนาการด้านสังคมและการช่วยเหลือตนเอง
    • ใส่กางเกงได้เอง

โภชนาการสำหรับเด็กวัย 6 เดือน – 3 ขวบ

เด็กอายุ 6 เดือน – 3 ขวบ เป็นช่วงวัยที่สำคัญของการเจริญเติบโตของสมองและร่างกาย คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจในเรื่องของอาหารเพิ่มมากขึ้นกว่าตอนที่เป็นทารก เพื่อให้เจ้าตัวเล็กได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและเพียงพอในการเจริญเติบโต เสริมสร้างเซลล์สมอง ระบบประสาท กระดูก กล้ามเนื้อ และอวัยวะต่างๆ ค่ะ

โภชนาการสำหรับเด็ก 6 เดือน : คุณพ่อคุณแม่สามารถให้ลูกรับประทานอาหารอื่นๆ นอกจากนมแม่ได้แล้วนะคะ โดยป้อนอาหารวันละ 1 มื้อ ซึ่งอาหารที่จะให้ลูกทานจะต้องปรุงสุก บดละเอียด วัตถุดิบที่ใช้ส่วนใหญ่ คือ ข้าว ตับ ไข่แดงสุก ปลา และผักหลากสีต้มเปื่อย ในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้ได้สารอาหารครบทั้ง 5 หมู่

โภชนาการสำหรับเด็ก 8 เดือน : ช่วงวัยนี้จะเพิ่มมื้ออาหารเป็น 2 มื้อ และเพิ่มปริมาณขึ้นด้วยค่ะ ใช้วัตถุดิบที่ให้สารอาหารครบ 5 หมู่ ให้ลูกได้ลองทานอาหารที่ใช้วัตถุดิบหลากหลาย มีเนื้อสัมผัสที่หยาบขึ้นเป็นการสับละเอียด 

โภชนาการสำหรับเด็ก 9-12 เดือน : ช่วงวัยนี้จะเพิ่มมื้ออาหารเป็น 3 มื้อ สามารถทานอาหารหยาบมากขึ้นได้แล้ว ควรเปลี่ยนจากบดหรือสับละเอียดมาเป็นหั่นชิ้นเล็กแทนนะคะ เพราะลูกจะเริ่มหยิบอาหารเข้าปากด้วยตนเองได้แล้ว และที่สำคัญก็ยังคงต้องให้ลูกทานอาหารให้ครบ 5 หมู่เช่นเดิมค่ะ

โภชนาการสำหรับเด็ก 1-3 ขวบ : ลูกสามารถทานอาหารใกล้เคียงกับอาหารผู้ใหญ่มากขึ้น แต่ควรเน้นเป็นอาหารที่ไม่เหนียว และไม่แข็งมาก อุดมไปด้วยสารอาหารหลักครบ 5 หมู่ให้ทานมื้อหลัก 3 มื้อ และอาหารว่างอีก 2 มื้อ รวมถึงควรดื่มนมรสจืดวันละ 2-3 แก้วค่ะ (อ้างอิง: สมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็ก 2565, กรมอนามัย)

การให้ลูกทานอาหารที่มีประโยชน์ตามโภชนาการจะช่วยให้ลูกมีการเจริญเติบโตที่แข็งแรง แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่ไม่มีเวลาเตรียมอาหารให้เจ้าตัวเล็กก็ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะด้วยเทคโนโลยีสมัยนี้ เรามี ‘อาหารเสริมตามวัยสำหรับเด็ก’ ที่วางขายในท้องตลาด ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านค้าทั่วไป ก็สามารถเป็นผู้ช่วยของคุณพ่อคุณแม่ได้เช่นกันค่ะ

เลือกซื้ออาหารเสริมเด็กต้องดูอะไรบ้างนะ ?

ก่อนซื้ออาหารเสริมตามวัยสำหรับเด็ก คุณพ่อคุณแม่ต้องอ่านฉลากอาหารและฉลากโภชนาการก่อนเป็นอย่างแรกค่ะ โดยอาหารเสริมเด็กที่เลือกจะต้องมี สารอาหารหลักครบ 5 หมู่ เพื่อให้ลูกน้อยเติบโต และเสริมสร้างพัฒนาการอย่างเต็มศักยภาพตามช่วงวัยของลูกนะคะ

Checklist การเลือกอาหารเสริมเด็ก

  • เลือกอาหารเสริมตามวัยสำหรับเด็กที่มีสารอาหารหลักครบ 5 หมู่
  • เลือกอาหารเสริมตามวัยสำหรับเด็กที่ผ่านมาตรฐาน อย. มีเลขทะเบียน อย. และระบุว่าเป็นอาหารเสริมสำหรับเด็ก โดยเลือกซื้อให้เหมาะสมกับอายุของลูก
  • เลือกอาหารเสริมตามวัยสำหรับเด็กที่ผลิตภัณฑ์มีบรรจุภัณฑ์เรียบร้อยและยังไม่หมดอายุ
  • เลือกอาหารเสริมตามวัยสำหรับเด็กที่ไม่เติมผงชูรส
  • เลือกอาหารเสริมตามวัยสำหรับเด็กที่ไม่มีสารปรุงแต่งสี กลิ่น และไม่ใส่สารกันบูด

เมื่อมี Checklist ในการเลือกซื้ออาหารเด็กตามวัยดังนี้แล้ว คุณพ่อคุณแม่จึงมั่นใจได้เลยว่า ในทุกๆ คำของอาหารเสริมเด็กตามวัยที่ป้อนให้ลูกนั้น จะมีสารอาหารสำคัญทั้ง 5 หมู่อย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งยังช่วยประหยัดเวลาในการปรุงอาหาร คืนเวลาให้คุณพ่อคุณแม่ได้มีความสุข ในทุกการเติบโตเล็กๆ ของลูกน้อย ได้เห็นและได้อยู่กับเจ้าตัวเล็กในทุกช่วงเวลาสำคัญ

คุณพ่อคุณแม่สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโภชนาการในแต่ละช่วงวัยของลูกน้อย รวมถึงเคล็ดลับเกี่ยวกับอาหารเสริมตามวัยของลูกน้อยได้ที่ https://www.nestlemomandme.in.th/baby-food-tip-tricks หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของ NestleMomAndMe โทร 1162 ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเลยค่ะ

ข้อมูลอ้างอิง

Writer Profile : Lalimay

  • Blog :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
ไลฟ์สไตล์ ไลฟ์สไตล์
เคยกลับบ้านมาแล้วกรี๊ดลั่นบ้านเพราะเจ้าตัวแสบไปวิ่งเล่นเลอะเทอะกันไหมคะ ? หรือแต่งตัวลูกอย่างดีไปทานข้าวนอกบ้าน แต่คุณลูกก็ทำซอสหกใส่ ไอติมหล่นไปเป็นก้อน เละทั้งตัว วันนี้ ParentsOne มีเสื้อเด็กที่เจ๋งมากๆ จาก GQ : the good day lab™ มาลองรีวิวให้ได้ชมกันค่ะ 🛒 ช้อปเลยที่ -> https://gqsize.link/bZT7Sx แกะกล่อง GQ : the good day lab™ เสื้อเด็ก ฟีเจอร์เพียบ คุณภาพ GQ ขึ้นชื่อว่า GQ ก็มั่นใจได้เรื่องคุณภาพค่ะ ผ้านุ่ม เบาบาง เหมาะกับอากาศเมืองไทย ใส่วิ่งสบายๆ ที่แปลกตาคือเป็นเสื้อที่ไม่มีป้ายแท็กค่ะ ทั้งด้านหลังคอเสื้อ หรือข้างใน ไม่ต้องห่วงว่าจะเคืองหรือคันเลย กระดุมแข็งแรงเอามากๆ ใช้แรงผู้ใหญ่ดึงแรงๆ ก็ไม่มีปัญหาเลย ไฮไลท์สำคัญที่คุณแม่แทบกรี๊ด คือเป็นไม่เปื้อนค่าาาา เทน้ำ เทนมใส่เสื้อ ไม่เปียกเลย สะบัดสองที หายปกติ ซึ่งถ้าใครเคยเห็นโฆษณา GQ ที่เสื้อเชิ้ตขาวไปทำงานคุณพ่อ โดนกาแฟหกใส่ แต่ผ้าไม่เปื้อนเลย เทคโนโลยีผ้าสะท้อนน้ำ ตอนนี้มาอยู่ในเสื้อเด็กแล้ววววว ทีมงานทดสอบเทน้ำสีผสมอาหาร นม หรือแม้แต่ซอสมะเขือเทศลงบนเสื้อ ก็ไม่เปื้อนค่ะ ไม่น่าเชื่อมากๆ ข้อดีที่สุดของผ้าแบบนี้ คือทำให้ชีวิตคุณแม่สบายขึ้นมาก พาลูกไปเที่ยว วิ่งเล่นสนามหญ้า พาไปทานก๋วยเตี๋ยว หรือให้ทานอะไร ก็ไม่ต้องกลัวเสื้อสวยๆ เลอะ แถมประหยัดเวลาซักผ้าด้วย ไม่ต้องมาคอยแช่ผ้าให้คราบมันออกแบบสมัยก่อน สำหรับเสื้อเด็ก the good day lab™…
8 ธันวาคม 2566

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save