ช่วงนี้คงเป็นช่วงปิดเทอมของเด็กๆ แถมคุณพ่อคุณแม่บางคนก็ต้องกลับมาทำงานกันที่บ้าน ทำให้หลายครั้งเราเองก็ต้องทำหลาย ทั้งงานประจำ งานบ้าน ทำกับข้าว จนไม่ได้สนใจลูกและเผลอยื่นมือถือให้พวกเขาไป เพื่อให้คลายเหงา รู้ตัวอีกทีลูกก็ติดหน้าจอไปเสียแล้ว ซึ่งก็เป็นปัญหาของหลายๆ ครอบครัวเช่นกัน ทำให้วันนี้เราได้รวบรวมเคล็ดลับและวิธีจากคุณพ่อคุณแม่ชาวเพจ Parents One เกี่ยวกับการพาลูกออกจากหน้าจอมาฝากกันค่ะ ใครมีเคล็zดลับอื่นๆ สามารถมาแชร์กันใต้คอมเมนต์นี้ได้นะคะ เพื่อเป็นแนวทางให้คุณพ่อคุณแม่ท่านอื่นในการเลี้ยงลูกกันต่อไปค่ะ
1.บอกล่วงหน้าว่าต่อไปเราจะทำอะไรกันต่อ : เช่น เมื่อเราให้ลูกอยู่กับหน้าจอตามที่ตกลงกันไว้แล้ว หรือครบกำหนดเวลาแล้ว คุณพ่อคุณแม่อาจจะบอกกิจกรรมอื่นๆ ที่จะทำต่อล่วงหน้าในไม่ช้านี้ เพื่อให้พวกเขาได้เตรียมตัวเตรียมใจว่าอีกไม่นานเราต้องหยุดเล่นแล้วนะ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ดูจะไม่โหดร้ายกับเด็กๆ มากเกินไป แต่ถ้าหากเด็กๆ คนไหนไม่ยอมอันนี้คุณแม่ก็คงต้องมีวิธีการที่เด็ดขาดกว่านี้นะคะ
2. ไม่ส่งหน้าจอให้ลูก : วิธีนี้หากทำได้จะเป็นผลดีต่อเด็กๆ มากเลยนะคะ เข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ บางทีอยากทำโน้นอยากทำนี่ ส่วนเจ้าเด็กที่บ้านก็อยากจะมีเพื่อนเล่น จนบางครั้งเราเองก็เล่นด้วยทั้งวันไม่ไหว ก็ใช้วิธียื่นหน้าจอเพื่อให้เขาได้มีเพื่อนเล่นโดยเฉพาะเด็กเล็กที่อายุยังไม่เหมาะสมที่จะติดหน้าจอ ทำให้เกิดผลเสียต่อพวกเขามากมาย ทั้งเรื่องพัฒนาการช้า แถมอารมณ์ฉุนเฉียวมากขึ้นอีกด้วยค่ะ
3. พ่อแม่ต้องออกจากหน้าจอก่อน : วิธีนี้ก็เป็นเรื่องจริงอีกข้อที่จะสามารถทำให้ลูกห่างจากหน้าจอได้ เพราะหากเราต้องการให้พวกเขาไม่ติดจอ บอกก็แล้ว ดุก็แล้ว แต่เราเองก็ยังจับมือถือระหว่างเล่นกับลูก ระหว่างทานข้าว เรียกได้ว่าเป็นตัวอย่างให้ลูกเห็นว่าเล่นมือถือตลอดเวลาแบบนี้ก็เป็นสิ่งที่ผิดเลยนะคะ หากอยากให้ลูกห่างไกลจอ เราเองนี่แหละควรต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกให้ได้เสียก่อน จริงไหมคะ?
4. ชวนลูกทำกิจกรรมอื่นๆ : คุณพ่อคุณแม่หลายคนก็คงคิดวิธีนี้เป็นวิธีแรกๆ เลย ในการที่จะเอาลูกออกจากหน้าจอ เช่น อ่านหนังสือ เล่นบ่อทราย ชวนลูกล้างรถ ต่อเลโก้ เป็นต้น ซึ่งการมีกิจกรรมให้ลูกได้ทำแบบนี้บอกเลยว่า ลูกแทบไม่อยากเล่นมือถือหรือแท็บเล็ตเลยค่ะ เพราะความเป็นเด็กเขามักจะชอบทำกิจกรรมต่างๆ กับคนอยู่แล้ว ยิ่งพอมีกิจกรรมที่พ่อแม่หามาไม่ซ้ำกันหรือทำร่วมกันแบบนี้ รับรองเลยว่าเด็กๆ ห่างไกลจอได้อย่าง 100% เลยค่า
5. กำหนดเวลาชัดเจน : ยิ่งเด็ดขาดได้ยิ่งดี มีข้อตกลงกันก่อนเล่นว่าให้เล่นได้นานแค่ไหน นาฬิกาชี้ถึงเลขอะไร ครบเวลาแล้วต้องคืน และหากิจกรรมอื่นๆ มาทดแทนเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจให้พวกเขา ซึ่งเด็กแต่ละวัยก็มีการกำหนดเวลาที่เหมาะสมไม่เท่ากัน
- เด็กอายุระหว่าง 2-4 ปี กำหนดเวลาวันละไม่เกิน 1 ชั่วโมง
- เด็กอายุน้อยกว่า 1 ปี ไม่ควรใช้เวลาอยู่กับอุปกรณ์ที่มีหน้าจอเลย
6. เล่นกับลูกเยอะๆ : เพราะของเล่นที่ดีที่สุดสำหรับลูกก็คือพ่อแม่นะคะ การที่ลูกได้เล่นกับพ่อแม่นอกจากจะเป็นวิธีที่ทำให้พวกเขาไม่ติดจอแล้ว ยังทำให้ช่วยสร้างสัมพันธ์อันดีระหว่างครอบครัวได้ ทำให้สนิทสนมกันมากขึ้น และยังช่วยพัฒนาด้านสติปัญหาของลูกด้วยค่ะ ที่สำคัญทักษะทางด้านสังคม การมีน้ำใจก็ยังได้จากการเล่นกับเราอีกด้วยนะคะ
7. บอกว่าแบตหมด เพื่อเบี่ยงเบน : วิธีนี้หลายคนอาจจะเคยๆ ทำกันนะคะ แรกๆ อาจจะทำได้ แต่พอหลังๆ ลูกเริ่มจับได้ว่าโทรศัพท์ที่แม่บอกว่าแบตหมดนั้นมันหมดไม่จริง ก็เริ่มมีอาการงอแง โวยวาย ขึ้นมา แบบนี้รู้ทันทีเลยนะคะว่าลูกเรานนั้นติดจอเอามากๆ เลย เพราะฉะนั้นไม่อยากให้ลูกติด บอกว่าแบตหมดได้ แต่ต้องบอกแล้วไม่ยื่นให้เขาเล่นทีหลังด้วยนะคะ ไม่งั้นมุกนี้จะใช้ไม่ได้เลยค่ะ