ในสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ส่งผลให้ทุกคนเกิดความไม่สบายใจโดยเฉพาะกับคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูก ส้งผลให้ไม่อยากจะพาลูกออกไปที่ไหน เพราะไม่รู้เลยว่าจะมีความเสี่ยงเกิดขึ้นมากน้อยแค่ไหน แต่ถ้าถึงเวลาที่หมอนัดให้ลูกไปฉีดวัคซีน ก็อาจมีข้อสงสัยว่าจำเป็นแค่ไหนที่ต้องพาตัวเองและลูกออกไปโรงพยาบาล วันนี้เราจึงมีข้อมูลในการพาลูกไปฉีดวัคซีนในสถานการณ์โรคระบาดมาฝากค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่คุณพ่อคุณแม่นะคะ
วัคซีนที่ต้องฉีดตรงตามกำหนด
- วัคซีนสำหรับทารกแรกเกิด ได้แก่ วัคซีนบีซีจี และวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี
- วัคซีนเพื่อป้องกันการติดเชื้อภายหลังสัมผัสโรค เช่น โรคพิษสุนัขบ้า โรคบาดทะยัก โรคหัด โรคอีสุกอีใส
วัคซีนที่เลื่อนออกได้ไม่เกิน 1-2 สัปดาห์
เด็กที่อายุไม่เกิน 2-2.5 ปีต้องไปฉีดวัคซีนชุดแรก (Primary Series) เหล่านี้ ถ้าเด็กไม่ได้รับวัคซีนจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี เพราะโรคเหล่านี้จะมีอาการรุนแรงในเด็กเล็ก
- วัคซีนไวรัสตับอักเสบบี : 3 เข็มแรก
- วัคซีนคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน : เป็นวัคซีนรวมเข็มกับฮิบ (HIB) และไวรัสตับอักเสบบี 3 เข็มแรก
- วัคซีนโปลิโอ : ชนิดหยอดและฉีด
- วัคซีนนิวโมคอกคัส : ชนิดคอนจูเกต
- วัคซีนโรต้า : ชนิดหยอด
- วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี
- วัคซีนหัด หัดเยอรมัน คางทูม
- วัคซีนไข้หวัดใหญ่
วัคซีนที่เลื่อนออกได้ 2-4 สัปดาห์
- วัคซีนคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน และโปลิโอ : ครั้งที่ 4 ตอนอายุ 1.5 ปี และครั้งที่ 5 ตอนอายุ 4 ปั
- วัคซีนนิวโมคอกคัส : ชนิดคอนจูเกต ครั้งที่ 3 หรือ 4 เป็นเข็มกระตุ้นตอนอายุ 12-15 เดือน
- วัคซีนไวรัสตับอักเสบเอ : ชนิดเชื้อไม่มีชีวิต เข็มที่ 2 สามารถให้ห่างจากเข็มแรก 6-12 เดือน
- วัคซีนอีสุกอีใส : เข็มที่ 1 ให้ตอนอายุ 12-18 เดือน และเข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรก 3 เดือน ให้ตอนอายุ 2-4 ปี
วัคซีนที่เลื่อนออกไปได้มากกว่า 1 เดือน
วัคซีนที่ให้ในเด็กโตและวัยรุ่นสามารถเลื่อนออกไปได้หรือรอจนสถานการณ์การระบาดสงบลง
- วัคซีน HPV (ป้องกันมะเร็งปากมดลูก) : เริ่มฉีดได้ตั้งแต่อายุ 9-26 ปี
- วัคซีนคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน : ชนิดไร้เซลล์ที่เป็นเข็มกระตุ้น สำหรับเด็กอายุ 11-12 ปี
ข้อควรปฏิบัติเมื่อต้องพาลูกไปฉีดวัคซีน
ในเด็กเล็กไม่แนะนำให้ใส่หน้ากากอนามัย แต่ให้อุ้มลูกเข้าหาตัว ให้ใบหน้าของลูกซุกอยู่ตรงอกเรา แล้วใช้ผ้าคลุมไว้ หรือให้ลูกนั่งรถเข็นที่มีผ้าคลุมก็จะช่วยได้ในระดับนึงค่ะ
ส่วนคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ไม่ควรจับหน้ากาก และหมั่นล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ก่อนที่จะอุ้มลูก ถ้าต้องขึ้นลิฟต์ให้ฉีดสเปรย์แอลกอฮอล์ก่อนแล้วใช้ข้อศอกหรือสิ่งของอื่นๆ กดลิฟต์แทน
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.idthai.org/Contents/Views/?d=3n8U!67!1!!660!JTpCKlOW