คุณพ่อคุณแม่ทราบหรือไม่คะว่า การให้ลูกอยู่หน้าจอนานๆ อาจจะส่งผลเสียต่อพัฒนาการท
1. กำหนดเวลาให้ชัดเจน
พ่อแม่ ผู้ปกครองควรตั้งข้อกำหนดเรื่องเวลาในการใช้สื่อเทคโนโลยีให้กับลูกอย่างชัดเจน เพราะจะทำให้เด็กมีระเบียบวินัยในตนเอง ว่าควรเล่นระยะเวลาเท่าไรจึงจะเหมาะสม เช่น กำหนดให้เล่นได้วันละไม่เกิน 1 ชม. และวันหยุดอาจเพิ่มเป็น 2 ชม. เป็นต้น
2. พาลูกไปออกกำลังกาย
สร้างแรงจูงใจให้ลูกออกกำลังกาย เด็กวัยรุ่นหลายคนเลิกเล่นกีฬาช่วงวัยรุ่น คุณพ่อคุณแม่ควรสร้างแรงจูงใจให้ลูกเลือกเล่นกีฬาที่ชอบ หากเราอยากให้ลูกเล่นบาสเกตบอล แต่ลูกอยากว่ายน้ำ เราควรให้ลูกเป็นฝ่ายเลือก และช่วยให้ลูกไปถึงเป้าหมายโดยการไปรับส่งและจัดตารางร่วมกันกับลูก หากลูกชอบการดูดีวีดี คุณพ่อคุณแม่อาจสร้างแรงจูงใจให้ลูกโดยการจัดหาดีวีดี เกี่ยวกับการออกกำลังกายและฝึกทำด้วยกันทั้งบ้านเพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจที่สนุกกับลูก
3. มีข้อตกลงร่วมกัน
การมีข้อตกลงร่วมกันในการใช้เครื่องมือสื่อสาร เช่น ข้อตกลงซึ่งเป็นกฎของบ้านร่วมกันกับลูกโดยการให้รางวัลหรือลงวินัยหากทำผิดกฎ เพื่อให้ลูกรู้สึกมีส่วนร่วม ตัวอย่างเช่น ห้ามส่งข้อความออนไลน์ในระหว่างทานอาหาร ต้องทำการบ้านหรืองานบ้านให้เสร็จก่อน เป็นต้น
4. หากิจกรรมอย่างอื่นให้ลูกทำ
ใช้เวลาอยู่กับลูกและหากิจกรรม อย่างอื่นให้ลูกทำ สิ่งที่ดีที่สุดคือชวนลูกทำอย่างอื่นที่สนุก สร้างสรรค์ ออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านบ้าง ออกไปเล่นเลอะเทอะแบบที่เด็กวัยเค้าควรจะเป็น โยนลูกบอล วิ่งเล่น อ่านหนังสือ ร้องเพลง เล่นดนตรี เต้นด้วยกัน คุณพ่อคุณแม่อาจจะเหนื่อยหน่อย แต่รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอนในระยะยาว เชื่อว่าเหนื่อยตอนแรกในการปลูกฝังสิ่งที่ดี เพราะถ้าเมื่อลูกเริ่มโต เป็นวัยรุ่น มีความคิดเป็นของตัวเองค่อนข้างมาก ทำให้ไม่ค่อยฟังคุณพ่อคุณแม่ ดังนั้นสอนตั้งแต่ยังเล็กที่ดีที่สุดค่ะ
5. ทำกิจกรรมที่ได้เข้าสังคม
การที่ให้ลูกออกไปทำกิจกรรมหรือการเข้าร่วมในคลับช่วยให้ลูกได้มีโอกาสเข้าสังคม และรู้จักการปรับตัวเข้ากับคนอื่น ในกรณีที่ไม่สามารถชักจูงให้ลูกเข้าร่วมในคลับต่างๆ ได้ ให้ลูกเลือกทำกิจกรรมกับกลุ่มที่ลูกคุ้นเคยและสนใจก่อน เช่น ร่วมกิจกรรมที่โรงเรียน ทำกิจกรรมกับเพื่อนบ้านใกล้เคียงหรืออาสาสมัครทำงานที่ลูกชอบ เป็นต้น
6. เป็นตัวอย่างที่ดี
คุณพ่อคุณแม่และคนในครอบครัวต้องเป็นตัวอย่างที่ดีกับลูก โดยไม่เล่นมือถือ แท็บเล็ตให้ลูกเห็นเพราะเขาจะทำตาม แต่หากจำเป็นต้องใช้งานควรอธิบายให้ลูกเข้าใจว่าต้องใช้เพื่อทำงาน หรือเพื่อสื่อสารเรื่องสำคัญและเมื่อใช้เสร็จต้องรีบเก็บทันที เพื่อปลูกฝังความเข้าใจให้ลูกว่าเทคโนโลยีมีไว้สำหรับใช้งานเท่านั้น
สำหรับเด็กๆ ที่เพิ่งเริ่มห่างจากหน้าจอ แม้จะเป็นเรื่องที่ทำยาก แต่ขอให้คุณพ่อคุณแม่ทำใจแข็งไว้ค่ะ ควรพูดคุยกับลูกด้วยความเข้าใจ และตั้งเงื่อนไขกำหนดเวลาที่ชัดเจน เพื่อให้ลูกได้มีเวลาไปทำกิจกรรมอื่น ช่วยส่งเสริมทั้งสุขภาพร่างกายและจิตใจที่ดีได้อีกด้วยค่ะ
ที่มา – mgronline.com