การนอนหลับให้เพียงพอถือว่าสำคัญสำหรับลูกเป็นอย่างมาก แต่เมื่อลูกงอแงไม่ยอมนอนเสียอย่างนั้น คุณแม่อย่างเราจะทำได้อย่างไรบ้าง มาดูกันเลยค่ะ
ปิดไฟเมื่อถึงเวลานอน
ควรปิดไฟเมื่อถึงเวลานอน บรรยากาศในห้องนอนต้องไฟสลัว หรือมืด ยิ่งเปิดไฟจ้ามากเท่าไหร่ ลูกก็จะนอนยากมากขึ้นเท่านั้น ก่อนนอนให้คุณแม่ปรับแสงไฟในห้องให้สลัวลง อาจยังไม่ต้องถึงกับมืดจัดก็ได้เพราะเด็กบางคนอาจผวาเวลาอยู่ในความมืดในขณะที่ยังไม่หลับดีค่ะ
ไม่เปิดทีวีทิ้งไว้
บรรยากาศของห้องนอนนอกจากไฟจะสลัวๆ แล้ว ควรจะไม่มีเสียงเลยจะดีที่สุด รีบปิดทีวีทุกครั้งก่อนที่จะส่งลูกเข้านอน จะทำให้ลูกเข้านอนได้ง่ายขึ้นค่ะ
ไม่เล่นกับลูกตอนใกล้นอน
คุณแม่บางคนทำงานมาก กลับบ้านดึก มาถึงก็เลยพยายามเล่นกับลูกการเล่น แต่ถ้าเล่นใกล้เวลาเข้านอนมาก หรือเล่นจนลูกสนุกตื่นเต้นมากเกินไป อาจมีผลต่อการนอนหลับได้ ดังนั้นควรงดการเล่นกับลูกเมื่อใกล้เวลานอนค่ะ
อ่านนิทานให้ฟัง
บางทีคุณแม่อาจจะชวนเล่นจนลูกไม่ยอมนอนก็เป็นได้ ลองเปลื่ยนกิจกรรมเป็นอ่านนิทานให้ฟังสบายๆ ชวนพูดคุยให้เคลิ้มหลับไปจะดีกว่าค่ะ
เปิดเพลงช้าๆ กล่อมนอน
สาเหตุที่ทำให้ลูกไม่ยอมนอนอาจจะเพราะร่างกายไม่ผ่อนคลาย ยังตื่นตัวอยู่ ลองเปิดเพลงแนว Lullaby (เพลงกล่อม) หรือเพลงจังหวะช้าๆ ก็น่าจะช่วยให้คลื่นสมองของลูกพร้อมจะนอนมากขึ้นค่ะ
นอนและตบก้นให้หลับต่อ
ลูกตอนกอายุ 1-3 เดือนจะยังไม่ค่อยจดจำ เพราะยังเล็กมาก ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คุณแม่และคุณลูกยังต้องปรับตัวเข้าหากัน เวลาที่ลูกร้องไห้โยเยเพราะไม่ยอมนอน คุณแม่อาจใช้วิธีตบก้นเบาๆ กอดเขาในอ้อมกอด หรือนอนข้างๆ ลูกได้ แต่หลังจากที่ลูกอายุมากกว่านี้ไม่แนะนำให้ใช้วิธีเดิมๆ เพราะเด็กจะเริ่มจดจำและเข้าใจว่าก่อนนอนในทุกครั้งจะต้องมีคนอยู่ใกล้ชิดเขาเสมอค่ะ
ให้ลูกหลับบนเบาะหรือเตียงเสมอ
ไม่ควรอุ้มเดินให้ลูกหลับคาอกแล้วค่อยวางบนเบาะ ไม่เช่นนั้นวันหลังก็ต้องทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ คุณแม่บางคนอาจปวดหลังไปเลยก็เป็นได้ เพราะลูกโตขึ้น ก็หนักมากขึ้นเรื่อยๆ ลองฝึกให้ลูกหลับบนเบาะหรือเตียงเสมอจะดีที่สุดค่ะ
ปรับอากาศให้เย็นสบาย
อากาศมีผลกับการนอนเป็นอย่างมาก ยิ่งเย็นจะยิ่งหลับง่าย ปรับอากาศให้เย็นสบายก่อนนอนจะทำให้ลูกหลับได้สบายยิ่งขึ้นค่ะ
และทั้งหมดนี้เป็นเคล็ดลับง่ายๆ ที่คุณแม่สามารถนำไปปรับใช้ได้ตามความเหมาะสมค่ะ การนอนหลับให้เพียงพอเป็นสิ่งที่คุณแม่ควรใส่ใจเพราะมีผลต่อทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจลูกด้วยค่ะ
ที่มา