ช่วงนี้ฝนยังคงตกอย่างต่อเนื่อง และโรคก็ยังคงระบาดต่อเนื่องเช่นกัน โดยโรคตาแดง ที่ปีนี้พบผู้ป่วยเกือบ 60,000 รายแล้ว ดังนั้นจึงควรรักษาความสะอาดโดยการล้างมือบ่อยๆ ก่อนเอามือขยี้ตา
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคตาแดงหรือเยื่อบุตาอักเสบนั้น มักเกิดการระบาดในชุมชนที่มีคนอยู่ร่วมกัน เช่น โรงเรียน สถานรับเลี้ยงเด็ก สถานที่ทำงาน สระว่ายน้ำ ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ภูมิแพ้ ติดเชื้อ หรือถูกสารเคมี โดยโรคนี้ติดต่อด้วยน้ำตาผ่านการสัมผัสโดยตรงจากมือหรือเครื่องใช้ที่ไปสัมผัสตาของอีกคน นอกจากนี้อาจป่วยจากน้ำสกปรกกระเด็นเข้าตาได้ ไม่ติดต่อทางการมองหรือทางอากาศ หรือรับประทานอาหารร่วมกัน
จากสถานการณ์โรคตาแดงของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 19 สิงหาคม 2561 พบผู้ป่วยจำนวน 59,751 ราย โดยกลุ่มอายุที่พบมากที่สุดคือ 45-54 ปี
สำหรับอาการของโรคตาแดง คือ เริ่มมีอาการน้ำตาไหล เจ็บตา มักจะมีขี้ตาเป็นเมือกใสหรือสีเหลืองอ่อน ในตอนแรกจะเป็นกับตาข้างเดียว แต่อีก 2-3 วันถัดมาอาจลุกลามมายังตาอีกข้างหนึ่งได้ เป็นมากในช่วง 4-7 วันแรก และจะหายได้เองภายใน 1-2 อาทิตย์ โรคนี้ไม่มียารักษาโดยเฉพาะ ต้องรักษาตามอาการ
ผู้ป่วยควรหยุดอยู่บ้านอย่างน้อย 3 วันเพื่อไม่ให้โรคตาแดงลุกลามหรือติดต่อผู้อื่น พักผ่อนให้เต็มที่ งดใช้สายตา งดเล่นโทรศัพท์มือถือและถ้าใช้ทิชชู่หรือสำลีเช็ดขี้ตาควรทิ้งในถังขยะที่มิดชิด
โดยเราสามารถป้องกันโรคตาแดงได้ด้วยการล้างมือให้สะอาดก่อนที่จะขยี้หรือสัมผัสตา ไม่คลุกคลีและใช้สิ่งของร่วมกับคนที่เป็นโรคตาแดง อย่าให้แมลงวัน แมลงหวี่มาตอมตา ที่สำคัญจะต้องรักษาความสะอาดของร่างกาย ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่นและไม่ควรว่ายน้ำในช่วงตาแดงระบาด
อ้างอิงจาก