วิธีการเลี้ยงลูกสำหรับแต่ละครอบครัวนั้นย่อมแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นจากประสบการณ์ในชีวิตที่หล่อหลอมให้เราเป็นพ่อหรือแม่ในวันนี้ หรือข้อดีและข้อเสียจากการเลี้ยงดูที่เราได้รับมาตั้งแต่อย่างเด็ก บ้างอาจจะใช้จุดแข็งตัวเองในการตัดสินใจว่าควรดูแลลูกอย่างไรดี แต่อย่างหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ ก็คือความหลากหลายในการเลี้ยงลูกของทุกครอบครัวนั่นเอง และไม่มีวิธีไหนที่ผิดหรือถูก
นำพามาสู่หัวข้อของเราในวันนี้ Gentle Parenting หรือการเลี้ยงลูกอย่างอ่อนโยนนั่นเองค่ะ หลักการการเลี้ยงลูกด้วยวิธีอ่อนโยนนั้นมาจากหนังสือ “The Gentle Parenting Book” ของ Sarah Ockwell-Smith ซึ่งมาจากความเชื่อที่ว่าการเลี้ยงดูอย่างอ่อนโยนนั้นจะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ลูกด้วยการให้ตัวเลือก แทนที่จะตีกรอบด้วยกฎและความคาดหวังต่างๆ
แต่ความอ่อนโยนไม่ได้แปลว่าหละหลวม เราไปดูกันดีกว่าค่ะว่าถ้าอยากเลี้ยงลูกด้วยวิธี Gentle Parenting ต้องเตรียมตัวอย่างไรกันบ้าง
หลักการของ Gentle Parenting
- เข้าใจว่าลูกเป็นคนอย่างไร
- พยายามเอาใจเขามาใส่ใจเรา
- เคารพในการตัดสินใจของเขา
- ตั้งขอบเขตอย่างชัดเจน
แทนที่จะเลี้ยงลูกด้วยการลงโทษหรือการควบคุม การเลี้ยงลูกด้วยวิธีอ่อนโยนนั้นจะเน้นไปที่การพูดคุย เน้นความสัมพันธ์และความสม่ำเสมอ (connection, communication, consistency) และสิ่งสำคัญที่ขาดไปเลยไม่ได้ก็คือความอดทน ที่จะช่วยให้การเลี้ยงดูด้วยวิธีนี้ได้ผลดีที่สุดค่ะ
สิ่งที่ควรมีใน Gentle Parenting
- การเอาใจใส่: พยายามใส่ใจในความต้องการและความรู้สึกของลูก ทุกการกระทำของเขามีเหตุผลเสมอ พยายามคิดว่าเขาต้องการอะไร และถามเขาหากลูกมีอายุมากพอ แสดงให้เขาเห็นว่าสิ่งสำคัญสำหรับเขา ก็คือสิ่งสำคัญสำหรับเราเช่นกัน
- เคารพในตัวลูก: เด็กก็ไม่ต่างจากผู้ใหญ่ ที่มีความชอบและความรู้สึกของตัวเอง ปฏิบัติกับลูกให้เหมือนกับที่เราอยากให้คนอื่นปฏิบัติกับตัวเรา อธิบายให้เขาเข้าใจแทนที่จะติเตียนและสั่งสอนโดยไม่จำเป็น
- เข้าใจในตัวลูก: ด้วยสมองของเด็กที่ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนา เด็กจึงไม่สามารถทำตามคำสั่งได้เต็มที่หากเปรียบเทียบกับการมอบคำสั่งให้ผู้ใหญ่ ทุกครั้งที่เขางอแง ย่อมมีเหตุผลเบื้องหลังเสมอ แต่ไม่ใช่ว่าต้องตามใจเขาเสียทีเดียว หากความต้องการของเขานั้นไม่สมควร ก็ควรอธิบายให้เขาเข้าใจค่ะ เข้าใจว่าเด็กก็คือเด็ก ไม่ควรตั้งความหวังสูงจนเกินอายุของเขาเอง
- ขอบเขตที่ชัดเจน: ไม่ต้องกลัวที่จะตั้งขอบเขตให้แก่ลูกของเรา แต่ควรคำนึงว่าไม่ควรตั้งกฎเกณฑ์มากจนเกินไป ขอบเขตคือการสอนให้ลูกทำในสิ่งที่ส่งผลดีต่อชีวิตประจำวัน ยกตัวอย่างเช่นการตั้งเวลาให้เข้านอนเร็ว เพื่อที่เขาจะได้ตื่นเช้าอย่างสดใส ไปโรงเรียนโดยไม่ต้องรีบร้อน ขอบเขตนั้นควรทำให้เขารู้สึกปลอดภัย และรู้ว่าสิ่งใดที่เขาควรทำค่ะ
ข้อดีและข้อเสียของการเลี้ยงลูกแบบ Gentle Parenting
การเลี้ยงลูกอย่างอ่อนโยนนั้นนับเป็นอีกหนึ่งวิธีที่เพิ่งถูกกำหนดมาไม่นานมานี้ เพราะฉะนั้นยังมีการศึกษารองรับน้อย แต่สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้ปกครองและเด็กนั้นส่งผลให้เด็กเติบโตมาอย่างมีความสุข แข็งแรงทางใจ และมีจุดยืนของตัวเอง
การเลี้ยงดูด้วยความเข้าใจนั้นจะส่งเสริมให้เขามีการจัดการอารมณ์ตัวเองที่ดี มีความฉลาดทางอารมณ์
อย่างไรก็แล้วแต่ การเลี้ยงดูอย่างอ่อนโยนนั้นอาจฟังดูนุ่มนวล แต่ก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด คุณพ่อคุณแม่ต้องมีระเบียบวินัยในการใช้ชีวิตค่อนข้างสูง และพร้อมที่จะตอบสนองความต้องการของเด็ก คอยสังเกตสถานการณ์รอบตัวเสมอ และปฏิบัติต่อลูกอย่างสม่ำเสมอ
การเลี้ยงดูอย่างอ่อนโยนนั้นอาจทำให้เด็กมีระเบียบวินัยน้อยกว่าเด็กที่ถูกเลี้ยงดูด้วยวิธีอื่น ๆ ด้วยการเลี้ยงดูอย่างอ่อนโยนนั้นขึ้นอยู่กับตัวเด็กที่ต้องมีความมุ่งมั่นที่จะทำสิ่งที่ถูกอยู่มาก และการตัดสินใจของเขาในบางครั้งอาจนำพาผลตอบรับที่ร้ายแรงได้ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ควรดูพื้นนิสัยของลูกให้ดี แล้วปรับวิธีการเลี้ยงให้เหมาะกับเขาค่ะ