โรคหัด เป็นโรคที่พบได้บ่อยในเด็กเล็ก อาการที่พบบ่อยของโรคหัด คือไข้ออกผื่น โดยมักมีไข้สูง 3-4 วัน แล้วเริ่มมีผื่นนูนแดงขึ้นจากหลังหูแล้วลามไปยังใบหน้า กระจายไปตามลำตัว แขน ขา จากนั้นไข้จะลดลงและผื่นค่อยๆ จางหายไป
ส่วนภาวะแทรกซ้อนที่พบได้คือ คออักเสบ หลอดลมอักเสบจนถึงปอดบวม หูชั้นกลางอักเสบ เยื่อบุตาอักเสบ ท้องเสีย และสมองอักเสบซึ่งเป็นภาวะที่รุนแรงที่สุด
จากสถานการณ์โรคระบาดในประเทศไทย ในปี 2562 พบผู้ป่วยไข้ออกผื่นหรือสงสัยหัด 7,470 ราย เสียชีวิต 21 ราย (1 มกราคม–18 ตุลาคม 2562) จังหวัดที่พบมาก ได้แก่ นราธิวาส ปัตตานี ตาก ภูเก็ต และชลบุรี
ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค จึงได้มีแผนการควบคุมการระบาดของโรคหัด โดยมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดให้แก่เด็กอายุ 1-12 ปี ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย
สำหรับวัคซีนที่ให้จะเป็นวัคซีนป้องกันโรคหัด-คางทูม-หัดเยอรมัน (MMR) แก่เด็กอายุ 1-7 ปี และให้วัคซีนป้องกันโรคหัด-หัดเยอรมัน (MR) แก่เด็กอายุ 7-12 ปี จะเริ่มดำเนินการทั่วประเทศ ในวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้
อ้างอิงจาก
https://ddc.moph.go.th/riskcomthai/news.php?news=10007&deptcode=riskcomthai&news_views=454