Parents One

หลอกลูกให้กลัวบ่อยๆ ยิ่งส่งผลร้ายกับลูกจริงหรือไม่

ตอนเด็กๆ เรามักจะได้ยินผู้ใหญ่พูดเสมอเวลาที่เราดื้อไม่ยอมทำตามคำสั่ง เช่น ดื้อดีนักเดี๋ยวให้หมอจับฉีดยาเลย หรือระวังผีหลอกนะ จนตอนนี้โตขึ้นมาเราก็ยังใช้วิธีนี้หลอกเด็ก ลูกๆ หลานๆ กันต่อมา

ซึ่งรู้หรือไม่ว่าการหลอกลูก หรือขู่ให้เขากลัวนนั้นเป็นวิธีที่ผิด และความกลัวก็จะติดตัวเขามาจนโตจนแก้ไม่หาย งั้นเรามาดูวิธีการที่ถูกต้องกันดีกว่าหากเด็กๆ ไม่ยอมทำตามต้องทำอย่างไร

คำพูดที่พบบ่อยในการหลอกเด็ก

ผลกระทบต่อเด็ก 

 

คุณพ่อคุณแม่ต้องทำอย่างไร จึงจะถูกต้อง

ยังไม่สายเกินไปนะคะ หากคุณพ่อคุณแม่คนไหนที่เคยขู่หรือหลอกลูกไปแล้ว เรายังสามารถปรับพฤติกรรมและสร้างความคิดใหม่ๆ ให้กับลูกได้ไม่สายเกินไปค่ะ มาดูกันเลยว่ามีวิธีไหนบ้าง

เด็กยังไงก็คือเด็ก ทุกครั้งที่เราไม่ไหวแล้วจริงๆ หรือลูกทำในสิ่งที่เกินไป เราต้องตั้งสติให้มากๆ ให้คิดเสมอว่าถ้าเราพูดไปแบบนั้น แล้วมีผลยังไงกับลูกได้บ้าง ไม่คิดเพียงแค่ว่าให้เขาหยุดพฤติกรรมที่เราไม่ชอบให้จบๆ ไป หากอยากให้ลูกได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีเหตุมีผล เราต้องคอยเตือนสติตัวเองอยู่เสมอว่าจะว่าหรือบอกลูกยังไงให้ถูกนะคะ มิเช่นนั้นจะกลายเป็นเด็กที่โตเป็นแล้วกลัวไปหมดซะทุกอย่างเลยค่ะ

 

คุณพ่อคุณแม่ต้องสอนเขาด้วยความเข้าใจและใจเย็น เช่น เมื่อถึงเวลานอนแล้วเขาไม่ยอมเข้านอน แทนที่เราจะพูดกับลูกว่า “ไม่รีบนอนเดี๋ยวผีมาหลอกนะ” ให้เราเปลี่ยนวิธีการใหม่เป็น ” ลูกต้องรีบนอนได้แล้วนะคะ เพราะพรุ่งนี้เราต้องตื่นไปโรงเรียนแต่เช้าจะได้ทันเวลา ” เป็นต้น เขาก็อาจจะงอแง มีท่าทีเล่นตัวสักหน่อย เราก็ชวนลูกเข้านอนพร้อมกับเราไปเลยก็ยังได้ค่ะ

 

เด็กๆ มักจะมีการเลียนแบบพฤติกรรมต่างๆ จากผู้ใหญ่หรือคนใกล้ตัวเสมอ โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ และการเป็นตัวอย่างที่ดีในการดำเนินชีวิตก็เป็นวิธีหนึ่ง ที่ช่วยให้เขาได้ซึมซับและเรียนรู้จากเราได้อย่างมาก ยิ่งถ้าเราเป็นคนมีเหตุผล บอกว่าสิ่งนี้ดีหรือไม่ดีเพราะอะไร อะไรที่ต้องกลัวและอะไรที่ไม่ต้องกลัวเพราะอะไร เช่น เมื่อพูดถึงเรื่องงูกับผี เราก็ต้องคุยกับลูกว่าเราควรกลัวงูมากกว่าผีนะลูก เพราะงูเป็นสัตว์ที่มีพิษมันอาจจะทำร้ายเราถึงชีวิตได้ ส่วนผีนั้นเป็นสิ่งที่เรามองไม่เห็น ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีจริงหรือไม่มีจริงนะลูก แต่ถึงจะมีจริงก็ไม่มีเหตุอะไรที่เขาจะมาทำร้ายเรานะคะ เป็นต้น

 

ในเมื่อเราแก้ไขสิ่งต่างๆ ไปในทางที่ถูกต้องแล้ว คนในบ้านก็ต้องทำเช่นนั้นด้วยนะคะ ไม่ใช่ว่าพอกลับไปถึงบ้านก็ยังมีคุณปู่ คุณย่า ที่ยังหลอกเด็กๆ อยู่ คุณพ่อคุณแม่เองต้องเป็นคนอธิบายให้ท่านฟังว่า เหตุใดควรหลอกหรือไม่ควรหลอก แก้ไขความเข้าใจผิดให้หมดไป แล้วปรับมาเป็นการใช้เหตุและผลแทนการหลอกลูกแทนค่ะ

 

หากอยากให้ลูกเป็นเด็กที่เติบโตมาแล้วเป็นคนสมเหตุสมผลแล้วละก็ คุณพ่อคุณแม่เองต้องคอยดูแลและใช้เหตุผล และข้อมูลที่ถูกต้องในการสอนเด็กๆ นะคะ เขาจะได้พัฒนาการทางด้านจิตใจและอารมณ์ที่ดี และเป็นคนมีเหตุมีผล เมื่อเขาเติบโตไปนั้นเองค่ะ มาค่ะมาช่วยกันปลูกฝังนิสัยให้เด็กๆ เลิกกลัวในสิ่งที่ไม่น่ากลัวกันเสียทีนะคะคุณพ่อคุณแม่

ขอบคุณข้อมูลจาก : Dad Mom and Kids, rakluke, women.mthai, นิตยสาร Modern Mom