fbpx

Checklist อาการซึมเศร้าหลังคลอดที่คุณแม่ควรรู้

Writer : nunzmoko
: 9 สิงหาคม 2561

ช่วงเวลาหลังคลอด น่าจะเป็นช่วงเวลาแห่งความภูมิใจ ความตื่นเต้น และน่ายินดี แต่ไม่น่าเชื่อว่า 40- 80% ของผู้หญิงหลังคลอดจะมีอาการซึมเศร้า เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงอย่าฉับพลัน ทั้งทางอารมณ์และทางกายภาพ แต่จะอาการอยู่ประมาณ 7-10 วันเท่านั้น ไม่เกิน 2 สัปดาห์ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ คุณแม่ที่ใกล้คลอดหรืออยู่ในช่วงหลังคลอด ลองเช็คลิสต์กันดีกว่าว่ามีอาการอะไรบ้างที่บ่งบอกว่าคุณแม่กำลังอยู่ในภาวะซึมเศร้า รวมถึงจะมีวิธีป้องกันอาการนี้อย่างไรค่ะ

1. ร้องไห้โดยไม่มีสาเหตุ

ภายหลังคลอด ร่างกายจะถูกกระตุ้นด้วยระดับฮอร์โมนที่ลดลงตามธรรมชาติอย่างทันทีทันใด นอกจากนั้นยังมีความรู้สึก “ว่างเปล่า” หลังจากคลอด การที่ต้องดูแลเด็กทารกทั้งกลางวันและกลางคืน ความรับผิดชอบแบบใหม่ของคุณซึ่งเป็นแม่ จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะเข้าใจว่าทำไมคุณแม่ถึงรู้สึกหดหู่ จนร้องไห้โดยไม่มีสาเหตุ

2. หงุดหงิดง่าย

หงุดหงิดง่าย วิตกกังวลกับเรื่องทุกอย่าง แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม ไม่ว่าจะเรื่องงานบ้าน เรื่องสามี และเรื่องอื่นๆ

3. คิดถึงตัวเองในแง่ลบ

มีความรู้สึกไร้ค่า ไม่ชอบใจตัวเอง คิดถึงตัวเองแต่ในแง่ลบ เพราะคุณแม่หลังคลอดต้องปรับตัวหลายอย่าง ทั้งสุขภาพร่างกายและการดูแลลูกน้อยที่เพิ่งเกิด คุณแม่เกือบทุกคนที่ตั้งครรภ์ต้องเจอภาวะอ้วนขึ้นหลังคลอดลูก ซึ่งอาจทำให้เกิดความวิตกกังวล คิดว่าตัวเองอ้วน ไม่สวยสามีจะไม่รัก เกิดอาการน้อยใจจนกลายเป็นภาวะซึมเศร้าได้

4. เหนื่อยล้า อ่อนเพลีย

ร่างกายเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไร รู้สึกภายในจิตใจว่างเปล่า ความสนใจ ความรู้สึกสนุก และความพึงพอใจในการทำกิจวัตรต่างๆ ที่เคยชอบทำ ลดลงอย่างมาก

5. หวาดกลัวเรื่องต่างๆ

มีความหวาดกลัวในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับความรับผิดชอบไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม เช่น ความกังวลเรื่องลูก เรื่องสุขภาพหรือเรื่องงานก็ตาม การได้พูดหรือปรึกษาคนใกล้ชิดจะทำให้คุณแม่สบายใจขึ้นค่ะ

6. นอนไม่หลับ

มีอาการนอนไม่หลับ หรือนอนมากตลอดวัน ความคิดความอ่าน สมาธิ ความสามารถในการจดจ่อสนใจสิ่งที่ทำลดลง จนบางทีไม่สามารถทำงานได้

 

วิธีป้องกันและรักษาอาการซึมเศร้าหลังคลอด

• สามี คือส่วนสำคัญ ควรมีการวางแผนปรึกษาการดำเนินชีวิต หลังลูกน้อยคลอดออกมาแล้ว โดยตกลงกันไว้ก่อนว่า ใครต้องทำอะไรบ้าง เข้ามามีส่วนร่วมช่วยเหลือแบ่งเบาภาระของภรรยา คอยถามและเอาใจใส่ภรรยาต้องการ หรือไม่ต้องการอะไร

ดูแลและเอาใจใส่ตัวเอง คุณแม่อย่าเป็นกังวลในสิ่งที่ไม่ควรกังวล เช่น ถ้าบ้านจะสกปรก หรือรกไปบ้าง ก็ให้ใจเย็นๆ และค่อยๆ ทำไปทีละน้อย ต้องปล่อยวางบ้าง อย่าทำให้ตัวเองต้องเครียดไปเสียทุกเรื่อง

• หาคนช่วยเหลือ และหากำลังใจ อาจให้คนในครอบครัว คุณพ่อคุณแม่ เพื่อน หรือผู้ให้บริการดูแลเด็ก เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลลูก หรือช่วยทำงานบ้าน เตรียมอาหาร หรือหาที่พึ่งทางใจ เช่น โทรหาเพื่อนและสมาชิกในครอบครัวเพื่อขอกำลัง

• ระบายความรู้สึกบ้าง ถ้าคุณแม่รู้สึกหงุดหงิด หรือรู้สึกอึดอัดใจเรื่องอะไร อย่าเก็บไว้คนเดียว ควรพูดเพื่อระบายความรู้สึกที่อัดอั้นนั้นออกมา กับใครสักคนที่วางใจได้ ถ้าไม่มีที่ระบาย คุณแม่อาจเขียนระบายความรู้สึกลงในกระดาษ แล้วฉีกทิ้งก็ได้ จะทำให้รู้สึกสบายใจ และมีอารมณ์ที่ดีขึ้น

เลิกวิตกกังวล อาการเจ็บปวด สับสน อ่อนเพลียในช่วงหลังคลอดเป็นเรื่องธรรมดา คุณแม่ไม่ควรเป็นกังวลมากจนเกินไป เมื่อรู้ตัวว่ามีอาการซึมเศร้า พยายามดูแลรักษาตนเอง อดทน รู้จักผ่อนคลาย และมีความเชื่อมั่นว่าจะต้องหายเป็นปกติได้ ไม่ว่าจะต้องใช้เวลานานเพียงใด

• รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ผักผลไม้สด รวมถึงน้ำผลไม้คั้นสด เป็นแหล่งวิตามินที่ช่วยให้คุณแม่รู้สึกสดชื่นได้ อีกทั้งยังช่วยให้ระบบต่างๆ ของร่างกาย ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรลดอาหารพวกขนมหวาน หรือของกินจุบจิบ และไม่ควรอดอาหารเพื่อลดน้ำหนัก

• ออกกำลังกายเบาๆ คุณแม่อย่ามัวหมกมุ่นอยู่กับการเลี้ยงลูกมากจนเกินไป ควรหาเวลาออกไปเดินเล่นกับลูก หรือออกกำลังกายเบาๆ นอกบ้านบ้าง การออกกำลังกาย จะช่วยให้คุณแม่รู้สึกกระปรี้กระเปร่า และมีอารมณ์แจ่มใสยิ่งขึ้น

• พักผ่อนให้เพียงพอ ในช่วงกลางวัน คุณแม่ควรพยายามงีบหลับบ้าง และหาคนมาช่วยดูแลลูกในตอนกลางคืนด้วย เพื่อที่จะได้มีเวลาพักผ่อนมากขึ้น ทำให้รู้สึกสดชื่น เพราะร่างกายที่อ่อนเพลีย จะทำให้อาการซึมเศร้าที่เป็นอยู่เลวร้ายลง

อย่างไรก็ดี อาการภาวะซึมเศร้าหลังคลอดหรือ “Baby Blue” ถ้าหากเป็นนานกว่า 2 สัปดาห์ แนะนำว่าควรพบจิตแพทย์ เพื่อตรวจและวินิจฉัยต่อไป เพราะมีความเป็นไปได้ว่า อาจจะเป็นโรคซึมเศร้าหลังคลอด (Postpartum depression) ซึ่งต้องได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีต่อไปค่ะ

ที่มา – www.gedgoodlife.com

Writer Profile : nunzmoko

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



5 เคล็ดลับทำให้ลูกชอบกินผัก
เด็กอายุ 2-5 ขวบ
Update
ไลฟ์สไตล์ ไลฟ์สไตล์
เคยกลับบ้านมาแล้วกรี๊ดลั่นบ้านเพราะเจ้าตัวแสบไปวิ่งเล่นเลอะเทอะกันไหมคะ ? หรือแต่งตัวลูกอย่างดีไปทานข้าวนอกบ้าน แต่คุณลูกก็ทำซอสหกใส่ ไอติมหล่นไปเป็นก้อน เละทั้งตัว วันนี้ ParentsOne มีเสื้อเด็กที่เจ๋งมากๆ จาก GQ : the good day lab™ มาลองรีวิวให้ได้ชมกันค่ะ 🛒 ช้อปเลยที่ -> https://gqsize.link/bZT7Sx แกะกล่อง GQ : the good day lab™ เสื้อเด็ก ฟีเจอร์เพียบ คุณภาพ GQ ขึ้นชื่อว่า GQ ก็มั่นใจได้เรื่องคุณภาพค่ะ ผ้านุ่ม เบาบาง เหมาะกับอากาศเมืองไทย ใส่วิ่งสบายๆ ที่แปลกตาคือเป็นเสื้อที่ไม่มีป้ายแท็กค่ะ ทั้งด้านหลังคอเสื้อ หรือข้างใน ไม่ต้องห่วงว่าจะเคืองหรือคันเลย กระดุมแข็งแรงเอามากๆ ใช้แรงผู้ใหญ่ดึงแรงๆ ก็ไม่มีปัญหาเลย ไฮไลท์สำคัญที่คุณแม่แทบกรี๊ด คือเป็นไม่เปื้อนค่าาาา เทน้ำ เทนมใส่เสื้อ ไม่เปียกเลย สะบัดสองที หายปกติ ซึ่งถ้าใครเคยเห็นโฆษณา GQ ที่เสื้อเชิ้ตขาวไปทำงานคุณพ่อ โดนกาแฟหกใส่ แต่ผ้าไม่เปื้อนเลย เทคโนโลยีผ้าสะท้อนน้ำ ตอนนี้มาอยู่ในเสื้อเด็กแล้ววววว ทีมงานทดสอบเทน้ำสีผสมอาหาร นม หรือแม้แต่ซอสมะเขือเทศลงบนเสื้อ ก็ไม่เปื้อนค่ะ ไม่น่าเชื่อมากๆ ข้อดีที่สุดของผ้าแบบนี้ คือทำให้ชีวิตคุณแม่สบายขึ้นมาก พาลูกไปเที่ยว วิ่งเล่นสนามหญ้า พาไปทานก๋วยเตี๋ยว หรือให้ทานอะไร ก็ไม่ต้องกลัวเสื้อสวยๆ เลอะ แถมประหยัดเวลาซักผ้าด้วย ไม่ต้องมาคอยแช่ผ้าให้คราบมันออกแบบสมัยก่อน สำหรับเสื้อเด็ก the good day lab™…
8 ธันวาคม 2566

anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save