เรื่องของความคิดเป็นสิ่งที่ไม่สามารถห้ามได้เลยว่าใครจะคิดยังไง ขนาดครอบครัวเดียวกันอยู่ด้วยกันทุกวันยังมีความคิดเห็นไม่ตรงกันเลยจริงไหมคะ ?
ยิ่งลูกโตขึ้น หลายๆ อย่าง หลายๆ เรื่อง ก็มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันไป เพราะเด็กๆ มักจะคิดว่าเขาโตพอที่จะรับผิดชอบตัวเองได้และมีความคิดเป็นของตัวเองมากขึ้น ซึ่งจริงๆ แล้วหัวใจสำคัญของการคุยกันยังไงไม่ให้ทะเลาะก็ง่ายนิดเดียวค่ะ วันนี้ Parents One จะพาคุณพ่อคุณแม่ไปดูวิธีการคุยอย่างไรไม่ให้ทะเลาะกัน เมื่อลูกคิดว่าครอบครัวไม่เข้าใจ จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ
เมื่อลูกคิดว่าครอบครัวไม่เข้าใจ พ่อแม่ต้อง…
1.ต้องเข้าใจว่า ต่างคนต่างได้รับข้อมูลมาอย่างหลากหลาย
โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต คุณพ่อคุณแม่เองก็ต้องเข้าใจด้วยว่าเราและลูกต่างก็ได้รับข้อมูลข่าวสารมาอย่างหลากหลายที่หลากหลายแห่ง และมีประสบการณ์ชีวิตที่แตกต่างกัน ยังไงก็ลองรับฟังความคิดเห็นเข้าเสียก่อน ก่อนที่จะตัดสินใจนะคะ
2.ตั้งสติ คุยด้วยเหตุและผล
เพราะการคุยไม่ใช่การทะเลาะกัน ยิ่งทะเลาะก็ไม่ได้ช่วยให้ได้ข้อสรุปหรือสถานการณ์ที่ดีขึ้นจริงไหมคะ ถ้าคุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกรับฟังหรือต้องการในสิ่งที่ต้องการ ก็ควรที่จะต้องตั้งสติ ใจเย็น และคุยด้วยเหตุผล พยายามแสดงจุดยืนและรับฟังเขาบ้าง หรือถ้าคุยกันแล้วเหตุผลของลูกดีกว่าก็ต้องยอมรับผลของความผิดพลาดของความคิดเห็นนั้นด้วยนั่นเอง
3.ไม่คุยในลักษณะบังคับ
คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรบังคับลูกให้คิดตามเรา หรืออีกในแง่หากลูกพยายามคุยเชิงบังคับให้คุณพ่อคุณแม่เปลี่ยนไปคิดเหมือนเขา เราอาจจะบอกเขาว่า การคิดที่แตกต่างกันเป็นเรื่องธรรมดา เราจะไม่บังคับกัน และเราทั้งสองฝ่ายจะฟังความคิดเห็นของกันและกันเพื่อนำไปคิดพิจารณา เมื่อเป็นเช่นนั้นต่างฝ่ายต่างคิดและนำไปหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อคุยกันจะเป็นทางที่ดีมากขึ้นกว่านั่นเองค่ะ
4.ใช้คำพูดที่ดี
ในการพูดคุยกันหากทั้งสองฝ่ายเกิดความคิดเห็นไม่ตรงกัน แน่นอนว่าทุกฝ่ายก็อยากที่จะให้อีกคนนั้นมาอยู่พวกเดียวกัน ทำให้บางครั้งก็อาจจะพูดคุยกันด้วยอารมณ์มากกว่าเหตุผลได้ ซึ่งมันยิ่งทำให้เกิดการทะเลาะกันเกิดขึ้นได้ และยิ่งไม่เข้าใจกันไปกันใหญ่ค่ะ แต่ถ้าเปลี่ยนคำพูดในทางที่ดีขึ้น การพูดคุยก็จะดูไม่หนักหนา และสามารถคุยกันได้ง่ายกว่าการพูดคุยกันแบบใส่อารมณ์ และยังทำให้รู้สึกด้วยว่า ถึงแม้จะมีความคิดเห็นที่แตกต่าง แต่การพูดคุยที่ใช้คำพูดที่ดีก็ย่อมไม่เกิดการทะเลาะกันได้มากกว่าด้วยค่ะ
5.ปล่อยวางให้มากขึ้น
ยิ่งถ้าหากลูกโตขึ้นอยู่ในช่วงวัยรุ่น หลายๆ เรื่องคุณพ่อคุณแม่เองอาจจะต้องลองปล่อยวางให้มากขึ้น ให้เขาได้ลองเรียนรู้ด้วยตัวเอง อันไหนที่ควบคุมได้ก็ควบคุมเท่าที่จำเป็นจริงๆ เพื่อให้ลูกได้ลองในสิ่งที่เขาคิดว่าถูก ถ้ามันผิดเขาก็จะได้เรียนรู้และเข้าใจด้วยตัวเองอย่างแท้จริงค่ะ
6.ห้ามยกเรื่องกตัญญู หรืออกตัญญูออกไปก่อน
เพราะการที่ลูกกับพ่อแม่ไม่เข้าใจซึ่งกันและกันนั้น ไม่เกี่ยวกับความดีหรือความชั่วหรือเรื่องกตัญญู ดังนั้นเวลาคุยกันแล้วความคิดเห็นต่างกัน บางคนมักจะบอกลูกว่า ถ้าเป็นแบบนี้ตัดพ่อตัดลูกกันไปเลย ซึ่งมันไม่เกี่ยวข้องกัน อยากให้ยกเรื่องนี้ออกไปก่อน แล้วกลับมามองปัญหาว่า ทำไมลูกกับเราถึงไม่เข้าใจกัน มันเกิดขึ้นจากสาเหตุอะไรกันแน่
อ้างอิงจาก : Tipsdd.com, Love.campus-star.com, Sanook.com, เข็นเด็กขึ้นภูเขา