เทคโนโลยี Face Recognition หรือ เทคโนโลยีจดจำใบหน้านี้ มีการใช้อย่างแพร่หลายในการทำงานๆ ส่วนต่างๆ ของประเทศจีน เช่น การตรวจจับใบหน้าคนร้ายตามสถานีรถไฟ ซึ่งใช้งานได้ดีทีเดียว ล่าสุดเทคโนโลยีนี้ได้ถูกนำมาใช้ในโรงเรียน เพื่อให้จัดเก็บข้อมูลของนักเรียนได้แม่นยำยิ่งขึ้น
ในงาน China Beijing International High-tech Expo ครั้งที่ 21 ณ กรุงปักกิ่ง ได้มีการจัดสาธิตระบบห้องเรียนอัจฉริยะให้กับผู้ร่วมงานได้รับชม แสดงให้เห็นการทดลองใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้า หรือ Face Recognition กับห้องเรียนของโรงเรียนแห่งหนึ่งในหางโจว
โดยนักเรียนทุกคนในห้อง จะถูกตรวจจับใบหน้าทุกๆ 30 วินาที เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปวิเคราะห์ถึงอารมณ์ของเด็กนักเรียนด้วย ทั้งอารมณ์โกรธ, มีความสุข, สับสน หรือ ไม่พอใจ อีกทั้งยังตรวจสอบพฤติกรรมได้ อย่างเช่น การอ่าน, การเขียน, การยกมือ และ การนอนหลับบนโต๊ะ
นอกจากการเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนแล้ว เทคโนโลยีนี้ยังสามารถใช้แทนบัตรประจำตัว การบันทึกเข้าเรียน สามารซื้ออาหารในโรงอาหารได้โดยไม่ต้องใช้บัตร รวมไปถึงการเข้าใช้งานห้องสมุด อย่างไรก็ตาม ยังมีความกังวลด้านความเป็นส่วนตัวสำหรับการนำเทคโนโลยี Face Recognition มาใช้ในโรงเรียน แต่ทางโรงเรียนให้ความมั่นใจว่า จะไม่มีการบันทึกภาพในห้องเรียน ส่วนข้อมูลต่างๆ จะจัดเก็บไว้ใน Local Server ไม่เก็บไว้ในระบบ Cloud
ซึ่งเทคโนโลยีจดจำใบหน้านี้ค่อนข้างมีประโยชน์อย่างมาก โดยเฉพาะในโรงเรียนประถม หลังจากที่มีการใช้ความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นในโรงเรียน การมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีอย่างเทคโนโลยีนี้ก็น่าจะได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะในปักกิ่ง โรงเรียนประถมทั้งหมดได้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อรักษาความปลอดภัย และบางแห่งก็เชื่อมการแสดงภาพวงจรปิดไปยังสถานีตำรวจท้องถิ่นอีกดวย
อ้างอิงจาก