เมื่อราวๆ 2 ปีที่แล้ว ที่สหรัฐอเมิกาและแคนาดาได้เกิดวิกฤติโรคอาหารเป็นพิษจากผักกาดหวาน (romaine lettuce) ด้วยเชื้อ E.coli ซึ่งในตอนที่เกิดโรคขึ้นก็ได้มีการเรียกเก็บผักกาดแก้วจำนวนมหาศาล จากทั่วอเมริกาและแคนาดามาทำลายทิ้ง แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อสุขภาพของคนที่ได้รับเชื้อในครั้งนั้นยังคงมีอยู่
โดยผู้ที่ได้รับความเสียหายคือเด็กชายชาวอเมริกัน ที่ในขณะนั้นอายุราวๆ 2 ขวบ ครอบครัวของเขาได้พาไปเที่ยวที่ดิสนีย์แลนด์ แคนาดา แลได้ไปกินแฮมเบอร์เกอร์จากร้านหนึ่งที่อยู่ในดิสนีย์แลนด์ ผลคือเด็กชายติดเชื้อ E.coli O157:H7 ที่ปนเปื้อนมาในผัก
จากการติดเชื้ออีโคไลทำให้เขามีอาการติดเชื้อในกระแสเลือดรุนแรง แม้จะรอดชีวิตมาได้ แต่ก็มีความเสียหายเกิดขึ้นที่ไตและสมองของเด็กชาย รวมไปถึงทำให้เขาเดินไม่ได้ พูดไม่ได้และมองไม่เห็นมาจนถึงปัจจุบัน
ซึ่งเชื้อ E.coli O157:H7 ได้มีการตรวจพบว่าอยู่ในขี้วัว และสาเหตุที่ทำให้เกิดการระบาดขึ้นในขณะนั้นคือการที่ฟาร์มผักที่ส่งออกผักกาดแก้วนั้น อยู่ข้างๆ กับปศุสัตว์เลี้ยงวัว เป็นจำนวนกว่าแสนตัว และได้มีการใช้ขี้วัวมาทำปุ๋ย จึงอาจเกิดการปนเปื้อนของเชื้อได้เมื่อไม่ทำความสะอาดให้ดีก่อนรับประทาน
สำหรับในประเทศไทยนั้นถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีการแพร่ระบาดของเชื้อ E.coli ที่รุนแรง แต่ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะเราอาจพบการติดเชื้อของเชื้ออีโคไลผ่านพืชผักที่ไม่สะอาด หรือมีสารตกค้างจากปุ๋ยคอก ในดิน หรือจากแหล่งน้ำธรรมชาติได้
ดังนั้นจึงควรเลือกซื้อผักผลไม้จากผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ และล้างทำความสะอาดให้ดี เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้ออีโคไลจากอาหาร
อ้างอิงจาก
- https://www.cbc.ca/news/marketplace/marketplace-lettuce-contamination-1.5952161
- https://www.sanook.com/health/10829/
- https://www.facebook.com/DramaAdd/posts/10159608190338291