เทคนิคจัดกล่องข้าวอย่างไรให้สมบูรณ์แบบ

ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเทอม, ออกไปทำกิจกรรม สิ่งที่บางบ้านจะขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือข้าวกล่องแสนวิเศษที่คุณพ่อหรือคุณแม่เป็นคนเตรียมให้กับเจ้าตัวเล็กพกพาไปทานเป็นมื้อกลางวันใช่ไหมคะ ยิ่งบ้านไหนรักและชอบในการทำอาหารแล้วก็ยิ่งอยากจัดเป็นเซ็ตอาหารที่ทั้งสวยและอร่อยไปให้คนที่เรารักได้ทานไม่ว่าจะเป็นคู่ชีวิตหรือสักขีพยานรัก แต่ว่าด้วยอากาศที่ร้อนจัดของประเทศจนทำให้อาหารบูดเสียก่อนเวลาหรือความอร่อยที่เลื่อนหายไปกับไอน้ำจนทำให้เมนูสูตรพิเศษชืดลง ก็เป็นอุปสรรคที่นับได้ว่ายิ่งใหญ่มากทีเดียวสำหรับมื้อพิเศษค่ะ

ดังนั้น เราจะมาแนะนำเทคนิคดีๆ ที่จะทำข้าวกล่องของทุกคนไม่บูดเสียก่อนถึงเวลาทานรวมไปถึงช่วยให้กักเก็บความอร่อยไว้ได้จนข้าวเม็ดสุดท้ายเลยค่ะ! นอกจากนี้จะแนะนำเทคนิคเกี่ยวกับการจัดสรรให้ได้สารอาหารครบถ้วนด้วย มาอ่านไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ

เทคนิคกันเสียกันบูด

คงมีกันบ้างที่ตอนเราทำอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารและความเอาใจใส่แต่ว่าพอถึงเวลาทานเปิดมาแล้วก็พบว่า อาหารมีการเสียการบูดก่อนจะได้ทานซะแล้ว หรือถึงแม้จะยังไม่บูดแต่กลิ่นก็ทำให้รู้สึกว่าถ้าทานลงไปแล้วคงต้องวิ่งเข้าห้องน้ำใหญ่แน่เลยซึ่งเหตุผลที่ทำให้อาหารเกิดการบูดเสียนั้น เกิดจากอุณหภูมิภายนอกที่ร้อนมาก หรือความชื้นที่มีอยู่ในความกล่องนั้นมีมากเกินไปจนเกิดการหมักหมมทำให้เกิดการเน่าเสียในที่สุดค่ะ

ดังนั้นวิธีที่จะช่วยไม่ให้อาการบูดเสียก่อนถึงเวลาทานสามารถทำตามได้ดังนี้

หากมีของต้ม, ของลวกควรสะเด็ดน้ำออกให้หมด ซับด้วยกระดาษจนไม่หลงเหลือน้ำไว้เลยจะยิ่งดีมากๆ
แบ่งส่วนแต่ละช่องให้ชัดเจนด้วยการกั้นไม่ให้ไหลเข้ามาหากัน
หากมีซอสหรือซุป ควรใส่เป็นกล่องแยกหรือถุงแยกไว้ไม่ให้ลงไปปนกับอาหารอื่นๆ
เมื่อปรุงเสร็จพักให้เย็นก่อนนำมาจัดใส่กล่องเพื่อป้องกันการเกิดไอน้ำ
หากมีผลไม้ควรเด็กขั้วออกให้หมดเพราะเป็นส่วนที่แบคทีเรียอยู่มากที่สุด อาจส่งผลให้เชื้อเหล่านั้นเติบโตในอาหารได้

เทคนิคการจัดให้ได้สารอาหารครบถ้วนและไม่น่าเบื่อ

อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กับการป้องกันไม่ให้บูดเสีย ก็คือสารอาหารที่ลูกหรือคนรักได้ทานในมื้อ ควรจะมีความใส่ใจและองค์ประกอบของการจัดข้าวกล่องในแต่ละวันดังนี้

สารอาหารที่เหมาะสมสามารถจัดได้เป็นสัดส่วนข้าว 1-2 ส่วน (แล้วแต่ความเหมาะสมในปริมาณ) , เนื้อ 1 ส่วน, ผัก1 ส่วน, ผลไม้ 1 ส่วนและอาจมีขนมตบท้ายให้เป็นของว่างหลังมื้อหนักจบลง
เมนูมีการเปลี่ยนหมุนเวียนไปไม่ให้ซ้ำหรือจำเจ การสร้างตารางเมนูไว้ก่อนในแต่ละอาทิตย์จะสามารถช่วยให้เราสามารถตัดหรือเพิ่มในส่วนขอวัตถุดิบในการทำเมนูได้อย่างคุ้มค่าที่สุด และนอกจากนี้ลูกหรือคนรักอาจได้ดูตารางก่อนเผื่อมีเมนูไหนที่ต้องการเปลี่ยนหรือเพิ่มเติม
มีการตกแต่งที่ทำให้เจริญอาหาร อาจไม่จำเป็นต้องมีการแกะสลักหรือละเอียดมากแต่เน้นใช้การตัดชิ้นให้พอดีคำ, สีสันที่ตัดกันอย่างชัดเจน, เสริมแต่งได้ด้วยไม้จิ้มน่ารักๆ หรือโรยหน้าด้วยของประดับทานได้อาทิ สาหร่าย, ผงข้าว, กากหมู, กระเทียมเจียว

เทคนิคการเลือกความจุในการใส่อาหาร

ส่วนมากข้าวกล่องแต่ละแบบจะมีการจุที่ไม่เท่ากัน รวมไปถึงรูปร่างเองก็เช่นกัน แม้จะเป็นเพียงรายละเอียดเล็กน้อยแต่ก็จะสามารถช่วยได้มากในการจัดสรรปันส่วนที่เหมาะกับเมนูมื้ออาหารในแต่ละวันซึ่งความเหมาะสมของเมนูนั้นสามารถจำแนกได้ตามนี้

แบบชั้นเดียวเหมาะกับมื้ออาหารที่มีของทอด, ของแห้งเป็นตัวชูโรงรวมไปถึงเมนูที่ปรุงสำเร็จในตัวเรียบร้อยอย่างข้าวผัด, ผัดหมี่, มะกะโรนีผัด, แซนวิช
แบบ 2 ชั้น สามารถแบ่งชั้นหนึ่งให้มีข้าวและของแห้งได้ตามสะดวก ในส่วนของชั้นที่ 2 นั้น สามารถใส่กับข้าวอย่างอื่นเพิ่มเติมได้อย่างถุงน้ำซุป, กับข้าวที่มีส่วนประกอบของน้ำ, ผักต้มคู่น้ำพริก, ผลไม้สด
แบบ 3 ชั้นหรือที่เรียกว่าปิ่นโต สามารถใช่แยกชั้นได้เลยตามความสะดวกซึ่งก็เป็นวิธีในการกัดอาหารเสียก่อนเวลาได้ดี ชั้น1 ข้าว, ชั้น 2 กับข้าวแบบแห้งเช่นของทอด, ของแห้ง, ชั้น 3 น้ำซุป,กับข้าวที่มีส่วนประกอบของน้ำซึ่งควรใส่ถุงร้อนไว้ก่อนชัดจะช่วยป้องกันการหกเลอะได้เป็นอย่างดีสำหรับซุปหรือน้ำแกง กับผลไม้สดหรือขนมหวานก็เช่นกันเพราะการแยกอาหารที่ต่างชนิดไว้คนละชั้น จะสามารถป้องกันรสชาติที่มาชนกันได้ด้วย

อุปกรณ์ที่จะช่วยให้การจัดข้าวกล่องสนุกและสะดวกสบายขึ้น

แน่นอนว่าเวลาเราต้องการจัดข้าวกล่องแล้ว ของสวยงามที่ประดับอยู่ในอาหารนั้นก็สามารถใช้เครื่องทุ่นแรงเพื่อประหยัดเวลาได้ดังอุปกรณ์ต่อไปนี้ที่จะช่วยให้ข้าวกล่องของเราน่าทานมากยิ่งขึ้นสำหรับลูกน้อยและคนรัก