ตอนเด็กๆ ใครๆ ก็บอกว่าเด็กอ้วนๆ นั้นแหละน่ารักดี แต่ไม่จริงเลยนะคะ การที่พ่อแม่อยากให้เด็กๆ อ้วนเนี่ยเป็นความเชื่อผิดๆ และด้วยความเป็นอยู่ของคนในปัจจุบันแตกต่างจากอดีตไปเยอะมาก และพฤติกรรมของคนก็เป็นหนึ่งในนั้นที่แตกต่างไปด้วย
วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของโรคอ้วนในเด็กซึ่งก็มาจากพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของคนในสมัยนี้ ซึ่งทุกๆ บ้านต่างก็ไม่ค่อยได้ทำกับข้าวกินกันเองที่บ้านแล้ว ส่วนใหญ่ก็เปลี่ยนไปกินพวกอาหารฟาสต์ฟู้ด อาหารสำเร็จรูป หรืออาหารสมัยใหม่กันหมด ซึ่งก็เป็นสาเหตุสำคัญ ที่ทำให้เด็กๆ ในยุคนี้ต้องเจอกับปัญหาสุขภาพ อย่างเช่น โรคอ้วนนั้นเอง
เห็นอย่างงี้แล้วคนเป็นพ่อเป็นแม่ต้องเตรียมรับมือและแก้ปัญหาสุขภาพของลูกๆ แล้วนะคะ จะต้องทำยังไงบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ
สาเหตุของโรคอ้วน
โรคอ้วนเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุและหลายปัจจัย ซึ่งหลักๆ แล้วก็เกิดจากปัจจัยทางด้านสิ่งแวดล้อม จะมีอะไรบ้าง มาดูกันเลยค่ะ
- บริโภคเกินความจำเป็น
ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าคนเราสามารถจะเลือกกินอาหารที่อยากกินได้อย่างง่ายดาย เพราะปัจจุบันสังคมของเราเป็นสังคมเมืองมากขึ้น ความเจริญของร้านค้าต่างๆ ก็มากมาย แถมร้านค้ายังกระจายตัวให้เรา สามารถหาซื้อของกินอย่างสะดวกสบาย โดยเฉพาะเด็กๆ อยากกินอะไรก็แสนจะง่ายซะเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็น น้ำอัดลม ขนมขบเคี้ยว ลูกอม ขนมต่างๆ มากมาย ซึ่งเป็นของโปรดของเด็กๆ เลยทีเดียว
- ร่างกายขาดการเคลื่อนไหว
สังเกตได้อย่างง่ายมากเลย ยิ่งสมัยนี้เด็กๆ เอาแต่นั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์และจอทีวี หรือไม่ก็จอโทรศัพท์มือถือ อยู่แบบนี้ทั้งวันโดยไม่ออกไปไหน ทำให้เด็กๆ ขยับร่างกายน้อยซะเหลือเกิน กินๆ นอนๆ ทำให้เด็กๆ เป็นเด็กอ้วนในที่สุดไงละคะ
- ถูกเลี้ยงด้วยนมผงมาก
จากข้อมูลจากคุณหมอบอกว่า เด็กที่ถูกเลี้ยงด้วยนมผงจะมีสิทธิ์อ้วนมากกว่าเด็กที่ถูกเลี้ยงด้วยนมคุณแม่ เพราะว่าในนมผงบางชนิดนั้นอาจจะมีไขมันและโปรตีนบางชนิดที่ก่อให้เกิดโรคอ้วนได้นั้นเอง
- เกิดจากปัญหาทางจิตใจ
เด็กบางคนอาจจะมีปัญหาทางจิตใจโดยไม่รู้ตัว อย่างเช่น อาการซึมเศร้า นั้นก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เด็กกินมาขึ้นเกินความจำเป็น แล้วทำให้เขาเป็นเด็กอ้วนได้นั้นเอง
- จากพันธุกรรม
จะเห็นได้ว่าเด็กบางคนเกิดมาก็อ้วนเลย ก็เพราะว่าพ่อแม่อ้วน และเมื่อร่างกายมียีนส์อ้วน เด็กที่เกิดมาจากพ่อแม่ที่อ้วนก็จะอ้วนไปด้วย แต่ก็เป็นส่วนน้อยที่มาจากพันธุกรรมนะคะ ส่วนมากเด็กจะอ้วนจากการถูกเลี้ยงดูจากการกินอาหารมากกว่าค่ะ
รู้ได้ยังไงว่าจะเป็นเด็กอ้วน
จะรู้ได้ยังไงว่าลูกของเรานั้นอ้วน นั้นก็พิจารณาจากน้ำหนักเทียบกับส่วนสูง โดยการคำนวณค่าดัชนีมวลกาย (Body Mass Index หรือ BMI) แล้วนำไปเทียบกับกราฟ BMI แยกตามเพศและอายุ ถ้าเกินเปอร์เซ็นไทล์ที่ 85 – 95 ของเกณฑ์ถือว่าอยู่ในระยะอวบ แต่ถ้าเกิน 95 ถือว่าเป็นเด็กอ้วนนั้นเอง นอกจากนี้ยังสามารถตรวจเลือดเพื่อดูเบาหวาน วัดระดับไขมันในเลือด ค่าตับ ค่าไต ฮอร์โมนคอร์ติซอล และระดับวิตามินดี รวมถึงปัญหาไทรอยด์อีกด้วย
สิ่งที่ตามมา เมื่อเป็นโรคอ้วนในเด็ก
- นอนกรน และอาจส่งผลให้เกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
จะเห็นได้ว่าเด็กอ้วนส่วนใหญ่หรือแม้แต่ผู้ใหญ่เองจะมีการหายใจที่ติดขัดเวลานอน จึงส่งผลให้เด็กนอนกรน บางครั้งทำให้นอนหลับไม่สนิทด้วย รวมไปถึงหากเด็กที่อ้วนมากๆ และหายใจติดขัดแบบรุนแรง ก็ทำให้ส่งผลร้ายแรงจนทำให้หยุดหายใจขณะนอนหลับได้เลยนะคะ
- เป็นเบาหวาน ความดัน ไขมันในเลือดสูง
ข้อมูลจากคุณหมอบอกให้เราทรายว่า เด็กอ้วนจะมีการต่อต้านอินซูลินหรือที่เรียกว่า ภาวะต่อต้านอินซูลิน ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงได้ง่ายและเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวานเมื่อเขาโตขึ้นนั้นเอง
- กระดูกและข้อผิดปกติ
โดยเฉพาะข้อเข่าและสะโพก เพราะเด็กๆ ที่อ้วนจะต้องมีการรับน้ำหนักที่มากทั้งตัว ทำให้ส่วนของข้อเข่าและสโพกต้องรับน้ำหนักมาก ทำให้มีอาการผิดปกติได้ และยังทำให้บุคลิกภาพของเด็กเสียอีกด้วยค่ะ
- กลายเป็นเด็กขาดความมั่นใจ
จะเห็นได้บ่อยครั้งที่ผิวหนังและร่างกายโดยเฉพาะบริเวรข้อพับต่างๆ กลายเป็นปื้นสีดำๆ เหมือนคนเป็นเบาหวาน เนื่องจากเป็นภาวะที่ร่างกายดื้อต่ออินซูลิน และในบางครั้งเด็กที่อ้วนก็มักจะโดนเพื่อนล้อเวลาไปโรงเรียน ทำให้เด็กอ้วนกลายเป็นเด็กที่ขาดความมั่นใจไปเลยนั้นเองค่ะ
แนวทางการแก้ไข
- คุณหมอจะทำการตรวจสุขภาพเพื่อดูภาวะแทรกซ้อนก่อนว่ามีปัญหาความดันหรือเบาหวานหรือไม่ หากมีภาวะแทรกซ้อน คุณหมอต้องดูแลรักาาตามแนวทางที่เหมาะสม หรือหากไม่มีปัญหาแทกซ้อน คุณหมอก็จะให้คำแนะนำผู้ปกครองที่มาปรึกษากันต่อไปค่ะ
- เน้นเรื่องการคุมอาหารโดยให้จำกัดอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตให้น้อยลง
- เน้นการกินผลและผลไม้ที่ไม่มีรสหวานจัด
- คุณพ่อคุณแม่สามารถพาลูกไปออกกำลังกายบ้าง เพราะการออกกำลังกายจะช่วยในเรื่องของการเผาผลาญพลังงานได้ค่อนข้างเยอะนั้นเองค่ะ
- หลีกเลี่ยงการเก็บอาหารไว้ในตู้เย็นเป็นจำนวนมาก เพราะมันง่ายมากๆ สำหรับการที่เด็กๆ จะหยิบรับประทาน จนทำให้กลายเป็นเด็กอ้วนนั้นเอง
พ่อแม่ช่วยเหลือยังไงได้บ้าง
- ควบคุมปริมาณอาหารของลูก ให้เขารับประทานพวกผักและผลไม้ที่มีกากใย หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูงจำพวกของทอดต่างๆ
- ออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมง
- มีคู่หูในครอบครัว พาเด็กๆ วางแผนการกินอาหารและออกกำลังกายด้วยกัน
- คุณพ่อคุณแม่ต้องร่วมมือกันอย่างสามัคคี โดยไม่ให้ใครตามใจเด็ก
- ไม่ซื้ออาหารที่มีไขมันสูงและน้ำตาลสูงเข้าบ้าน เช่นพวกขนมขบเคี้ยว ขนมหวานต่างๆ ที่ไม่มีประโยชน์ น้ำอัดลม เป็นต้น
- ดูแลเรื่องการนอนของลูกโดยให้เขานอนพักผ่อนอย่างเพียงพอ นอนให้เป็นเวลาเพราะการนอนดึกเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กลายเป็นเด็กอ้วนได้
- จำกัดเวลาและการใช้พวกอุปกรณ์อิเล้กทรอนิกส์ เช่น มือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด โทรทัศน์ เพราะเด็กๆ จะนั่งอยู่ไม่ยอมไปไหน ทำให้ร่างกายไม่ได้เคลื่อนไหวนั้นเอง และแนะนำว่าเด็กเล็กอายุ 2 – 5 ขวบ ไม่ควรอยู่กับหน้าจอเกินหนึ่งชั่วโมงต่อวันนะคะ
สิ่งสำคัญเลยคือกำลังใจ คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยให้กำลังใจอย่างมากกับเด็กๆ ในการลดน้ำหนัก ทำให้เขามีความมุ่งมั่นในการต่อสู้กับตัวเองและปฏิเสธอาหารที่ก่อให้เกิดโรคอ้วนนั้นเองค่ะ ทั้งหมดนี้ก็จะทำให้ลูกๆ ของเราหางไกลจากโรคอ้วนแล้วค่ะ
ที่มา : paolohospital,bumrungrad