การพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพประจำสัปดาห์นี้คาดว่าจะพบผู้ป่วยโรคอีสุกอีใสเพิ่มขึ้น เนื่องจากช่วงนี้ยังมีอากาศหนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรคนี้มักพบในกลุ่มเด็กนักเรียน (จากรายงานกระป่วยในเดือนมกราคมพบผู้ป่วยอายุตั้งแต่ 7-24 ปี) อาจพบผู้ป่วยเป็นกลุ่มก้อนในสถานที่ที่อยู่ร่วมกัน เช่น โรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก ซึ่งโรคนี้จะมีจำนวนผู้ป่วยมากในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคมของปี
โรคอีสุกอีใสเป็นโรคติดต่อเกิดจากเชื้อไวรัส เชื้อโรคที่อยู่ในน้ำมูก น้ำลายผู้ป่วย ติดต่อกันโดยการไอ จาม หายใจรดกันหรอโดยการสัมผัส การให้ของร่วมกับผู้ป่วยอาการป่วย ในเด็กจะมีไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ในผู้ใหญ่มักมีไข้สูง ปวดเมื่อยตามเนื้อตัว และมีผื่นขึ้น พร้อมกับวันที่มีไข้ ต่อมาผื่นกระจายไปทั่วตัว บางรายอาจมีตุ่มในปาก ทำให้ปากลิ้นเปื่อย ไม่มียารักษาโดยเฉพาะ ตุ่มจะตกสะเก็ดและค่อยๆ หายเองใน 1-3 สัปดาห์ โดยไม่มีแผลเป็น
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า “กรมควบคุมโรค ขอแนะนำให้ผู้ป่วยหยุดเรียน หยุดงาน พักผ่อนที่บ้าน ควรอาบน้ำและใช้สบู่ฆ่าเชื้อฟอกผิวหนังให้สะอาด ตัดเล็บให้สั้น หลีกเลี่ยงการแกะหรือเกาตุ่ม ถ้ามีไข้สูงให้กินยาพาราเซตามอลลดไข้ สำหรับประชาชนทั่วไปหลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ป่วย ล้างมือบ่อยๆ ไม่ดื่มน้ำแก้วเดียวกัน ทั้งนี้ ผู้ที่เคยเป็นแล้วจะมีภูมิต้านทานตามธรรมชาติไปตลอดชีวิต ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422”
อ้างอิงจาก https://www.prachachat.net/general/news-111986