เด็กถูกลืมไว้ในรถเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยไม่ว่าจะกับรถยนต์ส่วนตัวหรือรถโรงเรียนก็ตาม โดยเฉพาะในเด็กนักเรียนระดับอนุบาลและในศูนย์เด็กเล็ก ที่หากเกิดเหตุแล้วอาจเสี่ยงทำให้เด็กเสียชีวิตได้
จากข้อมูลเฝ้าระวังโรคของสำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค พบว่า ในช่วง 5 ปี (ปี 2557 – 2561) พบว่า มีเหตุการณ์ที่เด็กถูกลืมทิ้งไว้ในรถจำนวน 106 เหตุการณ์ เด็กเสียชีวิตทั้งหมด 5 ราย อายุอยู่ระหว่าง 3 – 6 ปี เกิดเหตุขึ้นในรถนักเรียน 4 ราย และรถยนต์ส่วนตัว 1 ราย ทั้งหมดถูกลืมทิ้งไว้ในรถนานกว่า 6 ชั่วโมงขึ้นไป โดยเกิดขึ้นขณะเด็กนอนหลับและจอดรถไว้หลังจากรับส่งนักเรียนเสร็จ
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เด็กส่วนใหญ่ที่ติดอยู่ในรถไม่ได้เสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ แต่เป็นเพราะความร้อนภายในรถที่สูงขึ้น หากเกิน 30 นาที เด็กจะเกิดภาวะเลือดเป็นกรด ช็อก หมดสติ สมองบวมตามมา จากนั้นอาจหยุดหายใจ อวัยวะทุกอย่างก็จะหยุดทำงาน และอาจเสียชีวิตได้
ในการป้องกันการลืมเด็กไว้ในรถ ควรใช้หลัก “นับ ตรวจตรา อย่าประมาท” ได้แก่
- นับ จำนวนเด็กก่อนขึ้นและหลังลงจากรถทุกครั้ง
- ตรวจตรา ก่อนล็อคประตูรถ ตรวจดูให้ทั่วรถ
- อย่าประมาท อย่าทิ้งเด็กไว้เพียงลำพัง แม้ว่าจะลงไปทำธุระเพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆ ก็ตาม
นอกจากนี้พ่อแม่และคุณครูควรสอนให้เด็กรู้จักการร้องขอความช่วยเหลือโดยการกดแตรรถ หากพบเห็นเด็กถูกลืมไว้ในรถ ขอให้เรียกหาเจ้าของรถ เพื่อให้มาเปิดรถโดยเร็ว ถ้าหากไม่พบเจ้าของรถ ก็ขอให้คนรอบข้างช่วยเหลือ และโทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์กู้ชีพ โทร.1669
อ้างอิงจาก