เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคุณแม่ทุกคนค่ะ เป็นข่าวที่เกิดขึ้นที่ประเทศมาเลเซีย มีเด็กทารกอายุ 10 วัน เสียชีวิตหลังจากที่ยายพยายามให้หลานกินกล้วยบดแทนนมแม่
เรื่องราวนี้เปิดเผยโดย Lia Imelda Siregar คุณแม่ที่ได้คลอดทารกเพศชาย และด้วยความที่เป็นคุณแม่มือใหม่จึงได้รับคำแนะนำจากผู้ใหญ่หลายคนถึงวิธีการดูแลลูกน้อย
โดยแม่ของเธอ (ยายของเด็กชาย) แนะนำให้เธอป้อนกล้วยบดให้ลูกในช่วง 6 เดือนแรกคลอด ซึ่งเธอก็ไม่ได้ทำตามและยืนยันที่จะให้ลูกทานนมแม่ แต่ยายของเด็กกลับดื้อรั้นและไม่ยอม พยายามที่จะให้หลานชายที่เพิ่งคลอดได้เพียง 10 วันกินกล้วยบดแทน
จากการกระทำนั้นส่งผลให้น้ำหนักจากเดิม 1.8 กิโลกรัม ลดลงเหลือเพียง 1.3 กิโลกรัมเท่านั้น หลังจากนั้นไม่นานลูกก็เริ่มถ่ายอุจจาระมีกลิ่นฉุนและเลือดปน เธอจึงรีบพาลูกไปโรงพยาบาล ซึ่งในขณะนั้นเด็กมีอาการสำลักและหายใจลำบาก รวมไปถึงมีเลือดออกทางจมูกและปาก โดยหลังจากถึงโรงพยาบาลไม่กี่ชั่วโมงเด็กก็เสียชีวิต
สาเหตุที่เป็นแบบนี้เนื่องจากก่อน 6 เดือนเด็กยังมีกระเพาะอาหารและลำไส้ไม่แข็งแรงเต็มที่ ระบบการย่อยยังไม่สมบูรณ์ หากกินอาหารอื่นที่ไม่ใช่นมเข้าไป อาจมีความผิดปกติได้ เช่น ท้องอืด อาหารไม่ย่อย ท้องผูก ท้องเสีย แพ้อาหารเนื่องจากเยื่อบุลำไส้ยังอยู่กันหลวมๆ ทำให้โปรตีนแปลกปลอมเล็ดลอดเข้าสู่กระแสเลือด ไปกระตุ้นให้ร่างกายสร้างสารต่อต้านโปรตีนแปลกปลอม แล้วนำไปสู่การเกิดโรคภูมิแพ้ในอนาคต
นอกจากนี้สารอาหารในกล้วยมีอยู่ประมาณ 20 ชนิด ในขณะที่สารอาหารในนมแม่มีมากกว่า 200 ชนิด ดังนั้นจึงเทียบกันไม่ได้เลยในเรื่องของสารอาหาร แน่นอนว่าผลไม้เป็นอาหารที่มีประโยชน์เพียงแต่ว่าจะต้องเริ่มกินในเวลาที่เหมาะสม คือเมื่อลูกมีอายุ 6 เดือนขึ้นไปแล้วนั่นเอง
เมื่อลูกมีอายุครบ 6 เดือนแล้ว ก็สามารถให้อาหารเสริมอย่างกล้วยบดได้ แต่แนะนำว่าควรเริ่มจากข้าวบดผักไปก่อนจะดีกว่า เพราะถ้าเด็กรู้จักรสหวานก่อนรสจืด อาจทำให้ติดรสชาติหวานของกล้วยจนไม่ยอมกินผักชนิดอื่นได้
อ้างอิงจาก