fbpx

เลือกสกินแคร์ลูกน้อยยังไงให้ผิวไม่แพ้ & นุ่มฟู!

: 2 กันยายน 2563

สกินแคร์สำหรับเด็กกับผู้ใหญ่นั้นไม่เหมือนกัน แต่ก็จำเป็นไม่แพ้กัน อีกทั้งยังต้องใช้ความใส่ใจในการเลือกมากขึ้นเพื่อผิวบอบบางของคุณลูกอีกด้วย คุณพ่อคุณแม่อาจจะสงสัยว่าแล้วเราจะเริ่มยังไงดี ในเมื่อสกินแคร์เด็กในตลาดนั้นมีจำนวนมาก ไหนจะส่วนผสมที่ควรหรือไม่ควรมีในสกินแคร์อีก ลูกจะแพ้ไหมนะ เชื่อว่าเป็นคำถามในใจที่คุณพ่อคุณแม่ทุกคนต้องพยายามหาคำตอบกันบ้างล่ะ

วันนี้ ParentsOne เลยอยากรวบรวมวิธีเลือกสกินแคร์ที่ดีต่อใจพ่อแม่และผิวลูกน้อยมาให้กันค่ะ! แถมยังมีไกด์คอยดูส่วนผสมที่ควรหลีกเลี่ยงให้ด้วย จะเป็นยังไง เราไปดูกันเถอะค่ะ

 

สกินแคร์ของลูกน้อยควรมีอะไรบ้าง

สกินแคร์ของลูกน้อยเป็นเรื่องจำเป็นที่ไม่ควรมองข้าม แต่กลับกันควรเป็นอะไรที่เรียบง่าย ไม่ต้องมีหลายขั้นตอนให้ยุ่งยาก ซึ่งขั้นตอนดูแลผิวลูกน้อยสามารถแบ่งได้เป็นสามอย่าง มีดังนี้ค่ะ:

คลีนเซอร์ / สบู่สูตรอ่อนโยน

การทำความสะอาดนั้นช่วยป้องกันผิวหนังจากสารกระตุ้นหรือสิ่งสกปรกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำลาย น้ำมูก ของเสียที่ออกมาจากร่างกาย ฝุ่นผง สิ่งปฏิกูลภายนอกหรือแบคทีเรีย ซึ่งถ้าหากปล่อยไว้บนผิวเป็นเวลานานจะส่งผลให้ผิวหนังระคายเคือง และสามารถเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ด้วย ซึ่งน้ำอย่างเดียวไม่สามารถชำระล้างไขมันและสิ่งสกปรกอื่นๆ ด้วยได้ จึงจำเป็นต้องมีคลีนเซอร์เข้ามาช่วย

คลีนเซอร์หรือสบู่ที่ดีควรเป็นสบู่สูตรอ่อนโยน ให้ดีควรเป็นสบู่เหลวที่มีค่า pH 5.5 เท่ากับผิว เพื่อไม่ให้ผิวลูกน้อยแห้งจนเกินไปค่ะ

มอยเจอร์ไรเซอร์

ผิวของลูกน้อยยังไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีนัก มอยเจอร์ไรเซอร์เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่จำเป็นสำหรับสกินแคร์ของลูกน้อยค่ะ ซึ่งควรทาทั้งหน้าและตัวหลังอาบน้ำเสร็จภายใน 2-3 นาทีเพื่อเก็บความชุ่มชื้นที่ผิว สำหรับเด็กที่มีผิวแห้งเป็นพิเศษ แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ใช้ครีมมากกว่าโลชั่นค่ะ

สำหรับลูกน้อยที่มีผิวบอบบาง ครีมที่มีเซราไมด์จะช่วยปกป้องผิวให้แข็งแรง และช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีค่ะ

ครีมกันแดด

เราอาจจะเคยได้ยินว่าครีมกันแดดนั้นสำคัญสำหรับสกินแคร์ในผู้ใหญ่ เพราะถ้าใช้ครีมกันแดดต่อเนื่องจะช่วยปกป้องผิวจากการเกิดริ้วรอยได้ดีกว่าครีมต้านอนุมูลอิสระเป็นไหนๆ! แต่ครีมกันแดดก็สำคัญสำหรับผิวของลูกน้อยเช่นกันค่ะ เพราะแสงแดดสามารถทำร้ายผิวได้มากกว่าที่คิด แต่แนะนำให้เริ่มใช้เมื่ออายุ 6 เดือนขึ้นไปนะคะ

ซึ่งครีมกันแดดที่เหมาะสำหรับลูกน้อยนั้นควรเป็นครีมกันแดด Physical ซึ่งใช้ Titanium Dioxide(TiO2) และ Zinc Oxide(ZnO) ในการสะท้อนแสงกลับ และไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองเหมือนครีมกันแดด Chemical ที่เสี่ยงต่อการซึมซับลงผิวของลูกน้อยค่ะ

 

ส่วนผสมที่ควรหลีกเลี่ยง

น้ำหอม (fragrance, parfum)

ส่วนผสมตัวดีที่ทำให้เจ้าตัวน้อยระคายเคืองได้ ถึงแม้ว่าผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีกลิ่นหอมจะน่าใช้ก็จริง แต่น้ำหอมก็เป็นส่วนผสมที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ ระคายเคือง หรือแม้กระทั่งปัญหาระบบทางเดินหายใจได้ค่ะ ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงครีมหรือโลชั่นที่มีน้ำหอมอยู่ในนั้นค่ะ

พาราเบน (Ethylparaben, butylparaben, methylparaben, propylparaben หรือส่วนประกอบต่างๆ ที่ลงท้ายด้วย -paraben)

พาราเบนนั้นนับเป็นสารกันเสียชนิดหนึ่งถึงแม้ว่าพาราเบนจะเป็นส่วนประกอบสำคัญในสบู่เหลวแชมพูหรือผลิตภัณฑ์รักษาความสะอาดอื่นๆแต่พาราเบนก็เป็นส่วนผสมที่สามารถก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ในเด็กเล็กได้อีกทั้งยังมีความเสี่ยงในการทำลายสมดุลของระบบฮอร์โมนซึ่งอาจจะทำร้ายทารกที่ระบบฮอร์โมนยังไม่แข็งแรงได้ค่ะ

ฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde)

สารกันเสียที่ทำหน้าที่เหมือนกับพาราเบน เป็นสารเคมีที่ป้องกันเชื้อโรค แต่ฟอร์มาลดีไฮด์ในปริมาณมากสามารถทำลายระบบทางเดินหายใจและระบบประสาทได้ค่ะ

น้ำมันมิเนอรัล (mineral oil, petrolatum, paraffinum, parrafinum liquididum)

ถึงแม้ว่าน้ำมันมิเนอรัลจะให้สัมผัสผิวที่นุ่มนิ่ม แต่ก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีสักเท่าไรนักสำหรับสกินแคร์ของลูกน้อยค่ะ น้ำมันมิเนอรัลถูกใช้ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจำนวนมากด้วยเป็นส่วนประกอบที่ให้ความชุ่มชื้นในราคาถูกกว่าน้ำมันอื่นๆ ทำหน้าที่เหมือนฟิล์มเคลือบบางๆ บนผิวหนัง ซึ่งทำให้ผิวถูกปิดและไม่สามารถถ่ายเทของเสียได้ตามธรรมชาติ ทำให้ระบบกลไกต่อมไขมันใต้ชั้นผิวไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งแล้วยังมีโมเลกุลขนาดใหญ่ เสี่ยงต่อการอุดตันรูขุมขน ซึ่งก่อให้เกิดอาการแพ้อีกด้วยค่ะ

SLS และ SLES (Sodium Lauryl Sulfate และ Sodium Laureth Sulfate)

SLS คือสารลดแรงตึงผิวที่ทำหน้าที่ทำความสะอาดในผลิตภัณฑ์ชำระล้างต่างๆ และทำให้มีฟองฟอด สาร SLS นั้นจะลดแรงตึงผิวในน้ำ ให้แทรกซึมเข้าไปชำระล้างได้ดี แต่ในอีกแง่ SLS สามารถกัดผิว ทำให้ผิวระคายเคืองง่าย ซึ่งไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี SLS กับทารกที่มีผิวบอบางแพ้ง่ายค่ะ

ส่วนสาร SLES นั้นมีความอ่อนโยนมากกว่า SLS เนื่องจากเป็นสารที่สกัดจากน้ำมันมะพร้าว แต่สารนี้ไม่สามารถย่อยได้ด้วยตับ ซึ่งเสี่ยงต่อตัวสารสะสมในร่างกายค่ะ

แป้งทัลก์ (Talc)

ส่วนผสมสำคัญในแป้งเด็ก ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีการวิจัยชี้ว่าแป้งทัลก์นั้นจะเสี่ยงเป็นสารก่อมะเร็ง แต่แป้งทัลก์นั้นไม่ควรสูดดมเข้าไปเพราะทำให้ระบบทางเดินหายใจเสียหายได้ แนะนำให้ใช้แป้งเด็กที่ไม่มีส่วนผสมของทัลก์อย่างเช่นแป้งข้าวหรือแป้งข้าวโพด ที่ไม่มีทัลคัมและป้องกันความชื้นได้ดีเหมือนแป้งทัลคัมค่ะ

 

น้ำมันธรรมชาติที่ดีต่อผิวลูก

ส่วนผสมจากธรรมชาตินั้นอาจจะดี แต่คำว่าธรรมชาตินั้นไม่ได้แปลว่าจะดีต่อผิวเสมอไป น้ำมันหอมระเหยบางชนิดก็ไม่เหมาะกับการใช้บนผิวของทารกโดยตรงเพราะสามารถก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือไหม้ผิวหนังได้ สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการหาตัวแทนเบบี้ออยล์ หรือน้ำมันเพื่อใช้บำรุงผิวลูก ก็มีน้ำมันธรรมชาติที่ช่วยบำรุงให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นได้ ไม่มีสารกระตุ้นที่ทำให้ผิวลูกน้อยระคายเคือง แต่ก่อนใช้นั้นแนะนำให้ทดสอบอาการแพ้ก่อนทุกครั้ง และสำหรับเด็กทารกที่มีอาการแพ้ถั่ว ก็ไม่ควรใช้น้ำมันที่ทำจากถั่วนะคะ

  • น้ำมันสวีตอัลมอนด์
  • เชียบัตเตอร์
  • น้ำมันแอปริคอต
  • น้ำมันโจโจบา (เหมาะกับผสมในน้ำมันอื่นๆ)
  • น้ำมันเมล็ดองุ่น
Writer Profile : phanthirapuyou

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



ลูกชอบพูดแทรก จะแก้อย่างไร
ชีวิตครอบครัว
แม่จ๋า! น้ำร้อนลวกหนู ทำอย่างไรดี
ข้อมูลทางแพทย์
Update
anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save