คุณพ่อคุณแม่หลายท่านอาจมีการตั้งคำถามเกี่ยวกับวิธีเลี้ยงลูกของตัวเอง ว่าทำแบบนี้ถูกไหม แบบนี้ใช่หรือเปล่า หรือวิธีการเลี้ยงลูกที่เราใช้อยู่สรุปเเล้วดีต่อลูกจริงๆ ใช่ไหม ด้วยความกังวลเเละต้องการให้ลูกน้อยได้สิ่งที่ดีที่สุดเสมอ เราเลยลองมาหาคำตอบกันในงานเสวนา “ผิดหรือถูก เลี้ยงลูกแบบไหน เสริมพัฒนาการลูกดีที่สุด” กันค่ะ
งานนี้มีคุณหมอที่เชี่ยวชาญด้านเด็กที่มาพูดคุยกันในงานมากถึง 4 ท่าน คือ
- ศาสตราจารย์ พญ.อุมาพร ตรังคสมบัติ จิตแพทย์มือหนึ่งของไทย เเละผู้ก่อตั้งเพจ “ปั้นใหม่”
- แพทย์หญิง เสาวภา พรจินดารักษ์ ผู้เชี่ยวชาญกุมารเวช ด้านพัฒนาการ เเละพฤติกรรม จากเพจ “เลี้ยงลูกเชิงบวก”
- ทันตเเพทย์หญิง จีรภา ประพาศพงษ์ ผู้เขียนหนังสือ 30 หลักคิด ติดปีกลูก จากเพจ “หมอภา”
- นายเเพทย์ ถิรชัย ตันสันติวงศ์ กุมารเเพทย์ระบบประสาท ที่ได้รับความไว้วางใจจากเหล่าเซเรบริตี้
เเละมีคุณ โอปอล์ ปาณิสรา เป็นพิธีกรในงาน นอกจากนี้ยังมีบล็อกเกอร์เเม่เเละเด็กชื่อดังมาร่วมงานมากมายด้วย โดยบรรยากาศในงานเป็นแบบสบายๆ คึกคักไปด้วยเด็กๆ ที่มาร่วมงาน มีโซนสำหรับเด็กไว้ให้คุณพ่อคุณเม่ที่พาลูกมางานไว้ฝากเลี้ยงเเล้วไปนั่งฟังงานเสวนารับความรู้ดีๆ ได้อย่างหายห่วง
แนวคิดในการเลี้ยงลูกเพื่อส่งเสริมพัฒนาการต้องเป็นยังไง?
ศาสตราจารย์ พญ.อุมาพร ตรังคสมบัติ: พ่อเเม่จะต้องสร้าง positive development คือต้องสร้างสิ่งดีๆ ในทุกวันของชีวิตลูก เพื่อให้เเน่ใจว่าเด็กเติบโตขึ้นไปได้ดี นอกจากนั้นยังต้องเน้นสร้าง “รากแก้ว” ซึ่งเป็นนิสัยหลักที่ดีเเละสำคัญสำหรับชีวิ ต เเล้วพ่อแม่จึงจะมั่นใจในตัวลูกได้ โดยสิ่งที่เเนะนำว่าพ่อเเม่ต้องมีคือที่สำคัญสุดคือ “ชีวิตคู่ที่มีความสุข” เเละ “จัดการความเครียดในตัวให้ได้”
แพทย์หญิง เสาวภา พรจินดารักษ์: พ่อเเม่ต้องสร้าง “วินัยเชิงบวก” ให้ลูก เช่น ถ้าอยากให้ลูกปิดการ์ตูนที่กำลังดูอยู่ เเล้วไปซ้อมดนตรี (เป็นสิ่งที่พ่อเเม่มองเเล้วว่าลูกทำได้ดี) พ่อเเม่จะต้องมองว่า “ปิดการ์ตูน” คืองานหนึ่ง เเต่มีอีกงานที่ซ่อนคือ “งานทางด้านสมอง” คือการที่ลูกที่ลูกต้องปิดการ์ตูนพร้อมทั้งคิดเป็นด้วยว่าทำไมจึงต้องทำแบบนี้ พ่อเเม่ควรโฟกัสว่าอยากให้ลูกคิดเป็น โดยใช้วิธีสื่อสารที่ดีโดยตรงกับเด็ก ด้วยการพูดพร้อมฟังอย่างตั้งใจเเละสบตา ซึ่งจะทำให้ใจเข้าใจลูก เเละคุณพ่อคุณเเม่ใจเย็นขึ้นด้วย เป็นการสร้างวินัยในเชิงบวกที่เข้มเเข็ง
ทันตเเพทย์หญิง จีรภา ประพาศพงษ์: เด็กเเต่ละคนมีลักษณะตามธรรมชาติที่เเตกต่างกัน เเละที่ติดตัวมาตั้งเเต่เกิด ดังนั้นเราต้องเรียนรู้ธรรมชาติของเด็กเเต่ละคน รวมไปถึงเรียนรู้ธรรมชาติของเด็กเเต่ละวัยว่ามีพัฒนาการเเบบไหน ต้องการการตอบสนองเเบบใด ซึ่งวิธีการเดิมในช่วงวัยหนึ่งอาจจะใช้ไม่ได้ผลกับอีกช่วงวัย เเละควรเรียนรู้ความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ เมื่อเด็กได้รับการเติมเต็มจะมีพัฒนาการที่ดี ดังนั้นพ่อเเม่ควรเปิดโอกาสให้เด็กค้นหาตัวเอง พร้อมทั้งควรส่งเสริมสุขภาพกายเเละสุขภาพใจไปพร้อมกัน
นายเเพทย์ ถิรชัย ตันสันติวงศ์: คำถามที่พบบ่อยๆ เป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกพัฒนาการช้า ซึ่งเเนวทางที่อยากให้ยึดคือเกณฑ์มาตรฐานตามช่วงอายุ โดยไม่ควรเปรียบเทียบพัฒนาการตัวเองกับลูกคนอื่น ซึ่งถ้าเทียบตามหลักการเเล้วผิดปกติพ่อเเม่ควรนำลูกมาปรึกษาหมอ โดยการพัฒนาการช้ามักมี 2 ปัจจัย คือ โรคทางสมอง,พันธุกรรม เเละ การไม่ได้รับการกระตุ้นตามวัย ดังนั้นคุณพ่อคุณเเม่ควรมีองค์ความรู้ระดับหนึ่ง เพื่อดูพัฒนาการลูกให้ถูกต้อง
ทาง Babi Mind ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นพ่อเเม่รุ่นใหม่เเล้วพบว่ามีถึง 94% ที่ไม่มั่นใจในตัวเอง ซึ่งภายในงานคุณหมอผู้เชี่ยวชาญได้เเนะนำวิธีแก้ปัญหานี้คร่าวๆ ไว้ว่า
ศาสตราจารย์ พญ.อุมาพร ตรังคสมบัติ: พ่อเเม่เเต่ละคนมีสไตล์ที่เเตกต่างกันจากหลายๆ ปัจจัย เเต่สิ่งสำคัญคือพ่อเเม่ต้องสร้างวินัยให้ลูกในทุกวัน ซึ่งหลักการสร้างวินัยให้ลูกคือต้องหนักแน่น เสมอต้นเสมอปลาย ซึ่งพ่อเเม่หลายคนเข้าใจผิดว่าการเลี้ยงลูกให้ดีลูกจะต้องยิ้ม เเละมีความสุขทุกวัน เเต่ความเป็นจริงเเล้วอาจมีบางวันที่ทะเลาะกับลูก หรือเสียน้ำตาบ้างก็ไม่เป็นไร เเต่ต้องมีหลักการที่ชัดเจนที่จะทำให้เรามั่นใจ
นายเเพทย์ ถิรชัย ตันสันติวงศ์: เด็กมีความเปลี่ยนแปลงไปตามวัย ทำให้วิธีการเลี้ยงดูก็ต้องเปลี่ยนไปตามวัย โดยสิ่งที่ต้องยึดหลักมี 2 อย่าง คือ ภาคทางวินัย พ่อเเม่จะต้องควบคุมให้ลูกมีวินัยที่ถูกต้อง อย่างที่สองคือ ภาคบวก เป็นช่วงที่พ่อเเม่เล่นกับลูก พ่อเเม่ควรจะเล่นกับลูกพร้อมพูดคุยพร้อมกระตุ้นให้ลูกคิดตาม แต่พยายามให้เป็นการสื่อสารแบบ 2 ช่องทาง เพื่อเป็นการสร้างพัฒนาการทางภาษา
คุณเเม่ 83% มีความวิตกกังวลในการเลี้ยงลูก คิดว่าเป็นเพราะอะไร?
ทันตเเพทย์หญิง จีรภา ประพาศพงษ์: เกิดจากความไม่มั่นใจในตัวเอง เเละคนรอบข้างรวมทั้งโซเชียลมีเดีย ซึ่งหลายคนไปโฟกัสว่าตัวเองทำถูกไหม ดังนั้นจึงทำให้เกิดความเครียด
หาทางออกอย่างไรให้เเม่ที่เครียดในการเลี้ยงลูกดี?
นายเเพทย์ ถิรชัย ตันสันติวงศ์: คุณพ่อคุณเเม่เครียดจากการคาดหวัง ซึ่งการคาดมักมาจากเรื่องที่ตัวเองทำไม่ได้ พ่อเเม่ต้องตั้งสติของตัวเองให้ดี เพราะสติเป็นตัวควบคุมอารมณ์ รวมไปถึงสิ่งภายนอกที่ไม่ดี อยากให้คุณพ่อคุณเเม่มองทุกสิ่งทุกอย่างเป็น positive เพราะจะทำให้มีความสุข จะทำให้เลี้ยงลูกแบบสบายๆ
เป็นอีกเเนวทางของการเลี้ยงลูกดีๆ ที่น่าสนใจ ซึ่งถ้าพ่อเเม่ได้เข้าใจทั้งธรรมชาติของเด็ก พร้อมทั้งมีองค์ความรู้ที่ถูกต้องก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับครอบครัวของตัวเองได้อย่างเหมาะสมมากยิ่งขึ้นค่ะ
ชมย้อนหลัง: