คุณพ่อคุณแม่หลายๆ ท่านน่าจะเคยได้ยินชื่อ “โรคสมาธิสั้น” ที่เป็นอีกหนึ่งโรคฮิตในปัจจุบัน แน่นอนว่าพ่อแม่อีกหลายๆ ท่านมีความกังวลว่าเจ้าโรคนี้จะเกิดขึ้นกับลูกของตัวเองรึป่าว หรือเด็กๆ ที่เราเห็นอยู่นั้นกำลังประสบกับภาวะนี้อยู่หรือไม่ เรามาทำความรู้จักกับโรคนี้ก็อย่างละเอียด ทั้งสาเหตุ อาการ รวมไปถึงแนวทางกันรักษากันให้มากขึ้น
โรคสมาธิสั้น
- Attention deficit hyperactivity disorder หรือ ADHD
- อาการผิดปกติทางพฤติกรรมและอารมณ์
- อาจจะเริ่มมีอาการตั้งแต่อายุ 3 – 6 ปี
- อาการแสดงออกชัดเจนสามารถวินิจฉัยได้ตอนอายุ 6 – 12 ปี
สาเหตุ
- ความผิดปกติของสารเคมีในสมองที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสมาธิ เช่น โดปามีน (Dopamine) นอร์อิพิเนฟริน (Norepinephrine)
- ความผิดปกติของสมองส่วนหน้า (Frontal cortex) ที่คอยควบคุมสมาธิและการตื่นตัว
- พันธุกรรม
- ปัจจัยเสริมอื่นๆ อย่าง สิ่งแวดล้อม, การเลี้ยงดู
อาการ
-
ขาดสมาธิ (Attention Deficit)
เด็กจะวอกแวกง่าย ขาดความตั้งใจในการทำงาน โดยเฉพาะงานที่ต้องใช้ความคิด มักจะมีอาการเหม่อลอยบ่อยๆ ทำงานไม่เสร็จ ผลงานไม่เรียบร้อย ตกๆ หล่นๆ และมีลักษณะขี้ลืม ทำของหายเป็นประจำ
-
ซนไม่อยู่นิ่ง (Hyperactivity)
ซน อยู่ไม่สุข ยุกยิกตลอดเวลา นั่งนิ่งๆ ไม่ค่อยได้ ต้องลุกเดินขยับตัวไปมา ชอบเล่นผาดโผน ปีนป่าย ใช้เสียงดัง มักประสบอุบัติเหตุจากความซนบ่อยๆ พูดมากและชอบแกล้งเด็กคนอื่น
-
วู่วาม ใจร้อน (Impulsivity)
มีอารมณ์หุนหันพลันแล่น ขาดความระมัดระวัง รอคอยอะไรไม่ได้ ชอบพูดแทรกระหว่างที่คนอื่นกำลังคุยกัน
การดูแลและแนวทางการรักษา
- ใช้ยาเพิ่มสมาธิ
- จัดตารางกิจวัตร ฝึกฝนการควบคุมตัวเอง
- สร้างสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม
- มองหาจุดเด่นและความสามารถด้านอื่นๆ
อ้างอิง