ถ้าพูดถึงภาวะ Asphyxia หลายๆ คนอาจจะยังไม่คุ้นหูนัก ซึ่งภาวะนี้โรคนี้เป็นการขาดออกซิเจนในทารกแรกเกิดที่นำเป็นสู่อาการอันตรายหลายๆอย่าง โดยพบในเด็กถึง 2 ใน 3 จาก 1,000 คน เราเลยมาพูดคุยกับ นายเเพทย์ ธนินทร์ เวชชาภินันท์ นายเเพทย์เชี่ยวชาญด้านกุมารประสาทวิทยา จากสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เกี่ยวกับรายละเอียดของภาวะนี้กัน
สาเหตุของภาวะ Asphyxia
สาเหตุเแรก คือ เริ่มตั้งเเต่ในท้องเเม่ก่อนคลอด มาจากหลายอย่าง เช่น
- เด็กสายรกเสื่อม
- ปัญหาจากการติดเชื้อระหว่างตั้งครรภ์
- ภาวะครรภ์เป็นพิษเนื่องจากเเม่มีความดันโลหิตสูง
- ภาวะที่เเม่ช็อกเพราะเสียลือดมากดังนั้นเลือดจึงไม่สามารถไปเลี้ยงเด็กได้เพราะความดันโลหิตต่ำ
- กรณีแม่ประสบอุบัติเหตุ ที่ส่งผลต่อความดันโลหิตของแม่
- เด็กติดอยู่ในปากมดลูกนานเกินไปเนื่องจากการคลอดมีปัญหาเเละขาดออกซิเจนในที่สุด
ซึ่งถ้าเเพทย์หรือผู้ดูเเลวิเคราะห์ว่าเด็กมีภาวะ Asphyxia ตั้งเเต่อยู่ในท้องเเล้ว ก็อาจจต้องคลอดด้วยวิธีอื่น เช่น ผ่าตัดออกทางหน้าท้องโดยด่วน เพื่อให้เด็กคลอดออกมาในช่วงที่สมองเด็กไม่ขาดออกซิเจนมากไปกว่านี้ จากนั้นก็พาออกมาดูแลข้างนอกแทน
หรือในบางราย เด็กอาจมีภาวะบางอย่างจนทำให้เกิดการ “คลอดก่อนกำหนด” โดยที่จริงเเล้วปกติการคลอดจะต้อง 38 สัปดาห์ขึ้นไป หรือ 9 เดือน เด็กจึงจะร่างกายสมบูรณณ์ มีปอด เเละสมองสมบูรณ์พร้อมที่จะออกมาหายใจภายนอกได้ เเต่การที่เด็กคลอดก่อนกำหนดอาจมาจากที่ในท้องมีความผิดปกติบางอย่าง ดังนั้นเด็กจึงเกิดการป้องกันตัวเอง ด้วยการพยายามออกมาจากในท้องเเม่ จนเกิดเป็นภาวะเกิดก่อนกำหนดในที่สุด
โดยการคลอดก่อนกำหนดนี้ อาจทำให้ปอดยังไม่พร้อมทำงาน เพราะขาดสารยืดหยุ่นของปอด ดังนั้นปอดจึงไม่ขยายตัว ประกอบกับปอดยังขยายตัวไม่เต็มที่ มีปัญหาในการแลกเปลี่ยนออกซิเจน ออกซิเจนที่ไปเลี้ยงสมองจึงน้อย เเละสมองเองก็เป็นอวัยวะที่ต้องใช้ออกซิเจนมาก และอาจมีอาการเเสดงออกทางสีผิว คือ อาจจะตัวเขียว (ภาวะ“เด็กเขียว”) หรือ บางรายมาโรงพยาบาลด้วยภาวะหัวใจหยุดเต้นเเล้ว หรือมีอีกประเภท คือ เด็กที่คลอดตามเวลาปกติครบ 38 สัปดาห์ เเต่มีปัญหาเกิดขึ้นขณะคลอด เช่น
- ภาวะรกมีปัญหาเช่นรกเกาะต่ำ
- คลอดปกติเเล้วมาขาดออกซิเจนข้างนอก
- เด็กปอดอักเสบติดเชื้อตั้งเเต่อยู่ในท้องเเล้วออกมาขาดออกซิเจนอยู่ข้างนอกทำให้ระบบเเลกเปลี่ยนออกซิเจนไม่สมบูรณ์เป็นผลให้ได้รับออกซิเจนน้อย
เด็กกลุ่มอายุครรภ์ปกตินี้เมื่อเกิดสภาวะ Asphyxia จะทำให้ความดันในปอดสูง เลือดผ่านเข้าปอดไม่ได้ พอเลือดผ่านปอดไม่ได้ ก็ไม่สามารถเเลกเปลี่ยนออกซิเจนได้ ทำให้สมองขาดออกซิเจนอีก นั่นหมายความว่าแม้เด็กอายุครรภปกติก็อาจเกิดภาวะ Asphyxia ได้เช่นกัน
ซึ่งจากปัจจัยทั้งหมดอาจนำไปสู่การที่สมองของเด็กๆ ขาดออกซิเจน และอาจจะทำให้มีอาการแทรกซ้อนต่างๆ ตามมา คือ
- ชักตั้งเเต่เเรกเกิด
- ชักหลบใน (แบบไม่มีอาการให้เห็น) จะเห็นแค่เด็กนอนนิ่งๆ
- อวัยวะในร่างกาย ทำงานไม่สมบูรณ์ เช่น สมอง หัวใจ ตับ ไต ลำไส้ เป็นต้น
- ส่งผลให้สมองเหี่ยวเล็กลง หรือ สมองพิการ (Cerebral palsy)
- โรคพัฒนาการช้า หรือ ภาวะไอคิวต่ำ ทำให้มีปัญหาด้านการเรียนในอนาคต
- โรคลมชัก
เมื่อเกิดภาวะเหล่านี้แล้ว สิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือ ให้อยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รวมไปถึงการใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับเด็กโดยเฉพาะ ในโรงพยาบาลที่บุคลากรพร้อมดูแลเด็กแรกเกิดจริงๆ
รู้จักกับแคมเปญ Hold Your Breath ช่วยต่อลมหายใจให้เด็กในไทย
“ว่ากันว่าคนทั่วไป สามารถกลั้นหายใจได้ 30 วินาที แต่กับคนบางกลุ่ม…อาจไม่มีโอกาสเหมือนกับเรา”
นี่คือส่วนหนึ่งของคำพูดที่เป็นที่มาของแคมเปญ Hold Your Breath ที่ Generali Thailand ตั้งใจสร้างสรรค์ เพื่อให้คนไทยได้รู้จักกับภาวะ Asphyxia หรือภาวะขาดออกซิเจนในทารกแรกเกิด ผ่านกิจกรรมเพื่อสังคมรูปแบบใหม่ที่เน้นการมีส่วนร่วมจากผู้คนในสังคม
คุณบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทเจนเนอราลี่ ประจำประเทศไทย เผยถึงที่มาของแคมเปญนี้ว่า ทาง Generali Group บริษัทแม่ที่ประเทศอิตาลี ได้มีการระดมไอเดียของพนักงานจากทุกประเทศทั่วโลกเพื่อเลือกเฟ้นสิ่งที่บริษัทจะก้าวเข้าไปมีส่วนร่วม ซึ่ง “Asphyxia” ก็เป็นอีกหนึ่งภัยร้ายที่ได้%B