นิทานที่ได้รับความนิยมและเชื่อว่าเป็นที่รู้จักกันทั่วโลกมากที่สุดรวมถึงในประเทศไทยด้วย คงหนีไม่พ้นนิทานอีสป ซึ่งนอกจากจะมีเรื่องราวสนุกสนานแล้วด้านหลังเล่มยังมีคติสอนใจจากเนื้อเรื่อง เป็นเรื่องราวแสนสนุก แฝงด้วยคุณธรรมและคติสอนใจจากนักเล่านิทานชื่อดังนาม “อีสป” ลักษณะเด่นของนิทานอีสปคือ เขาจะใช้ตัวละครที่เป็นสิงสาราสัตว์ทั่วไป เช่น “หมาป่ากับลูกแกะ, สุนัขกับเงา, ราชสีห์กับหนู” หรือ “สุนัขจิ้งจอกกับกา” เป็นต้น ทำให้เข้าถึงเด็กๆ ได้ง่าย จะมีเรื่องอะไรมาแนะนำในวันนี้บ้างไปดูกันเลยค่ะ
1. มดกับตั๊กแตน
ภาพจาก – www.se-ed.com
หนังสือนิทานเรื่อง “มดกับตั๊กแตน” เป็นเรื่องเกี่ยวกับ ช่วงเข้าสู่ฤดูหนาว “ฝูงมด” ก็จะพากันเตรียมหาอาหารเพื่อเก็บไว้ และได้บอก “ตั๊กแตน” ซึ่งเป็นเพื่อนรักกันให้หาอาหารมาเก็บไว้ แต่ตั๊กแตนก็ไม่สนใจได้แต่ร้องรำทำเพลงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งฤดูหนาวมาถึง เมื่ออากาศหนาวหิมะตกหนัก ตั๊กแตนก็ไม่สามารถออกไปหาอาหารได้ จึงไม่มีอาหารกิน ตั๊กแตนจึงไปขออาหารจากมด แต่ก็ไม่มีใครช่วยเหลือ ตั๊กแตนจึงต้องทนหิวและหนาวต่อไป
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “ผู้ที่ปล่อยวันเวลาให้ผ่านเลยไปอย่างไร้ค่า ชีวิตย่อมพบเพียงความว่างเปล่า”
2. อึ่งอ่างกับวัว
ภาพจาก – www.se-ed.com
หนังสือนิทานเรื่อง “อึ่งอ่างกับวัว” วัวตัวหนึ่งเดินมากินน้ำและเหยียบโดนลูกอึ่งอ่างตายไปหลายตัว เมื่อแม่อึ่งอ่างกลับมา ลูกๆ ก็รีบเล่าให้แม่ฟังด้วยความตื่นกลัวว่า “แม่จ๋าเมื่อกี้มีตัวอะไรไม่รู้ สูงใหญ่ทะมึนเหยียบพวกเราตายไปตั้งหลายตัว น่ากลัวมากเลยจ๊ะ” แม่อึ่งอ่างได้ฟังก็สูดลมพองตัวให้ใหญ่ขึ้นแล้วถามด้วยความอยากรู้ว่า “ตัวใหญ่เท่านี้ไหม? ” ลูกอึ่งอ่างบอกว่า “ใหญ่กว่านี้อีกจ้ะแม่” แม่อึ่งอ่างจึงพองตัวขึ้นอีก แม่อึ่งอ่างนึกฉุนเฉียวจึงพองตัวขึ้นสุดแรงเกิดจนตัวเองทนไม่ไหว ท้องแตกตายที่ริมหนองน้ำแห่งนั้น
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “เมื่อทำสิ่งใดควรรู้จักประมาณตนให้เหมาะสม”
3. กบกับหนู
ภาพจาก – www.se-ed.com
หนังสือนิทานเรื่อง “กบกับหนู” เล่าเรื่องราวของหนูตัวหนึ่งออกเดินทางท่องเที่ยวจนมาถึงลำธาร เพื่อหาอาหาร มันเห็นว่าอีกฝั่งของลำธารมีอาหารอุดมสมบูรณ์ จึงคิดจะข้ามฝั่งไป มันเดินไปหากบที่อยู่แถวนั้น แล้วบอกให้พามันว่ายน้ำข้ามไป แต่กบปฏิเสธ “ข้าก็ตัวพอๆ กับท่าน แล้วข้าจะพาท่านข้ามไปได้อย่างไร” หนูไม่ยอมและยืนยืนที่จะไปให้ได้ ด้วยความรำคาญกบจึงยอมโดยให้หนูเอาเท้าผูกติดกับเท้าของมันแล้วว่ายน้ำพาไป เมื่อมาถึงกลางลำธารกบว่ายน้ำต่อไปไม่ไหวจึงหยุด และก่อนที่ทั้งสองจะจมน้ำไปด้วยกัน ก็มีนกเหยี่ยวตัวหนึ่งบินผ่านมาเห็นเข้า จึงบินโฉบลงมาคาบทั้งสองไปกินพร้อมๆ กัน
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “คิดประโยชน์จากผู้ที่ไม่สามารถให้ได้ ย่อมมีเเต่เสียหาย“
4. หมาป่ากับลูกแกะ
ภาพจาก – www.se-ed.com
หนังสือนิทานเรื่อง “หมาป่ากับแกะ” เล่าถึงหมาป่าตัวหนึ่งเดินมาที่ลำธาร เห็นลูกแกะตัวหนึ่งก้มดื่มน้ำอยู่ปลายลำธารก็คิดจะจับกินเป็นอาหารจึงแกล้งโมโห ตวาดหาเรื่อง ลูกแกะตัวสั่นตอบด้วยความหวาดกลัว จนหมาป่ารู้สึกเสียหน้าแต่ก็ยังพาลต่ออีก หมาป่าเจ้าเล่ห์นิสัยพาลยังไม่ยอมลดละ ว่าต้องเป็นพ่อของเจ้าแน่ๆ ที่พูดให้ร้ายข้า เพราะฉะนั้นเจ้าต้องชดใช้แทนพ่อของเจ้า หมาป่าพูดจบก็กระโจนเข้าขย้ำลูกแกะผู้น่าสงสารทันที
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “คนพาลย่อมหาเรื่องกล่าวร้ายผู้อื่นได้เสมอ แม้ผู้นั้นจะไม่มีความผิดก็ตาม“
5. สุนัขกับเงา
ภาพจาก – www.shopat24.com
หนังสือนิทานเรื่อง “สุนัขกับเงา” เกี่ยวกับสุนัขที่มีนิสัยขี้ขโมยอยู่ตัวหนึ่ง วันหนึ่งมันเดินเข้าไปในตลาดและได้พบเข้ากับเนื้อชิ้นใหญ่ชิ้นหนึ่งวางอยู่ มันไม่รอช้ารีบเข้าไปคาบเนื้อชิ้นนั้นแล้ววิ่งหนีออกมา เมื่อมาถึงกลางสะพานมันก็ชะโงกหน้ามองลงไปในลำธาร แล้วเห็นสุนัขตัวหนึ่งกำลังคาบเนื้อชิ้นใหญ่กว่าที่มันขโมยมาพลันคิดในใจว่า “โอ้โห! ทำไมเจ้าสุนัขตัวนั้นจึงมีเนื้อชิ้นใหญ่กว่าข้าเสียอีก” และด้วยความโลภอยากได้เนื้อชิ้นนั้นมา มันจึงเห่าสุนัขตัวที่อยู่ในลำธารนั้นเพื่อหวังจะแย่งเอาเนื้อที่ชิ้นใหญ่กว่ามาเป็นของตน ในทันใดนั้นเองเนื้อที่คาบอยู่ในปากของมันก็ตกลงไปยังน้ำในลำธารนั้น ซึ่งกว่าจะรู้ว่าสุนัขกับเนื้อชิ้นใหญ่ชิ้นนั้นเป็นเงาของตนเองก็สายเกินไปเสียแล้ว
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “โลภมาก ลาภหาย”
6. กากับนกยูง
ภาพจาก – www.se-ed.com
หนังสือนิทานเรื่อง “กากับนกยูง” เล่าเรื่องกาตัวหนึ่งไม่ชอบใจขนสีดำของตัวเอง จึงคิดแปลงโฉมโดยเก็บขนหางที่นกยูงสลัดทิ้งมาเสียบแซมกับขนของตนมันบินอวดพวกกาด้วยกันและเยาะเย้ยว่า “ดูขนของข้าสิ ทั้งแวววาวและมีสีสันสวยงามกว่าขนดำปี๋ของพวกเจ้าซะอีกข้าจะไปอยู่กับฝูงนกยูงดีกว่า” จากนั้นกาก็ผละจากฝูงของตนเข้าไปอาศัยอยู่กับฝูงนกยูง พวกนกยูงเห็นกาไม่เจียมตัวก็รุมจิกตีจนขนหลุดร่วงพร้อมกับไล่ตะเพิด กาต้องบินซมซานกลับไปหาพวกพ้อง แต่ฝูงกาก็ไม่ยอมให้อยู่ด้วย เจ้ากาหลงตัวเองจึงต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวตั้งแต่นั้นมา
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “จงพอใจในสิ่งที่ตนมี”
7. ราชสีห์กับหนู
ภาพจาก – www.se-ed.com
หนังสือนิทานเรื่อง “ราชสีห์กับหนู”เป็นเรื่องของราชสีห์ตัวหนึ่ง รู้สึกง่วงจึงล้มตัวลงนอนพักผ่อนใต้ร่มเงาไม้ ในขณะที่กำลังเคลิ้มหลับนั้นก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้น มันคำรามด้วย ความโกรธ เพราะหนูตัวหนึ่งขึ้นไปวิ่งเล่นบนหลัง ราชสีห์จึงยกอุ้งเท้าขึ้นตะปบไว้ได้ และจะฆ่ามันเสีย เจ้าหนูสัตว์น้อยๆ พูดขอร้อง ราชสีห์ว่า ” ท่านราชสีห์ โปรดอย่าฆ่าข้าพเจ้าเลย สัตว์ที่สูงศักดิ์ดังท่าน ไม่เหมาะที่จะมาฆ่าสัตว์ต่ำต้อยเช่นข้าพเจ้า “ราชสีห์ได้ฟัง ดังนั้นจึงปล่อยหนูไป ต่อมาไม่นานนัก ราชสีห์ออกล่าเหยื่อ ไปติดบ่วงของนายพรานจึงร้องด้วยเสียงอันดัง เมื่อหนูได้ยินจึงได้ มาช่วยเหลือ หนูกล่าวว่า “อย่ากลัวไปเลย ข้าพเจ้าเป็นเพื่อนของท่าน” ว่าแล้วก็เข้าแทะบ่วงจนขาด ราชสีห์ได้เป็นอิสระ
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “อย่าดูถูกผู้ด้อยกว่าเรา เพราะเขาอาจเป็นผู้ที่ช่วยเหลือเราก็เป็นได้”
8. สุนัขจิ้งจอกกับผลองุ่น
ภาพจาก – www.savecos.com
หนังสือนิทานเรื่อง “สุนัขจิ้งจอกกับผลองุ่น” พูดถึงในป่าอันร่มรื่น มีเจ้าสุนัขจิ้งจอกที่ชอบกลั่นแกล้งสัตว์ตัวเล็กๆ มันจะหัวเราะชอบใจที่ทำให้สัตว์นั้นๆ ตกใจ สักพักมันก็เกิดหิวขึ้นมา มองซ้ายขวาไปเจอองุ่นน่ากิน แต่องุ่นอยู่สูงเกินไปเจ้าสุนัขไม่สามารถเก็บมากินได้ พวกสัตว์ที่เคยถูกสุนัขจิ้งจอกกลั่นแกล้งผ่านมาเห็นเข้า จึงพากันหัวเราะเยาะ สุนัขจิ้งจออกโมโหจึงพูดไปว่า องุ่นนี้ยังไม่สุกคงไม่หวานอร่อยหรอก แล้วมันก็เดินจากไปด้วยความเสียดาย เรื่องนี้สอนว่า
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “คนที่ไม่มีความสามารถจะทำสิ่งใดให้สำเร็จ ก็มักตำหนิสิ่งนั้นว่าด้อยค่าเกินไปเสมอ”
หวังว่านิทานอีสปทั้ง 8 เรื่องที่นำมาแนะนำในวันนี้จะเป็นที่ชื่นชอบของลูกๆ และเป็นตัวช่วยที่ดีในการสอนคุณธรรมให้แก่เด็กๆ นะคะ
ที่มา – www.kalyanamitra.org