fbpx

8 โรคเด็กยอดฮิต ระบาดหนักช่วงหน้าหนาว

Writer : blahblahboong
: 9 พฤศจิกายน 2561

สิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัวในปัจจุบันนี้ มีทั้งฝุ่นละออง สารเคมี และเหล่าบรรดาเชื้อโรคแบคทีเรียต่างๆ ก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วยได้มาก โดยเฉพาะในเด็ก ซึ่งสร้างความทุกข์ใจให้กับคนเป็นพ่อเป็นแม่เสมอ เรามารู้จัก 8 โรคเด็กยอดฮิต ระบาดหนักช่วงหน้าหนาว รวมไปถึงอาการและการดูแลเบื้องต้นกันค่ะ

โนโรไวรัส

โนโรไวรัส Norovirus เชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อท้องเสีย ที่ไม่ได้เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย เป็นโรคที่สามารถติดต่อกันได้ผ่านการรับประทานอาหาร หรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัส

สาเหตุ

เกิดจากการรับประทานอาหาร น้ำดื่มที่มีเชื้อนี้ปนเปื้อน หรือสัมผัสกับพื้นผิวที่มีการปนเปื้อน เช่น จาน ชาม ช้อน

อาการ

  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • ถ่ายเหลวเป็นน้ำ
  • ปวดท้อง

การดูแลเบื้องต้น

  • ดื่มน้ำเกลือแร่
  • ทานอาหารอ่อน
  • ทานยาแก้อาเจียน ยาแก้ปวดท้อง ตามอาการ

โรคมือ เท้า ปาก

พบบ่อยมากในกลุ่มเด็กทารกและเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 10 ปี และจะพบมากในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี ส่วนมากเด็กที่เป็นโรคมือเท้าปากจะเป็นเด็กที่อยู่ในวัยอนุบาล

สาเหตุ

เกิดจากเชื้อไวรัสในกลุ่ม Enteroviruses หากติดจากเชื้อไวรัส coxsackie A16 จะไม่รุนแรงมาก และหายเป็นปกติใน 7-10 วัน แต่ถ้าติดมาจากเชื้อไวรัส Enterovirus 71 ซึ่งแบบรุนแรงอาจทำให้เสียชีวิตได้

  • อาการ
  • มีไข้เฉียบพลัน
  • ปวดหัว ปวดท้อง เมื่อยตัว
  • เจ็บคอ เบื่ออาหาร

การดูแลเบื้องต้น

  • เช็ดตัวหรือกินยาลดไข้
  • เน้นทานอาหารเหลว
  • ดื่มน้ำเยอะๆ

โรคไข้สุกใส

เรียกแบบบ้านๆ ว่าอีสุกอีใสระบาดมากในช่วงช่วงปลายฤดูหนาวถึงต้นฤดูร้อน พบมากในเด็กอายุระหว่าง 5-9 ปี เมื่อหายแล้วจะมีภูมิคุ้มกันโรค

สาเหตุ

สัมผัสถูกตุ่มน้ำโดยตรง หรือสัมผัสของใช้ที่เปื้อนตุ่มน้ำของคนที่เป็นสุกใส และสูดหายใจเอาละอองของตุ่มน้ำ ผ่านเข้าทางเยื่อเมือก

อาการ

  • มีไข้ต่ำๆ
  • ปวดเมื่อยตามตัว
  • มีผื่นขึ้น เป็นตุ่มนูนและตกสะเก็ดภายใน 3-4 วัน

การดูแลเบื้องต้น

เป็นการรักษาตามอาการ หากไม่มีโรคแทรกซ้อนจะสามารถหายได้เองภายในเวลาประมาณ 1-3 สัปดาห์ ไม่ใช่โรคติดต่อร้ายแรง

โรคไข้หวัดใหญ่

เป็นโรคติดต่อทางเดินหายใจ มีความรุนแรงมากกว่าโรคหวัดธรรมดามาก พบได้บ่อยในคนทุกเพศทุกเพศวัย เป็นโรคที่พบได้ตลอดทั้งปี แต่จะพบบ่อยมากในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว

สาเหตุ

ติดต่อผ่านทางการหายใจ การสัมผัส และทางอากาศที่มีการปนเปื้อนเชื้อไข้หวัด

อาการ

  • ไข้ขึ้นสูง 38-41°C
  • ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ
  • ปวดศีรษะมาก
  • อ่อนเพลียมาก
  • เบื่ออาหาร
  • มีอาการเจ็บในคอ คัดจมูก มีน้ำมูกใสไหล

การดูแลเบื้องต้น

  • นอนพักผ่อนให้มาก
  • ไม่อาบน้ำเย็น
  • เช็ดตัวเมื่อมีไข้สูง

โรคตากุ้งยิง

เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ในบางกรณีเกิดจากการอุดตันของต่อมบริเวณเปลือกตา ไม่ได้เกิดจากการแอบดู หรือถ้ำมองแต่อย่างใด

สาเหตุ

เกิดจากการอักเสบของหนังตา ซึ่งอาจเกิดจากการอักเสบของต่อมไขมันบริเวณฐานของขนตาใต้เปลือกตา

อาการ

  • ปวดหนังตา
  • บวมแดงที่เปลือกตา

การดูแลเบื้องต้น

  • ใช้น้ำอุ่นประคบ
  • ปรึกษาแพทย์
  • ไม่ควรซื้อยามาใช้เอง

โรคไมโคพลาสมา

ไมโคพลาสมา Mycoplasma คือโรคติดเชื้อจากแบคทีเรีย เป็นสาเหตุของโรคทางเดินระบบหายใจ โดยเฉพาะกับเด็กๆ สามารถติดเชื้อได้ง่าย มียาปฏิชีวนะในการรักษา แต่ไม่มีวัคซีนป้องกัน และผู้ที่เคยติดเชื้อมีโอกาสติดเชื้อซ้ำได้อีก

สาเหตุ

เกิดจากการใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคนี้ ส่วนใหญ่เกิดในช่วงอายุ 5-20 ปี พบมากในช่วงฤดูร้อนต่อฤดูหนาว มักเกิดในชุมชนหนาแน่น เช่น โรงเรียน ค่ายทหาร เป็นต้น

อาการ

  • ไข้สูงมากกว่า 38°C อาจมีอาการหนาวสั่น
  • ไอแห้งๆ อาการค่อยๆ เป็นมากขึ้น
  • เจ็บคอ คันคอ
  • มีผื่นแดงตามร่างกาย
  • หายใจเร็ว

การดูแลเบื้องต้น

  • ดื่มน้ำมากๆ
  • พักผ่อนให้เพียงพอ
  • มีอาการเกิน 1 สัปดาห์ ควรพบแพทย์

โรคท้องร่วง

โรคท้องร่วง (Diarrhea) คือ การถ่ายเหลว หรือถ่ายเป็นน้ำ มากกว่า 3 ครั้งต่อวัน สามารถหายได้เองใน 2-3 วัน โดยที่ไม่ต้องรักษา แต่ทำให้ขาดน้ำ ขาดเกลือแร่ ซึ่งถ้าเป็นมากทำให้เกิดอันตรายแก่ชีวิต

สาเหตุ

  • การติดเชื้อแบคทีเรีย จากการรับประทานอาหารและน้ำที่ไม่สะอาด
  • การติดเชื้อไวรัส ได้แก่ rotavirus, Norwalk virus
  • การติดเชื้อพยาธิ
  • แพ้อาหาร และนม
  • ลำไส้มีการอักเสบ

อาการ

  • ปวดท้อง
  • คลื่นไส้อาเจียน
  • ถ่ายบ่อยและเป็นน้ำ

การดูแลเบื้องต้น

  • ดื่มน้ำเกลือแร่
  • ขับถ่ายในที่ถูกสุขลักษณะ
  • ล้างมือ เพื่อป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโรค

โรคภูมิแพ้

โรคที่ร่างกายเกิดปฏิกิริยาที่ผิดปกติต่อสารก่อภูมิแพ้ ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังที่เยื่อบุของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย เช่น ผิวหนัง เยื่อบุโพรงจมูก เยื่อบุตาขาว เยื่อบุทางเดินหายใจ หรือเยื่อบุทางเดินอาหาร

สาเหตุ

  • กรรมพันธุ์
  • สิ่งแวดล้อมรอบตัว

อาการ

  • มีผื่นคัน
  • มีน้ำมูก ร่วมกับอาการจาม
  • คัน เคืองตา
  • ไอ หอบหายใจไม่สะดวก

การดูแลเบื้องต้น

  • หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ 
  • ใช้ยาคำแนะนำแพทย์
  • ดูแลตนเองให้มีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรงอยู่เสมอ 
Writer Profile : blahblahboong

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



ข้อมูลทางแพทย์ ข้อมูลทางแพทย์
26 มิถุนายน 2561
Update
12 ตุลาคม 2567

12 ตุลาคม 2567
12 ตุลาคม 2567
anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save