ตั้งแต่เป็นแม่ ความรู้สึกที่ว่าจะทำยังไงให้คุมอารมณ์ของตัวเองไม่ให้ปรี๊ดใส่ลูกว่าทำได้ยากแล้ว การที่แม่จะต้องแบ่งเวลาให้ลูกอย่างเต็มที่ ในขณะที่งานต้องทำก็มีล้นมือเต็มไปหมดนั้น ตุ๊กว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ยากไม่แพ้การควบคุมอารมณ์เลยจริงๆ สำหรับแม่ที่ต้องทำงานไปด้วย สิ่งที่รู้สึกบ่อยที่สุดเลยคือ ความรู้สึกผิดและความสงสัยในตัวเองว่าเราได้ใช้เวลากับลูกเพียงพอแล้วหรือยัง ทำไมใช้เวลากับลูกแค่ไหนเราก็รู้สึกว่าเรายังให้เขาได้ไม่พอ แล้วอะไรที่ทำให้ลูกรู้สึกว่าได้ใช้เวลากับเราอย่างเต็มที่ในขณะที่แม่เองก็ทำงานตามความรับผิดชอบของตัวเองสำเร็จเสร็จสมบูรณ์ ตุ๊ก balance ตารางชีวิตและตารางงานอยู่นาน จนมาเวิคที่วิธีนี้ ที่ตั้งใจอยากจะแชร์ให้หลายๆ คน เผื่อจะเป็นประโยชน์ได้บ้างค่ะ
1. วางตารางในหนึ่งอาทิตย์
วางตารางว่าในหนึ่งอาทิตย์ เราจะให้เวลากับกิจกรรมที่ทั้งเราและลูกสนใจทำร่วมกัน ทำกิจกรรมนั้นๆ ให้เป็นกิจวัตรประจำทุกสัปดาห์ ยกตัวอย่างเช่น เราอาจจะ set วันที่มี movie night ด้วยกันที่บ้าน หรือทุกๆ วันนี้เราจะออกไปตีแบตด้วยกัน
2. ปรับตารางชีวิตให้ยืดหยุ่น
ปรับตารางชีวิตให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อที่เราจะได้มีเวลาให้ลูกมากขึ้นได้
3. ลูกต้องการเวลาคุณภาพ
ให้คิดไว้เสมอว่า เวลาที่มีคุณภาพที่เราได้ใช้ร่วมกันกับลูกคือสิ่งที่ลูกต้องการ ถึงการมีเวลาให้ลูกยิ่งเยอะจะยิ่งดี แต่ถ้าเราไม่ได้มีเวลามากขนาดนั้น การมีเวลาที่มีคุณภาพกับเขาแม้ช่วงสั้นๆ ย่อมดีกว่าการมีเวลามากมายแต่ใจเราไม่ได้อยู่กับเขาเลย
4. ทำกิจกรรมระหว่างวันกับลูก
ทำกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างวันด้วยกันกับลูก เช่น ทานข้าวเย็นพร้อมกัน เข้าครัวทำอาหารพร้อมกัน เล่านิทานให้ลูกฟังก่อนนอน เป็นต้น
5. อย่าเอาความเครียดมาลงที่ลูก
เมื่อไหร่ที่เครียด ลองหาสาเหตุก่อนว่าเราเครียดด้วยเรื่องอะไร แล้วค่อยๆ แก้ที่จุดนั้น พยายามอย่าเอาความเครียดมาลงที่ลูก เพราะจะยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลงและเราจะรู้สึกผิดและเสียใจภายหลังแน่นอน
6. กอดลูกช่วยเยียวยาใจ
เวลาเหนื่อยมากๆ การกอดลูกจะช่วยเยียวยาใจให้คนเป็นแม่ได้เสมอนะคะ 🙂
7. หาเวลาพักผ่อนให้ตัวเองบ้าง
หาเวลาพักผ่อนให้ตัวเองบ้าง โดยอาจจะฝากลูกไว้กับพ่อหรือคนใกล้ชิดสักพัก เพราะการที่เราได้ให้โอกาสตัวเองได้พัก จะช่วยให้เราผ่อนคลายจากทั้งงานและหน้าที่ความรับผิดชอบต่างๆ ที่ล้นมือได้ อย่าคิดว่าการที่เราไม่ได้ดูแลลูกแค่ช่วงเวลาสั้นๆ จะทำให้หน้าที่ความเป็นแม่ของเราบกพร่อง เพราะถ้ายิ่งฝืน ความเครียดและความกดดัน อาจส่งไปถึงลูกได้
8. ให้สามีได้มีบทบาทกับลูกๆ บ้าง
ให้โอกาสสามีได้มีบทบาทกับลูกๆ บ้าง นอกจากจะช่วยแบ่งเบาความเหนื่อยล้าให้คนเป็นแม่แล้ว ยังช่วยให้พ่อลูกสนิทกันมากขึ้นด้วย และการที่เราได้เห็นพ่อลูกเล่นและได้ใช้เวลาร่วมกัน ก็เพิ่มความสุขให้คนเป็นแม่ได้ไม่น้อยเลย จริงไหมคะ 🙂
ลองปรับหรือเอาไปใช้กันได้นะคะ บางบ้านอาจจะทำไม่ได้ทั้งหมดแบบนี้เพราะบริบทของแต่ละบ้านไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่เขียนมานี้ตุ๊กลองทำมาแล้วมันเวิคสำหรับตุ๊ก แล้วตุ๊กเชื่อว่าความรู้สึกว่าเราไม่พอสำหรับลูกจะน้อยลง เพราะในความเป็นจริงคือ เราเป็นแม่ที่โอเคมากสำหรับลูกค่ะ 🙂