คุณแม่หลายๆ ท่านที่ต้องเลี้ยงลูกอยู่ที่บ้านคนเดียว หรือคุณแม่ฟูลไทม์ ที่หลายๆ คนเข้าใจว่าสบาย ง่าย จริงๆ แล้วอาจไม่ง่ายอย่างที่คิดนะคะ เพราะบรรดาคุณแม่ฟูลไทม์ มีโอกาสเกิดอารมณ์ในเชิงลบได้เทียบเท่า หรือมากกว่าคุณแม่ที่ต้องทำงานประจำก็เป็นได้ค่ะ ซึ่งสาเหตุของการเกิดอารมณ์ในแง่ลบมาจากการต้องเลี้ยงลูกอยู่เพียงลำพัง ทำให้คุณแม่ฟูลไทม์มีโอกาสพูดน้อยลง ยิ้มน้อยลง ยิ่งหัวเราะดังๆ แล้วยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งนั่นหมายถึงโอกาสที่พวกเธอจะได้รู้สึกถึงความสุข ความร่าเริง นั้นห่างไกลออกไปทุกทีนั่นเอง วันนี้เรามีวิธีที่จะช่วยลดความเครียดของคุณแม่ฟูลไทม์มาฝากกันค่ะ
1. ลำดับการจัดการปัญหา
หากเกิดความเครียด ก่อนอื่นคุณแม่ต้องมองหาต้นตอของปัญหา และลำดับความสำคัญก่อนหลังของปัญหา จากนั้นค่อยๆ จัดการไปทีละอย่าง เป็นการจัดลำดับเรื่องที่ควรทำและไม่ควรทำ อะไรที่จำเป็นก็ต้องทำ อย่าพยายามแก้ปัญหาพร้อมๆ กัน เพราะจะทำให้คุณแม่เกิดความเครียดมากขึ้น
2. ยิ้มและพูดคุยแต่เรื่องดีๆ กับลูก
การพูดคุย ยิ้ม หรือเล่นกับลูกเป็นตัวช่วยลดความเครียดของคุณแม่ได้ดี เพราะทำให้รู้ว่าคุณแม่ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว การพูดแต่เรื่องดีๆ นอกจากจะมีผลดีกับลูกซึ่งอยู่ในช่วงวัยที่รับรู้ได้รวดเร็วแล้ว ในทางจิตวิทยายังช่วยทำให้จิตใจของคุณแม่ดีขึ้นอีกด้วย
3. ให้เวลากับตัวเองบ้าง
คุณแม่ควรจัดสรรเวลาเพื่อตัวเองบ้าง ไม่ว่าจะไปพบปะเพื่อนฝูง หรือหากิจกรรมสนุกๆ ที่ชอบทำ เช่น เรียนเต้นรำ เรียนทำอาหาร เป็นต้น เพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับชีวิต จะช่วยลดความวิตกกังวลหรือความเครียดไปได้
4. รู้จักระบายความรู้สึก
ถ้าคุณแม่รู้สึกหงุดหงิด หรือรู้สึกอึดอัดคับข้องใจใดๆ ก็อย่าเก็บไว้คนเดียว คุณแม่ควรพูดระบายถึงความรู้สึกที่อัดอั้นนั้นออกมากับใครสักคนที่วางใจได้ ซึ่งตอนนี้กำลังใจจากคุณพ่อจะช่วยได้มากทีเดียว เพราะการที่คุณพ่อคอยเป็นที่พึ่งทางใจให้กับคุณแม่และคอยให้กำลังใจ ชมคุณแม่บ่อยๆ จะช่วยให้คุณแม่ผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ ช่วงเวลาเหล่านี้ไปได้ด้วยดี หรือถ้าไม่มีที่จะระบาย คุณแม่ก็อาจจะเขียนระบายความรู้สึกลงในกระดาษแล้วฉีกทิ้งเสียก็ได้ จะทำให้คุณแม่รู้สึกสบายใจและมีอารมณ์ที่ดีขึ้น
5. ให้นมลูก
การให้นมลูกเป็นอีกหนึ่งเทคนิคช่วยลดความเครียดให้กับคุณแม่ได้ เพราะแม่ที่ให้นมลูก สามารถลดความเครียดต่อปัจจัยต่างๆ รอบข้างได้ดี เนื่องจากการให้นมช่วยให้ฮอร์โมนของคุณแม่ไม่ตกเป็นกราฟพุ่งลงอย่างรวดเร็ว แต่จะค่อยๆ ตกลงมาที่ละน้อย ช่วยลดความเครียดให้แม่ และทำให้แม่หลับได้ง่ายขึ้น ยิ่งถ้าให้นมลูกไปด้วยร้องเพลงไปด้วย จะยิ่งทำให้คุณแม่ และคุณลูกมีความสุขร่วมกันมากขึ้นค่ะ
6. ดูแลเอาใจใส่ตัวเอง
แน่นอนว่าการที่คุณแม่ดูแลเอาใจใส่ตัวเอง ทั้งร่างกายและจิตใจ จะทำให้มีจิตใจแจ่มใสมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์อย่าง ผักและผลไม้สด จะช่วยให้คุณแม่รู้สึกสดชื่นและช่วยให้ระบบต่างๆ ของร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือการได้นอนพักผ่อนอย่างเพียงพอ ทำให้รู้สึกสดชื่น เพราะร่างกายที่อ่อนเพลียนั้นจะทำให้อาการซึมเศร้า หรืออาหารเครียดที่เป็นอยู่เลวร้ายลง
7. ออกกำลังกาย
คุณแม่อย่ามัวแต่อุดอู้อยู่แต่ในบ้านและหมกมุ่นอยู่กับการเลี้ยงลูกมากจนเกินไป คุณแม่ควรปลีกเวลาออกไปเดินเล่นกับลูกหรือออกกำลังกายเบาๆ นอกบ้านในสวนอันร่มรื่นบ้าง ส่วนการเล่นโยคะหรือพิลาทิสก็ช่วยให้คุณแม่ผ่อนคลายได้เช่นกัน ซึ่งการออกกำลังกายนี้จะช่วยให้คุณแม่รู้สึกกระปรี้กระเปร่าและมีอารมณ์แจ่มใสยิ่งขึ้น
ที่มา :