ก่อนจะถึงเวลาที่เจ้าตัวเล็กจะเข้าโรงเรียนครั้งแรก คุณพ่อคุณแม่อาจกังวลว่าควรจะเตรียมตัวให้ลูกยังไง มีอะไรที่ต้องเตรียมพร้อมเป็นพิเศษรึเปล่า วันนี้เราเลยรวม 7 สิ่งที่ต้องเตรียมพร้อมก่อนพาลูกเข้าโรงเรียนมาฝากคุณพ่อคุณแม่ทุกคนค่ะ

การช่วยเหลือตัวเอง
ลูกควรช่วยเหลือตัวเองได้เรื่องพื้นฐาน เช่น การติดกระดุม การถอดเสื้อผ้า การกินข้าว การเข้าห้องน้ำ การอาบน้ำ เพื่อที่ทำให้ลูกรู้สึกภาคภูมิใจและกล้าไปช่วยเหลือเพื่อนๆ ที่ยังช่วยเหลือตัวเองได้น้อย ถือเป็นเรื่องที่ทำให้ลูกมีน้ำใจโดยคาดไม่ถึง
การเล่นกับคนอื่น
พ่อแม่ควรฝึกให้ลูกเล่นตามกติกา เพราะการที่ต้องเล่นตามกติกาเท่ากับเป็นการควบคุมความรู้สึกอยากเอาชนะ ทำให้รู้ว่าทุกอย่างไม่ได้ดั่งใจไปเสียหมด การยอมรับกติกาและรู้จักพ่ายแพ้ได้เพื่อความสนุกของทุกคน การที่พ่อแม่ฝึกฝนให้ดี จะทำให้ลูกเล่นกับเพื่อนได้สนุก แต่ถ้าพ่อแม่ยอมให้ลูกชนะ มีการเปลี่ยนกติกาเพื่อลูก ก็จะทำให้ลูกเล่นและเข้ากับเพื่อนได้ยาก
การเล่นขั้นพื้นฐาน เช่น เล่นซ่อนหา วิ่งไล่จับ จระเข้ขึ้นบก
ความสัมพันธ์ระหว่างมือและตา
พ่อแม่ต้องฝึกให้ลูกใช้มือได้คล่องทั้งสองข้าง เพราะการใช้ชีวิตในโรงเรียนทั้งในและนอกห้องเรียนจำเป็นต้องมีรากฐานการใช้มือที่ดีและจะต้องมีการประสานกันระหว่างมือกับตา ทั้งในการเขียนหนังสือ วาดรูป พับกระดาษ รวมไปถึงการเล่นโยนลูกบอล เป่ายิงฉุบ เล่นหมากเก็บ ซึ่งการฝึกเล่นหรือทำสิ่งเหล่านี้ก็จะช่วยให้ลูกใช้มือได้คล่องและประสานกับตามากขึ้น
การใช้กล้ามเนื้อใหญ่
กล้ามเนื้อใหญ่คือกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกาย อย่างแขนหรือขา พ่อแม่ควรส่งเสริมให้ลูกออกกำลังกายและเล่นกลางสนามให้มากที่สุด เช่น การวิ่ง ถีบจักรยาน เตะบอล ว่ายน้ำ เพราะจะช่วยให้กล้ามเนื้อแขนขาเติบโตแข็งแรง ทำงานได้คล่องแคล่ว อีกทั้งยังให้ความสนุกและช่วยคลายเครียดได้ด้วย
การพูดและการสื่อภาษา
เด็กวัยเข้าโรงเรียนหรืออายุ 3 ขวบสามารถนำคำมาผสมเป็นประโยค และพูดให้เราเข้าใจเนื้อหาได้มากเกินครึ่ง ซึ่งการฝึกพูดนั้นต้องฝึกทั้งที่บ้านและที่โรงเรียนในบรรยากาศสบายๆ ค่อยเป็นค่อยไป ไม่ต้องบังคับให้ลูกพูดได้ เพราะจะสร้างความกดดันจนลูกไม่กล้าพูด นอกจากจะฝึกให้พูดได้แล้ว ยังต้องสอนให้ลูกกล้าพูดด้วย โดยเด็กจะพัฒนาความสามารถในการพูดและสื่อความหมายได้ใกล้เคียงผู้ใหญ่ตอนอายุประมาณ 7 ขวบ
การจัดการกับอารมณ์ของตัวเอง
การที่พ่อแม่ให้ความรักความอบอุ่นกับลูกจนลูกมั่นใจในความรักของพ่อแม่จะช่วยให้ลูกสามารถพิมพ์ภาพพ่อแม่ไว้ในใจ และจัดการกับความกังวลที่ต้องพลัดพรากจากพ่อแม่ที่เป็นที่รักได้ดีมากขึ้น ในช่วงแรกลูกอาจทำได้ไม่ดี มักร้องไห้งอแง กอดแม่ไม่ปล่อย ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติใน 2 อาทิตย์แรก ที่พ่อแม่ควรทำคือใจแข็งเข้าไว้
การปรับตัว
พ่อแม่ควรฝึกให้ลูกทำอะไรเป็นเวลา เวลากินก็ควรกิน เวลานอนก็ควรนอน เพราะเมื่อลูกเข้าโรงเรียนแล้วทุกอย่างล้วนมีเวลากำกับ นอกจากนี้การไปโรงเรียนที่ถือเป็นเรื่องที่ปรับตัวที่ค่อนข้างยากสำหรับลูก เพราะเหตุการณ์ต่างๆ ไม่เหมือนที่บ้าน ทั้งรสชาติอาหาร สภาพแวดล้อม มีกติกาต่างๆ เพิ่มเข้ามามากมาย ดังนั้นการที่ให้ลูกได้อยู่ในโรงเรียนอนุบาลที่มีบรรยากาศสบายๆ มีคุณครูที่เข้าใจเด็กก็จะช่วยให้ลูกปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ได้ดีขึ้น
ข้อมูลอ้างอิงจาก