การนอนเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับเด็กมากๆ โดยเฉพาะในเด็กทารก เพราะช่วงแรกเราจะเห็นว่าลูกนอนอย่างเดียว นอนทั้งวัน ซึ่งหลายครั้งเราก็อาจมีคำถามเกี่ยวกับการนอนของลูก เช่น นอนยังไงให้ลูกหัวสวย วันนี้เราจึงรวบรวม 7 สิ่งที่พ่อแม่ต้องรู้เกี่ยวกับการนอนของลูกมาฝากคุณพ่อคุณแม่ทุกคนค่ะ
1. ท่านอนสำหรับเด็กแต่ละช่วงวัย
เด็กแรกเกิด – 4 เดือน
เด็กวัยนี้นอน 16-20 ชั่วโมง ยังนอนไม่เป็นเวลา นอนกลางวันพอๆ กับกลางคืน ควรนอนตะแคงหรือนอนหงาย เพราะพัฒนาการที่กล้ามเนื้อคอยังไม่แข็งแรง ทำได้เพียงหันซ้ายหันขวา
เด็กวัย 5-6 เดือน
เริ่มนอนเป็นเวลา นอนคว่ำได้ และเด็กยกคอได้เพราะคอเริ่มแข็งแรง แต่ยังต้องเฝ้าดูอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา เพราะอาจเกิดการอุดกลั้นการหายใจได้
เด็กวัย 7-12 เดือน
สามารถนอนได้ทุกท่าเพราะเด็กพลิกตัวเองได้แล้ว แต่ว่าพ่อแม่ต้องคอยสังเกตตัวเด็กและสภาพแวดล้อมรอบตัวเด็กอยู่เสมอ เช่น บนที่นอนต้องไม่มีอะไรมาปิดหน้าเด็กในระหว่างนอนหลับ
2. ท่านอนที่เหมาะสม
ท่านอนที่เหมาะสมคือนอนหงาย ท่านอนที่อันตรายคือนอนคว่ำ
จากการวิจัยหลายแหล่งพบว่าการนอนคว่ำในเด็กทารกมีความเสี่ยงต่อการกดทับจมูกปากจนขาดอากาศหายใจมากกว่าการนอนหงาย 2-7 เท่าตัว ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อโรคการตายฉับพลันของเด็กทารกโดยไม่ทราบสาเหตุหรือที่เรียกกันว่าโรค SIDS (sudden infant death syndrome) แต่ก็สามารถให้นอนคว่ำได้ โดยทำได้ในเฉพาะเวลาที่เด็กตื่นและต้องมีพ่อแม่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด
3. อยากให้ลูกหัวทุย
นอนตะแคงซ้ายและขวาสลับกันไป ให้กอดหมอนข้างเพื่อป้องกันการหน้าคว่ำ หรือไม่ก็ให้นอนหงายแต่ใช้การพลิกหน้าซ้าย ขวา
4. ลูกนอนไม่พอส่งผลยังไง
จะมีผลในเรื่องของอารมณ์ หงุดหงิดง่าย เลี้ยงยาก งอแง มีอารมณ์หงุดหงิด เพราะนอนได้ไม่เต็มอิ่ม การเจริญเติบโตอาจจะไม่ดีเท่าที่ควร
5. ลูกนอนเตียงเดียวกับพ่อแม่ดีไหม
พ่อแม่ควรแยกที่นอนกับลูก แยกที่นอนมาอยู่ด้านข้างผู้ใหญ่ด้วยระยะห่างประมาณเอื้อมมือถึง ไม่นอนระหว่างผู้ใหญ่หรือติดชิดกับผู้ใหญ่เพราะอาจเผลอนอนเบียดหรือทับเด็กจนหายใจไม่ออก หรือโดนผ้าห่ม หมอนของพ่อแม่ทับเด็กโดยไม่รู้ตัว
6. การเลือกที่นอนให้ลูก
ที่นอนควรค่อนข้างแข็ง ไม่นุ่มหรือยวบจนเกินไป ไม่ควรปูเบาะเพิ่ม และไม่ควรมีเครื่องนอนเยอะ ผ้าห่มไม่ควรเป็นผ้านวม เพราะหน้าของเด็กอาจจุ่มลงไปแล้วกดจมูกและปากเป็นเหตุให้ขาดอากาศหายใจเสียชีวิตได้
7. สถานที่ที่เหมาะสมกับการนอน
ต้องเป็นสถานที่ค่อนข้างโปร่ง อากาศถ่ายเทได้ดี ถ้าเป็นห้องแอร์อุณหภูมิก็ไม่ควรเย็นเกินไป อุณหภูมิที่เหมาะสมคือ 25-27 องศาเซลเซียส
ข้อมูลอ้างอิงจาก