ในช่วงนี้ที่กำลังมีประเด็นเกี่ยวกับการวางตัวระหว่างความต่างเพศของเด็กและผู้ปกครอง และมีข้อถกเถียงกันอยู่หลายประเด็นซึ่งคุณหนุ่มกรรชัยหรือพิธีกรชื่อดังจากโหนกระแสผู้มีลูกสาวตัวน้อยเองก็ได้ให้ข้อคิด และความเห็นเกี่ยวกับเรื่องการจับต้องร่างกายของลูกสาวเอาไว้อยู่หลายประเด็นเลยล่ะค่ะ
ซึ่งแนวคิด และมุมมองนั้นนับว่ามีประโยชน์อย่างมากเลยทีเดียว ในการนำมาปรับใช้กับการดูแลคนพิเศษในบ้านขอเรา จะมีข้อคิดไหนบ้างที่สามารถนไปประยุกต์ใช้ได้ เรามาดูไปพร้อมๆ กันเลย!
หลังจากที่มีประเด็น คนถามผมเยอะมากว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ควรหรือไม่ควร
ในมุมผม ผมไม่เห็นด้วย ผมเข้าใจบริบทว่าการเลี้ยงลูกแต่ละบ้านไม่เหมือนกัน ผมไม่รู้ใครคิดอย่างไร แต่ในมุมผมเอง ผมไม่ทำแบบนี้ ผมเป็นคนเข้มงวดมากๆ ผมไม่เคยอาบน้ำกับลูกสาวเลย ตอนเด็กผมเคยอาบน้ำให้แก แต่พอเริ่มโตผมก็จะมีระยะของผม ลูกของผมอาบน้ำ แม่ของเขาจะเป็นคนอาบ ผมจะไม่เกี่ยว ผมจะไปอยู่ข้างนอก
ถ้าลูกวิ่งแก้ผ้ามา ผมจะบอกลูกว่า ลูกทำแบบนี้ไม่ได้นะลูก ป๊าเป็นผู้ชาย หนูต้องอาบน้ำห่มผ้าเช็ดตัวออกมา เรื่องนี้มันไม่เหมาะนะลูก หนูเป็นผู้หญิง แต่ถ้าหนูอยากทำแบบนี้ หนูเป็นผู้ชายมั้ยล่ะ ถ้าเป็นผู้ชายป๋าดูได้ เป็นผู้หญิง ป๊าดูไม่ได้
การโดนเนื้อต้องตัวกัน ลูกสาวผมเป็นประเภท ป๊าเกาหลังให้หน่อย ผมก็เกาให้ ก็อาจจะมีที่ล้วงไปเกาให้ใต้เสื้อ และก็แค่นี้ อาจมีการกอด หอม ก่อนออกไปทำงานลูกก็จะมาจุ๊บปากผมบ้าง
ถ้าผมเข้าห้องน้ำผมจะไม่ยืนฉี่ ผมจะนั่งฉี่ด้วยสองสาเหตุ
1. ผมกลัวไม่ได้ล็อกประตูและลูกสาวผมจะเข้ามาเห็นผมยืนฉี่อยู่ ผมไม่อยากให้ลูกสา
2. พอผมยืนฉี่ มันอาจจะกระเด็นเลอะขอบฝาและลูกสาวผมต้องไปนั่งฉี่ ผมไม่อยากให้โถที่นั่งไม่สะอาด ผมก็เลยต้องนั่งฉี่ ซึ่งก็ติดเป็นนิสัยไปแล้ว
ผมเข้าใจในบริบทของการรักลูกผมเชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนก็รักลูกหมด ผมคิดว่าพ่อแม่บางคนไม่มีพฤติกรรมหรือเหตุจูงใจที่จะไปล่วงละเมิดลูก แต่เรื่องบางเรื่องมันเหมือนสีดำที่ติดอยู่บนจมูก และเรามองไม่เห็นเราก็ไม่รู้สึกอะไรเพราะเราไม่เห็นแต่คนอื่นเขาเห็น เขาก็เตือนคุณ
คุณแค่ต้องเช็ดมันออก มันก็เท่านั้นเอง มันเป็นที่ควรเอากลับไปพินิจ พิจารณาเพราะตอนนี้มันมีเรื่องของสิทธิของเด็กด้วย ไม่ควรไปโดนเนื้อโดนตัว
การโดนเนื้อโดนตัว ไม่ใช่แค่กับผู้ชายนะ ผู้หญิงเองก็เช่นกัน เมื่อลูกคุณโตแล้ว ล้างก้น ทำความสะอาดตัวเองตอนอึ ฉี่ไปแล้ว เราต้องหยุดพฤติกรรมที่ไปล้างก้น ล้างอะไรให้เขา
แม้กระทั่งรูปถ่ายเอง คุณเห็นผมลงรูปลูกสาวทุกรูปเนี่ยนะ ผมขออนุญาตลูกสาวผมทุกครั้ง ผมจะถาม ” ป๊าลงรูปนี้ได้มั้ยลูก ” ถ้าลูกบอกไม่เอา ผมก็ไม่ลง ถ้าเขาบอกได้ ผมลง แม้กระทั่งรูปที่ผมเคยลงในอดีตอาจจะมีรูปที่เขาตอนเด็กๆถอดเสื้อเอาสติ๊กเกอร์แปะเอาไว้ พอเขาเริ่มโต ผมก็จะเอามาถามเขาอีกครั้งว่า รูปนี้ให้ป๊าลบมั้ย หนูโอเคมั้ย เขาตอบผมได้แล้ว 6-7 ขวบ
รูปเขา ผมก็ต้องขออนุญาตเขา เราต้องเคารพสิทธิ์ซึ่งกันและกัน
เราต้องเคารพสิทธิ์ซึ่งกันและกัน เพราะบางทีเด็กเขาไม่เข้าใจหรอก แต่เราสามารถปลูกฝังเขาได้ มันมีเยอะแยะมากมาย เราต้องค่อยๆ เรียนรู้
ผมเคยพาลูกสาวไปหาจิตแพทย์ คนอื่นด่าผมยับเลยนะ ว่าผมนี่แหละโรคจิต ต้องไปหาหมอไม่ใช่ลูกซึ่งมันไม่ใช่ ผมพาไปเพื่อให้เข้าใจพัฒนาการของลูก บางครั้งเด็กก็จะมีมุมของเขา เราคิดไม่ออกตอบไม่ได้ แต่หมอตอบได้ ผมว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องลึกซึ้ง
ที่มา : เที่ยงวันทันข่าว วันที่ 27 ตุลาคม 2564