การที่คุณพ่อคุณแม่ซื้อของเล่นให้ลูกเล่นเยอะๆ ลูกจะยิ่งเรียนรู้มากจริงหรือ?
การเล่นของเจ้าตัวน้อย ถือเป็นส่วนสำคัญในชีวิตที่ขาดไม่ได้เลยค่ะ คุณพ่อคุณแม่บางท่านคิดว่า ถ้าอยากให้ลูกมีพัฒนาการที่ดี ก็ต้องยอมซื้อของเล่นให้ลูกเยอะๆ ตรงกันข้ามเลยค่ะ สำหรับเด็กวัยแรกเกิด จนถึงอายุ 5 ขวบ เขากลับไม่ได้ต้องการของเล่นมากมายแต่อย่างใด แต่สิ่งที่ลูกต้องการ และรอคอยมากที่สุด นั่นก็คือ เวลาที่จะได้เล่นสนุกกับคุณพ่อคุณแม่เพียงเท่านั้น
เพราะของเล่นที่ดีที่สุดของลูก ก็คือ คุณพ่อคุณแม่ค่ะ วันนี้เราเลยขอแนะนำ 6 กิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ครอบครัว ฝึกให้เด็กพัฒนาสมองผ่านการเล่น ถ้าพร้อมแล้ว ไปอ่านกันได้เลยค่ะ
เคล็ดลับการทำกิจกรรมร่วมกับเจ้าตัวเล็ก
ก่อนที่เราจะไปเล่นกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันกับลูก Parents One ขอแนะนำเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ให้คุณพ่อคุณแม่ได้อ่านเตือนใจก่อนไปเล่นกับเจ้าตัวเล็ก จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
- ห้ามใช้อารมณ์เด็ดขาด
ในการเล่นร่วมกันกับเด็ก คุณพ่อคุณแม่ต้องห้ามใช้อารมณ์เป็นที่ตั้งเด็ดขาด แต่ให้ใช้การพูดคุยด้วยเหตุผลแทน หากมีเหตุจำเป็นจริงๆ ก็ให้พาตัวเองออกมาก่อนค่ะ เพราะเด็กในวัยนี้เขายังไม่รู้เรื่องอะไร และอาจทำผิดโดยที่ไม่ได้เจตนานั่นเอง
- ให้ลูกเป็นคนนำเล่นกิจกรรมต่างๆ
การเล่นกับลูก เราควรให้ลูกเป็นคนเริ่มต้นนำเล่นค่ะ หากคุณพ่อคุณแม่จะเล่นด้วย หรือช่วยให้ลูกได้เล่น ต้องจำให้ขึ้นใจว่าต้องเล่นตามเท่านั้น เพราะถือว่าเป็นการฝึกทักษะความเป็นผู้นำในตัวของลูก และเป็นการให้อิสระในการเล่นกับเขาด้วยนั่นเอง
- เล่นกิจกรรมให้เหมาะสมกับช่วงวัยของลูก และเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก
ก่อนที่จะเล่นกิจกรรมใดก็ตาม คุณพ่อคุณแม่ควรคำนึงถึงกิจกรรมที่มีความเหมาะสมกับวัยของลูกน้อย เพื่อให้ลูกได้สนุก และมีความสุขในการเล่นอย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังต้องคำนึง และดูแลเรื่องความปลอดภัยของลูกน้อยเป็นหลักอีกด้วย
DIY สร้างบ้านลังกระดาษ สอนลูกให้รู้จักคุณค่าสิ่งของเหลือใช้
เหมาะสำหรับเด็กวัย : 4 – 6 ขวบ
บางครั้งเด็กๆ ก็ต้องการพื้นที่ส่วนตัวของเขาบ้าง การนำกล่องลังที่เหลือใช้มาสร้างเป็นอาณาจักรเล็กๆ ก็เพื่อให้ลูกได้มีพื้นที่ส่วนตัวในการฝึกเล่นกับจินตนาการ และเสริมทักษะความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างลงตัว ยิ่งได้เล่นแสดงบทบาทสมมติกับคุณพ่อคุณแม่แล้ว ยิ่งเพิ่มความสนุกสนานของลูกได้เป็นอีกเท่าตัวเลยค่ะ
การเล่นบ้านลังกระดาษ ซึ่งเป็นของเล่นที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรมากมายเลยค่ะคุณพ่อคุณแม่ เพราะเราสามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งของเหลือใช้ หรือสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวมาประดิษฐ์เป็นบ้านลังกระดาษได้นั่นเอง ซึ่งเป็นการฝึกให้ลูกรู้จักคุณค่าในสิ่งของที่เหลือใช้ ไม่ให้ติดนิสัยฟุ่มเฟือย และเป็นแบบอย่างให้ลูกยึดวิถีพอเพียงนั่นเองค่ะ
นอกจากความสนุก สิ่งที่ได้กลับมาอีกอย่าง ก็คือ ความภูมิใจในตัวของคุณพ่อคุณแม่ที่แบบพยายามประดิษฐ์ของเล่นให้ลูกๆ แถมยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ของครอบครัวให้แน่นเเฟ้นเข้าไปอีก เห็นไหมล่ะคะว่า ของเล่นที่เล่นแล้วสนุก ไม่จำเป็นต้องมีราคาแพง
ขยำ เล่น ก่อ ในบ่อทราย ฝึกให้ลูกใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก
เหมาะสำหรับเด็กวัย : 3 – 5 ขวบ
ทำไมหลายครอบครัวจึงส่งเสริมให้ลูกเล่นทราย นั่นเพราะ การเล่นทรายช่วยเสริมพัฒนาการในด้านต่างๆ ของเขาได้อย่างดีเลยค่ะ ทั้งด้านสรีระร่างกาย และด้านอารมณ์ เช่น
- ด้านสรีระร่างกาย : ช่วยฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็กให้ลูกเล่นได้อย่างอิสระ ไม่มีถูกหรือผิด ทำให้เด็กรู้สึกผ่อนคลาย เพราะไม่ถูกกดดันทำให้พวกเขาสามารถแสดงออกถึงจินตนาการได้อย่างอิสระเสรี รวมทั้งสร้างความสัมพันธ์ในการทำงานของกล้ามเนื้อ และสมองด้วยค่ะ
- ด้านอารมณ์ : การเล่นทราย ช่วยให้เด็กไม่รู้สึกเบื่อง่าย เพราะทรายสามารถเปลี่ยนแปลงรูปร่างต่างๆ ได้มากมาย เพียงแค่เรามีแม่พิมพ์เล่นทราย ก็สามารถก่อปราสาททรายเล่นกับลูกๆ ได้ หรือจะทำเป็นรูปสัตว์โลกทะเลต่างๆ ก็ได้เช่นกัน ที่สำคัญ ยังช่วยฝึกให้เด็กมีความคิดสร้างสรรค์ และพัฒนาให้เป็นเด็กที่มีความสุขในตัวเองด้วยค่ะ
ใครว่าการเล่นบ่อทราย จะต้องมีกระบะทรายที่มีขนาดใหญ่ หรือต้องเสียเงินราคาแพงมาทำกระบะทรายให้ลูกเล่นเสมอไป เพราะเราสามารถประดิษฐ์บ่อทรายเล็กๆ ด้วยวิธี DIY ง่ายๆ ได้นั่นเองค่ะ โดยการใช้โต๊ะที่มีขนาดพอเหมาะให้ลูกได้มีพื้นที่เททราย และได้สัมผัสทราย จากนั้นให้หงายโต๊ะขึ้น แล้วนำผ้ามาพันรอบๆ ขาโต๊ะหลายรอบ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ และเสริมความปลอดภัยให้เจ้าตัวน้อย จากนั้น จึงนำผ้ามาปูทำเป็นพื้นรองนั่ง แล้วจึงนำทรายเทลงไปอีกทีค่ะ เพียงเท่านี้ เราก็จะได้กระบะ DIY เล่นบ่อทราย ให้ลูกน้อยกันแล้ว
อ่านนิทานภาพให้ลูกฟัง สอดแทรกทักษะฝึกภาษาที่หลากหลาย
เหมาะสำหรับเด็กวัย : 1- 5 ขวบ
การเล่านิทานภาพไม่จำเป็นต้องเล่าแค่เฉพาะก่อนนอนนะคะคุณพ่อคุณแม่ หากมีเวลาว่างก็สามารถหยิบหนังสือมาอ่านข้างๆ ลูกได้ นอกจากนี้ การอ่านนิทานภาพให้ลูกฟังยังสามารถสอดแทรกการเรียนรู้ภาษาต่างๆ ที่หลากหลาย เพราะเจ้าตัวน้อยมักจะจดจำคำพูดต่างๆ ที่วนซ้ำไปมา ให้เด็กเพลิดเพลินไปกับนิทานที่คุณพ่อคุณแม่เล่าให้เขาฟังนั่นเองค่ะ
การเลือกนิทานภาพ คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกเล่มที่มีกิจกรรมภายในเล่ม เช่น สามารถเคลื่อนไหว หรือขยับภาพได้ หรือมีอุปกรณ์ต่างๆ แถมมาด้วยในหนังสือให้เด็กได้ลองสัมผัส ยิ่งดึงดูดให้เด็กเกิดความรู้สึกสนใจเป็นอย่างมากค่ะ เรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ การใช้น้ำเสียงสูง – ต่ำ ในการเล่านิทาน เพื่อกระตุ้นให้เด็กรู้สึกสนใจ สร้างภาพจินตนาการที่ชัดเจน และทำให้รู้สึกอยากฟังต่อค่ะ
เล่นสวมบทบาท เสริมสร้างจินตนาการสุดอัศจรรย์
เหมาะสำหรับเด็กวัย : 3 – 6 ขวบ
การเล่นบทบาทสมมติเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้เจ้าตัวเล็กได้ฝึกจินตนาการ พัฒนาสมอง รวมทั้งความมีเหตุมีผลได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ เพราะเด็กๆ มักจะนำประสบการณ์ที่พบเห็นในชีวิตจริง มารวมกับจินตนาการที่เคยเห็นจากการ์ตูน นิทาน รวมทั้งการสวมบทบาทเป็นอาชีพต่างๆ ทำให้ลูกมีอิสระทางความคิด จึงถือเป็นการเล่นเพื่อผ่อนคลาย อยากเป็นอะไรก็ได้เป็น ไม่มีขอบเขตมากั้นขวาง จึงทำให้ลูกมีพัฒนาการที่ดีทั้งกายใจ และสมองนั่นเองค่ะ
ที่สำคัญ คือ ลูกได้ฝึกการโต้ตอบแม้ว่าเขาจะคุยคนเดียว หรือเล่นกับตุ๊กตาก็ตาม เพราะการเล่นบทบาทสมมติทำให้เด็กได้รู้จักการคิดในมุมของคนอื่น และเรียนรู้ที่จะพูดตอบโต้กับสิ่งมีชีวิตที่คิดต่างไปจากตนเองค่ะ
การที่คุณพ่อคุณแม่สละเวลามาเล่นด้วยกันกับลูก นอกจากจะกระชับความสัมพันธ์พ่อแม่ลูกแล้ว ยิ่งเพิ่มความสนุกสนานในการสวมบทบาท และสร้างจินตนาการที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงให้กับลูกเพิ่มขึ้นอีกด้วย
เกมกระจกเงา ชวนพ่อแม่มาสะท้อนผ่านลูก
เหมาะสำหรับเด็กวัย : 4 – 6 ขวบ
เพราะการเลียนแบบ คือนิสัยประจำวัยของเด็กๆ ไม่ว่าจะเลียนแบบพฤติกรรม ท่าทาง รวมทั้งคำพูดคำจา ซึ่งคุณพ่อคุณแม่บางท่านอาจจะไม่ได้สังเกต ว่าลูกๆ นั้นคอยสังเกต และจับตาดูพฤติกรรมเราอยู่ตลอดเวลานั่นเองค่ะ
เกมกระจกเงา เป็นเกมที่สอดแทรกแง่คิดให้คุณพ่อคุณแม่เห็นถึงความสำคัญของการเลี้ยงดูภายในครอบครัว ซึ่งสามารถเชื่อมโยงกับบุคลิกนิสัยของเด็ก เพราะเด็กจะเติบโตขึ้นมามีนิสัยอย่างไร? ก็ขึ้นอยู่กับวิธีการสอน และการเลี้ยงดูของคนในครอบครัวในวัยเด็กนั่นเอง เรียกได้ว่าพ่อแม่เป็นอย่างไร? ลูกก็เป็นอย่างนั้นนั่นเองค่ะ
ซึ่งวิธีการเล่นเกมกระจกก็ง่ายมากๆ ค่ะ นั่นคือ ให้คุณพ่อหรือคุณแม่นั่งตรงข้ามกันกับเจ้าตัวเล็ก แล้วแบ่งหน้าที่กันว่าใครจะรับบทเป็นเงาในกระจก ใครจะรับบทเป็นคนที่อยู่หน้ากระจก กติกาคือ ให้คนในกระจกทำท่าทางต่างๆ เลียนแบบคนหน้ากระจกค่ะ
เกมนี้จะช่วยให้เด็กรู้จักการสัมผัสสิ่งต่างๆ รอบตัว แถมคุณพ่อคุณแม่ยังสามารถฝึกภาษาให้ลูกไปในตัวได้ด้วยนะคะ เช่น คุณแม่เอานิ้วไปชี้ที่จมูก แล้วพูดคำว่า nose ลูกก็จะสามารถจดจำได้ว่า nose คือต้องชี้ไปที่ไหนนั่นเองค่ะ หรือบางครั้งเราก็ลุกขึ้นยืนหรือว่าทำอะไรต่างๆ ที่แตกต่างออกไป สอนให้ลูกเป็นคนที่เข้าใจอะไรง่ายๆ โดยเน้นความสนุก และลูกทำตามได้ง่าย ก็จะช่วยให้เกิดกระบวนการในการเรียนรู้ในการพัฒนาสมองได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งพฤติกรรมของเขาได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ พอเล่นได้สักระยะหนึ่งแล้วก็สามารถสลับตำแหน่งกันได้ค่ะ เป็นเกมที่สร้างเสียงหัวเราะให้ดังทั้งครอบครัวทีเดียวค่ะ
ปลดปล่อยจินตนาการ ใช้สีสร้างสรรค์ในกระดาษวาดรูปขนาดยักษ์
เหมาะสำหรับเด็กวัย : 3 – 6 ขวบ
หากคุณพ่อคุณแม่อยากรู้ว่าลูกคิดอะไรอยู่? ลองให้เขาวาดรูปสิคะ
การวาดรูปของเด็กนั้น เป็นกิจกรรมที่ช่วยให้เด็กกล้าแสดงออกทางความคิดได้อย่างอิสระ ผ่านลายเส้นที่พวกเขาได้วาดรูปลงไป ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ไม่มีผิดไม่มีถูก ให้ลูกได้ลองวาดภาพออกมาตามแต่จินตนาการของเขา ทำให้คุณพ่อคุณแม่สามารถรับรู้ว่าภายในจิตใจลึกๆ ของลูกนั้น ว่ากำลังคิด หรือนึกถึงสิ่งใดอยู่
ซึ่งเด็กบางคนชอบวาดรูปมาก กระดาษหมดไปหลายแผ่นเลยทีเดียว ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะเราขอเสนอ กระดาษวาดรูปขนาดยักษ์ ซึ่งสามารถทำได้เองได้ง่ายๆ ที่บ้าน เพียงแค่มีกระดาษลังค่ะ ที่ๆ ลูกจะได้ปลดปล่อยจินตนาการทางความคิด และผลงานชิ้นโบว์แดงที่รอให้คุณพ่อคุณแม่มาชื่นชมนั่นเอง
นอกจากนี้ ลูกจะยิ่งตั้งใจวาดรูปมากขึ้น หากคุณพ่อคุณแม่เข้ามาเขา หรือสนใจในสิ่งที่เขาวาดว่ามันคืออะไร เราอาจจะเริ่มการเปิดประโยคชวนคุยด้วยคำถาม “นี่หนูกำลังวาดรูปอะไรอยู่ลูก? พ่อขอทายหน่อยได้ไหมครับ” ทำให้ลูกจะรู้สึกดีที่คุณพ่อคุณแม่ให้ความสนใจเขาทำในสิ่งที่ตัวเอง และที่สำคัญ เมื่อลูกวาดเสร็จ อย่าลืมพูดชมให้กำลังใจด้วยความรักที่จริงใจด้วยนะคะ จะยิ่งทำให้ลูกรู้สึกภูมิใจในตัวเองมากขึ้นนั่นเองค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับ 6 กิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ครอบครัวที่เราตั้งใจนำเสนอ การเล่นของเด็กจะมีผลต่อพัฒนาการมากน้อยเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบของคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องมีส่วนร่วมแล้วก็เข้ามาช่วยเหลือ และเล่นไปกับพวกเขาด้วยนะคะ
ของเล่นมากน้อยเพียงใด ก็สู้เล่นกับพ่อแม่ไม่ได้อยู่ดีนั่นเองค่ะ
#แบ่งเวลามาเล่นกับลูก