fbpx

5 วิธีเสริมสร้างความเก่ง & สตรองให้เจ้าตัวเล็ก

Writer : Lalimay
: 5 สิงหาคม 2564

ความเก่งของลูกเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่หลายคนพยายามเสริมสร้างให้เจ้าตัวเล็ก แต่สมัยนี้แค่เก่งอย่างเดียวคงไม่พอ แต่ลูกต้องสตรองด้วยถึงจะอยู่รอดบนโลกใบนี้ได้ เพราะไหนจะโรคภัยต่างๆ หรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นในสังคม ดังนั้นจึงต้องอาศัยทั้งความแข็งแรงและความฉลาด เพื่อให้ลูกแกร่งและเก่งได้ดั่งใจฝัน พร้อมปรับตัวและใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ ซึ่งทั้ง 2 อย่างนี้เราสามารถสร้างให้ลูกได้ตั้งแต่ยังเล็กค่ะ

วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับที่ช่วยให้ลูกเก่งและสตรองมาฝากค่ะ จะมีวิธีไหนบ้างตามมาอ่านกันได้เลย

1. ฝึกให้ลูกทำกิจวัตรประจำวันเอง

เรื่องแรกเป็นเรื่องง่ายๆ แต่เป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรฝึกลูกให้ทำให้ได้ก่อน 3 ขวบ นั่นคือการที่ให้เขาสามารถดูแลตัวเองได้ ทำกิจวัตรประจำวันง่ายๆ ได้ เช่น รับประทานอาหารเอง ใส่หรือถอดเสื้อผ้าเอง ฝึกขับถ่ายเอง หรือแม้กระทั่งการเก็บของเล่นหลังเล่นเสร็จก็มีประโยชน์เช่นเดียวกันค่ะ

โดยที่คุณพ่อคุณแม่ควรฝึกให้ลูกทำเป็นเวลาอย่างสม่ำเสมอ เพราะจะช่วยให้ลูกรู้สึกปลอดภัยเมื่อได้ทำในสิ่งที่เขาคุ้นเคย นอกจากนี้ยังเป็นการฝึกให้ลูกมีความรับผิดชอบและรู้ว่าตัวเองควรทำอะไรในเวลาไหนโดยที่เราไม่ต้องบอกหรือพูดซ้ำๆ ที่สำคัญคือยังทำให้ลูกเกิดความมั่นใจในตัวเอง ว่าเขาสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องมีคุณพ่อคุณแม่คอยช่วยค่ะ

2. ออกกำลังกายและทำกิจกรรมฝึกกล้ามเนื้อมือ

คุณพ่อคุณแม่รู้ไหมคะว่า การออกกำลังกายนอกจากจะมีประโยชน์ในแง่ของพัฒนาการทางด้านร่างกายแล้ว ยังช่วยให้ลูกเรียนรู้ได้ดีขึ้นอีกด้วย! ถือว่าเป็นสิ่งที่ช่วยให้ลูกแกร่งและเก่งได้อย่างใจฝันเลยนะคะ แต่ก่อนอื่นเรามาพูดถึงประโยชน์ทางด้านร่างกายที่ลูกจะได้รับจากการออกกำลังกายกันก่อนค่ะ คือจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงของระบบกล้ามเนื้อและข้อต่อต่างๆ ของร่างกาย รวมไปถึงทำให้ระบบการไหลเวียนโลหิตและการทำงานของหัวใจแข็งแรงขึ้น หากเป็นกิจกรรมที่ช่วยฝึกกล้ามเนื้อมือมัดเล็กด้วยก็จะมีประโยชน์มากๆ ค่ะ

ที่สำคัญการออกกำลังกายยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้ของเด็ก เพราะการออกกำลังกายหรือเคลื่อนไหวร่างกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้หลอดเลือดและออกซิเจนหมุนเวียนไปสู่สมอง ส่งผลให้ลูกมีความตื่นตัวและจดจ่อต่อการเรียนรู้ อีกทั้งยังทำให้มีความจำที่ดีขึ้น และยังช่วยให้เด็กๆ มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นอีกด้วยนะคะ

3. การเล่นเสริมทักษะง่ายๆ ที่ช่วยเรื่องการคิด 

“การเล่นคือหน้าที่ของเด็ก” เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของเด็กๆ ได้หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์และสังคม โดยการเล่นนั้นมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งมีและไม่มีอุปกรณ์ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกเล่นกับลูกได้ทุกแบบเลยนะคะ ไม่ว่าเล่นแบบไหนก็ดีต่อเจ้าตัวเล็กทั้งนั้นค่ะ

แต่ถ้าอยากส่งเสริมด้านความฉลาดให้แก่ลูก เราขอแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่เลือกเกมที่มีกฎเกณฑ์หรือกติกาที่กำหนดเอาไว้แน่นอน เช่น เกมภาพสัมพันธ์ เกมภาพตัดต่อ เกมจับคู่ เกมตารางสัมพันธ์ หรือเกมโดมิโน เพราะเกมเหล่านี้จะช่วยให้เด็กได้คิดแก้ปัญญา และฝึกทักษะการคิดในด้านต่างๆ ได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ

4. การเล่านิทาน

การเล่านิทานเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มหาศาลต่อการเรียนรู้ของเด็กๆ ค่ะ เพราะจะช่วยให้ลูกมีพัฒนาการที่สมบูรณ์รอบด้าน และเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคุณพ่อคุณแม่ ช่วยเพิ่มทักษะการเข้าสังคมและมีความสามารถในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ที่สำคัญยังทำให้ลูกจดจำได้ดีอีกด้วย สังเกตกันไหมล่ะคะว่าเวลาที่เราเล่านิทานให้ลูกฟัง ลูกสามารถจดจำเรื่องราวในนิทานได้ดีสุดๆ สามารถพูดถึงตัวละครและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเรื่องได้เกือบหมด

นอกจากนี้เรื่องราวในนิทานยังเปรียบเสมือนสถานการณ์สมมติ ที่ช่วยให้เด็กๆ ได้คิดตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คุณพ่อคุณแม่สามารถพูดคุยถึงความคิดหรือความเห็นของลูกที่มีต่อสถานการณ์ในเรื่องนั้น บางเรื่องที่เป็นเรื่องเหนือจินตนาการก็จะช่วยให้ลูกมีความคิดสร้างสรรค์ มีจินตนาการ และยังช่วยให้ลูกมีสมาธิและจดจ่อกับสิ่งที่ฟัง ซึ่งนับเป็นพื้นฐานสำคัญต่อการเรียนรู้ของลูกในอนาคตค่ะ

5. เลือกโภชนาการที่ดีต่อระบบย่อยอาหาร

วิธีสุดท้ายคือเรื่องของ ‘โภชนาการ’ ค่ะ เพราะการที่ลูกได้รับโภชนาการที่ดีย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้ลูกแข็งแรงก็คือเรื่องของอาหารการกิน ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำให้เพียงพอตามที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน อย่างเด็กเล็กก็ไม่ควรรับประทานขนมหวานเพราะนอกจากจะไม่ดีต่อร่างกายแล้ว ยังอาจทำให้ลูกฟันผุได้ด้วย และที่สำคัญไปกว่านั้นคือควรดูแลระบบทางเดินอาหารของลูกให้แข็งแรง เพราะเกือบ 80% ของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอยู่ในระบบย่อยอาหารค่ะ

หากลูกมีระบบทางเดินอาหารที่ดีก็จะช่วยให้เขามีร่างกายที่แข็งแรง พร้อมรับการเรียนรู้ใหม่ๆ ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งตัวช่วยสำคัญคือจุลินทรีย์ LPR เป็นจุลินทรีย์ที่มีในน้ำนมแม่ และยังพบได้ในโยเกิร์ตบางชนิดและนมบางชนิด โดย LPR คือ โพรไบโอติกส์หรือจุลินทรีย์สุขภาพค่ะ มีคุณลักษณะเฉพาะสามารถเพิ่มจุลินทรีย์ชนิดดี ลดจุลินทรีย์ก่อโรค ช่วยปรับสมดุลให้ระบบภูมิคุ้มกัน และมีส่วนช่วยให้ลำไส้แข็งแรง คอยสร้างเกราะป้องกันไม่ให้จุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรคเข้าสู่ร่างกายของลูกได้นั่นเอง

ซึ่งการที่ลูกมีร่างกายที่แข็งแรงก็จะช่วยให้สมองได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ ทำให้เขาสามารถเรียนรู้ และพัฒนาศักยภาพด้านต่างๆ ได้อย่างเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็กวัย 1-2 ขวบ ถือเป็นช่วงทองของการสร้างความเก่งและแกร่ง เพราะพวกเขาจะมีพัฒนาการที่รวดเร็วในทุกๆ ด้าน ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยให้ลูกพัฒนาความเก่งและมีตัวช่วยอย่างจุลินทรีย์ LPR จะทำให้เด็กเติบโตอย่างสตรองในแบบที่เขาเป็นได้อย่างเต็มที่เลยค่ะ

ถ้าคุณพ่อคุณแม่คนไหนสนใจที่จะส่งเสริมให้ลูกแกร่งและเก่งได้อย่างใจฝัน สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Mommy Bear Club

#LPRจุลินทรีย์ในนมแม่ #เพราะแกร่งจึงเก่งได้อย่างใจฝัน #Advertorial

Writer Profile : Lalimay

  • Blog :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



Update
12 ตุลาคม 2567

12 ตุลาคม 2567
12 ตุลาคม 2567
anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save