มะเขือเทศนั้นจัดว่าเป็นผลไม้ที่คนทั่วโลกนิยมรับประทานกันมากที่สุด โดยนิยมรับประทานกันมากกว่าผลไม้ยอดนิยมอันดับ 2 อย่างกล้วย มากถึง 16 ล้านตันต่อปี มะเขือเทศมีประโยชน์มากมาย เพราะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น วิตามินซี วิตามิเอ วิตามินเค วิตามินพี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส และธาตุเหล็ก มาดูกันค่ะว่า มะเขือเทศมีประโยชน์ต่อแม่ท้องยังไงบ้าง
1. มะเขือเทศช่วยดับร้อน
ในช่วงที่ตั้งครรภ์ฮอร์โมนต่างๆ ในร่างกายของแม่ท้องจะไม่ค่อยสมดุล ส่งผลให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น และจึงเป็นที่มาว่าทำไม่แม่ท้องถึงขี้ร้อนในช่วงตั้งครรภ์ การดื่มน้ำเขือเทศเย็นๆ จะช่วยทำให้สดชื่น ดับร้อนได้ดีค่ะ
2. มะเขือเทศมีวิตามินหลายชนิด
ในมะเขือเทศมีวิตามินหลายชนิดทั้ง วิตามินซี วิตามิเอ วิตามินเค วิตามินพี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 ซี และแร่ธาตุต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อลูกน้อยในครรภ์ มะเขือเทศหนึ่งผลจะมีวิตามินเอราว 1 ใน 3 ของวิตามินเอที่ร่างกายต้องการในหนึ่งวัน วิตามินเอจะช่วยบำรุงสายตาได้เป็นอย่างดี
3. มะเขือเทศช่วยบรรเทาอาการปวดหลัง
มะเขือเทศช่วยบรรเทาอาการปวดหลัง เป็นหวัด สารไลโคปีนในมะเขือเทศ เป็นตัวช่วยสร้างเกราะป้องกันร่างกายเสื่อม ช่วยป้องกันโรคร้ายต่างๆ ทำหน้าที่ปกป้องการเสื่อมสภาพของเซลส์ในร่างกาย จากอนุมูลอิสระที่เกิดจากการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การเจอแสงแดด มลพิษ ความเครียด หรือการพักผ่อนไม่เพียงพอ และมีส่วนช่วยปรับระบบฮอร์โมนและภูมิคุ้มกันในร่างกาย
4. มะเขือเทศช่วยบำรุงผิวพรรณ
การทานมะเขือเทศจะช่วยทำให้ผิวพรรณของแม่ท้องสวยสดใส ชุ่มชื่น ไม่แห้งกร้าน เพราะในมะเขือเทศมี ไลโคปีน ซึ่งมีประสิทธิภาพอันทรงพลังในการต่อต้านอนุมูลอิสระได้มากกว่าวิตามินอีถึง 100 เท่าในปริมาณที่เท่ากัน พร้อมทั้งยังช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินที่เป็นตัวการทำให้เกิดความหมองคล้ำ ทำให้ผิวของแม่ท้องสดใสอิ่มน้ำ มีสุขภาพดี
5. มะเขือเทศช่วยลดอาการท้องผูก
คุณแม่ท้องส่วนใหญ่จะมีอาการท้องผูก เนื่องจากอาหารไม่ย่อย ป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ เพราะในมะเขือเทศจะมีใยอาหารและน้ำอยู่มาก จึงช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายให้ทำงานได้มีประสิทธภาพมากขึ้น
วิธีทานมะเขือเทศให้ได้ประโยชน์มากที่สุด
- มะเขือเทศแบบสด ในมะเขือเทศมีวิตามินซีสูง ดังนั้นหากต้องการวิตามินซีสูง มีใยอาหาร ทำให้ผิวพรรณดี ก็ให้รับประทานสด
- มะเขือเทศที่ผ่านความร้อน จะทำให้ไลโคปีนกับเนื้อเยื่อของมะเขือเทศหลุดออกจากกันได้ง่าย ร่างกายจึงสามารถนำไปใช้ได้ดีกว่ากินแบบไม่ผ่านความร้อน อีกทั้งไลโคปีนนั้นสามารถละลายได้ดีในน้ำมัน ดังนั้นหากเราใช้น้ำมันในการปรุงมะเขือเทศ จะยิ่งทำให้ร่างกายดูดซึมไลโคปีนดียิ่งขึ้น
- น้ำมะเขือเทศไม่ควรดื่มมากเกินวันละ 2 แก้ว เพราะจะทำให้เกิดโรคนิ่วได้
ที่มา :