เพราะ “วัยเด็ก” คือช่วงเวลาสำคัญที่สุดในการวางพื้นฐาน ทั้งทางร่างกาย ความคิด และจิตใจ การเลือกโรงเรียนให้เหมาะกับลูกน้อยจึงเป็นเรื่องสำคัญกับเด็กๆ ที่อยู่ในวัยแห่งการเริ่มต้นเรียนรู้ และพัฒนาทักษะสำคัญในทุกด้านของชีวิต
วันนี้เราขอแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ได้รู้จักกับ “โรงเรียนอนุบาลนานาชาติฮัมมิ่งเบิร์ด” โรงเรียนอนุบาลนานาชาติขนาดน่ารักย่านฝั่งธน ที่มีแนวคิดและวิธีการเรียนการสอนที่น่าสนใจ รวมถึงใส่ใจการออกแบบสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้ที่เอื้อต่อการพัฒนาศักยภาพทั้งทางร่างกาย และทางจิตใจของเด็กเป็นสำคัญ
โดยมุ่งเน้นการพัฒนาตัวตนและศักยภาพทางความคิด พร้อมเสริมสร้างพื้นฐานทางอารมณ์ที่มั่นคงให้กับเด็ก จึงขอเชิญชวนคุณพ่อคุณแม่ให้ไปเยี่ยมชมโรงเรียนด้วย 5 เหตุผล ต่อไปนี้
1. “EYFS + EF + วินัยเชิงบวก” หลักสูตรที่พัฒนามาเพื่อเด็กเล็กที่ฮัมมิ่งเบิร์ดโดยเฉพาะ
คุณพ่อคุณแม่อาจจะเคยเห็นโรงเรียนอนุบาลหลายๆ ที่ใช้หลักสูตร EYFS จากประเทศอังกฤษ ซึ่งให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ผ่านการเล่น (Play-based learning)
แต่ความพิเศษของ “โรงเรียนอนุบาลนานาชาติฮัมมิ่งเบิร์ด” ที่ทำให้โรงเรียนแห่งนี้แตกต่างจากที่อื่น ก็คือ การผสมผสานระหว่างการพัฒนาสมอง EF หรือ Executive Functions กับการสร้างวิธีคิด และทัศนคติด้วยวินัยเชิงบวกเข้าด้วยกัน โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้าน EF และวินัยเชิงบวกมาให้คำปรึกษา และช่วยออกแบบหลักสูตร
เพราะเด็กในช่วงวัย 0-7 ปี หรือ Golden Period สมองส่วน EF จะเป็นช่วงที่มีการพัฒนามากที่สุด การได้เรียนรู้ผ่านการเล่น ซึ่งเป็นวิธีการเรียนที่เหมาะสมกับเด็กวัยนี้มากที่สุด พร้อมทั้งการฝึกให้คิดอย่างสร้างสรรค์ และมีเหตุมีผลด้วยเทคนิควินัยเชิงบวก (Positive discipline) จะทำให้เด็กที่เรียนที่นี่รู้จักการรับผิดชอบ ช่วยเหลือตัวเองเป็น มีพื้นฐานทางความคิดและอารมณ์ที่มั่นคง
2. พื้นที่ Safe Zone ของเด็กๆ ในโรงเรียนที่มีขนาดเหมาะสม
เพราะการเรียนไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องเรียนเสมอไป โรงเรียนอนุบาลนานาชาติฮัมมิ่งเบิร์ดจึงสร้างสรรค์ทุกพื้นที่ให้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ของเด็กๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งในและนอกห้องเรียน ก็มีของเล่นเสริมพัฒนาการรออยู่มากมาย แถมยังมีขนาดที่เหมาะสมกับเด็กเล็ก ที่อยู่ในช่วงวัย 1.5-6 ปี ทำให้คุณครูมีการดูแลเด็กๆ ได้อย่างทั่วถึง
ซึ่งมีการออกแบบโดยยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง ไม่ว่าจะเป็น
- ธงบอกค่าฝุ่นละออง
เตรียมพร้อมให้เด็กๆ รู้จักใส่หน้ากากอนามัย เมื่อเริ่มเห็นธงเปลี่ยนเป็นสีเหลืองผ่านเครื่องวัดค่าฝุ่น
- ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ PM 2.5 ทุกห้องเรียน
ทางโรงเรียนได้ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศที่สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 และเชื้อโรค รวมถึงป้องกันเชื้อไวรัส COVID-19 ได้ทั่วโรงเรียน เพื่อสภาพแวดล้อมที่สะอาด และปลอดภัยต่อการสร้างประสบการณ์ในการเรียนรู้ของเด็กๆ ซึ่งทางโรงเรียนได้ให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพของเด็กมาเป็นอันดับ 1 แน่นอน
- Splash Zone
ซุ้มวงกลมที่สามารถพ่นละอองน้ำออกมาได้ นอกจากสร้างความสนุกสนานให้เด็กๆ ได้วิ่งเล่นกันแล้ว ยังมีความพิเศษมากมาย เช่น ช่วยลดฝุ่นจาก PM 2.5, ลดการรบกวนของแมลง และลดความร้อน ด้วยการทำให้อากาศมีการเคลื่อนไหวถ่ายเท เป็นการสร้างลมนั่นเองค่ะ
นอกจากนี้ เด็กๆ ยังได้วิ่งเล่นสัมผัสละอองน้ำได้อย่างปลอดภัยและเป็นมิตร เล่นสนุกทุกวันไม่มีเบื่อ
- พื้น EPDM ลดแรงกระแทก
พื้นทางเดินของโรงเรียนทำจากวัสดุ EPDM ซึ่งเป็นเกรดเดียวกับที่ใช้ในสนามกีฬา ให้ผิวสัมผัสที่ให้ความนุ่ม เพื่อป้องกัน และช่วยลดอุบัติเหตุจากการวิ่งเล่นของเด็กๆ ที่สำคัญ คือ ช่วยลดการบาดเจ็บ เมื่อเด็กๆ ล้มได้เยอะมาก ถึงจะล้มแต่ก็เจ็บไม่มากนั่นเอง ปลอดภัยกับเด็กๆ มากค่ะ
- ระบบล็อกรั้ว
ระบบล็อกรั้ว กันเด็กๆ ไม่ให้เข้า – ออกประตูโรงเรียนได้ตามใจชอบ เพื่อความปลอดภัย ซึ่งสำหรับเด็กๆ แล้ว ประตูยังเป็นเสมือนสัญลักษณ์ให้เด็กๆ ได้เตรียมตัวในการแยกออกจากผู้ปกครองที่ตัวคุ้นเคย และพร้อมที่จะเข้าไปในห้องเรียนของตนค่ะ
- เสานุ่มนิ่ม
การออกแบบเสาที่คำนึงถึงความปลอดภัยของเด็กเป็นหลัก จะวิ่งชน หรือเผลอหกล้มชนขอบเสาก็ปลอดภัย ไม่เจ็บตัว เพราะรอบเสาถูกคลุมด้วยเบาะที่นุ่มนิ่ม สีเหลืองสดใส
- พืชผักสวนครัวที่กินได้
ภายในโรงเรียนจะมีพื้นที่สีเขียวไว้ปลูกพืชผักสวนครัวที่ปลูกแบบออร์แกนิก ปลอดสารเคมี เพื่อให้เด็กได้จับและสัมผัสโดยปลอดภัย ไร้สารเคมี
- สนามเด็กเล่นเสริมพัฒนาการ
ขนาดของเครื่องมือเครื่องใช้ รวมทั้งของเล่นของเด็กๆ ในทุกพื้นที่ ถูกคิดขึ้นมาเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการ และสร้างการเรียนรู้เพื่อเจ้าตัวน้อยโดยเฉพาะ เช่น สนามเด็กเล่นและอุปกรณ์เครื่องเล่นที่เสริมสร้างทั้งกล้ามเนื้อมัดเล็ก และกล้ามเนื้อมัดใหญ่
3. ใส่ใจทุกรายละเอียด จากผู้เชี่ยวชาญเรื่องเด็กเล็ก
“ครูใหม่ ปิยวลี ธนเศรษฐกร” ที่ปรึกษาของโรงเรียนอนุบาลนานาชาติฮัมมิ่งเบิร์ด ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน EF และผู้ก่อตั้ง 101s รวมทั้งยังเป็นผู้ริเริ่มการนำวินัยเชิงบวกแบบ 101 เข้ามาใช้ในประเทศไทย
ดังนั้น คุณครูของโรงเรียนนี้ นอกจากจะเป็น Native Speaker หรือเจ้าของภาษาแล้ว ยังคัดเลือกจากผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ หรือผ่านการอบรมเกี่ยวกับเด็กเล็ก
พร้อมทั้งทางโรงเรียนยังมีการจัดอบรมเวิร์คช็อปเรื่อง EF และการใช้วินัยเชิงบวกอย่างสม่ำเสมอให้กับคุณครูและบุคลากรในโรงเรียน เสริมด้วยคุณครูพิเศษที่เป็นผู้มีความรู้ความสามารถทางพัฒนาการด้านต่างๆ ในเด็กเล็ก
ยิ่งในส่วนมื้ออาหารของเด็กๆ ก็ยิ่งได้รับการดูแลจากนักโภชนาการ เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและเหมาะสม จัดแต่งจานให้น่ารักน่าทาน ช่วยส่งเสริมพัฒนาการตามช่วงวัยของเด็กๆ ให้เจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้น
และที่ขาดไม่ได้ ก็คือ การเน้นเรื่องความสะอาด โดยเชฟจะสวมถุงมือ ใส่หมวก Face Shield ผ้ากันเปื้อน และสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในครัวนั่นเองค่ะ
4. ไม่ใช่แค่โรงเรียน แต่เป็น Community ที่เชื่อมบ้านกับโรงเรียนเข้าด้วยกัน
เพราะเด็กเล็กเป็นวัยที่ต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา ทั้งที่บ้านและโรงเรียน โรงเรียนนี้เขาเลยมี “สมุดพกกายใจ (Caring Diary)” ที่เอาไว้บันทึกสุขภาพกาย รวมทั้งสุขภาพใจของเด็กๆ เหมือนประตูวิเศษในการเชื่อมต่อระหว่างโรงเรียนกับที่บ้าน เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ทราบถึงกิจวัตรประจำวันในทุกวันที่มาโรงเรียนของลูกน้อย โดยกิจวัตรประจำวันของที่นี่ คือ
- ช่วงเช้า : คุณครูจะพูดคุยกับคุณพ่อคุณแม่ให้รับทราบความพร้อมของเด็กแต่ละคน เพื่อเตรียมรับมือและปรับความพร้อมของเด็กก่อนเข้าเรียน
- ระหว่างวัน : จะมีการบันทึกกิจวัตรประจำวันของเด็กแต่ละคน ว่าวันนี้เด็กๆ ทานข้าวกับอะไร? ทานหมดไหม? วันนี้เรียนอะไรบ้าง? สภาพอารมณ์เป็นอย่างไร? ลงในเจ้าสมุดพกกายใจ
- เมื่อตอนเลิกเรียน คุณครูประจำชั้นจะมาพูดคุยกับคุณพ่อคุณแม่อีกครั้ง เพื่อเล่าเรื่องของเด็กในวันนั้นๆ
นอกจากนี้ ยังมีการจัดเวิร์คช็อประหว่างคุณครูและผู้ปกครองเป็นประจำ เพื่อให้ผู้ปกครองได้ทราบถึงพัฒนาการ และการเรียนรู้ของเด็กให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องแบบไร้รอยต่อระหว่างบ้านและโรงเรียนนั่นเองค่ะ
5. การดูแลความปลอดภัยและสุขภาพของเด็กที่มากกว่ามาตรฐาน
แน่นอนว่า ในสถานการณ์ยุคปัจจุบัน “ความปลอดภัยด้านสุขภาพของเด็ก” ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก โรงเรียนอนุบาลนานาชาติฮัมมิ่งเบิร์ดจึงให้ความสำคัญในเรื่องนี้อย่างมากเช่นกัน
เพราะทางฮัมมิ่งเบิร์ดเราได้รับอนุมัติเรื่องความปลอดภัยจากหน่วยงานภาครัฐ คุณครูและบุคลากรทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ 100%, ตรวจสอบซ้ำด้วยชุดตรวจ ATK เป็นประจำทั้งบุคลากรและคุณครู รวมทั้งครอบครัวของนักเรียนที่มาส่งเด็กด้วยเช่นกัน
- นอกจากนี้ ในโรงเรียนยังมีเครื่องวัดคุณภาพอากาศ เพื่อคอยตรวจวัดและแจ้งเตือนคุณภาพอากาศในแต่ละวัน
- และในทุกห้องเรียนก็มีการใช้เครื่องฟอกอากาศที่สามารถดักจับฝุ่น กรองฝุ่น PM 2.5 และฆ่าเชื้อไวรัส COVID-19 ได้ในเครื่องเดียว ซึ่งการดูแลเอาใจใส่ถึงสุขภาพของเด็กนักเรียนเป็นเรื่องที่ทางโรงเรียนได้ให้ความสำคัญมาเป็นอันดับ 1 ตั้งแต่ตอนก่อนสร้างโรงเรียนอีกด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าเด็กทุกคนจะได้รับประสบการณ์การเรียนรู้และมีพัฒนาการที่ดี พร้อมได้รับความปลอดภัยทางสุขภาพร่างกายนั่นเองค่ะ
- อีกหนึ่งความพิเศษในความใส่ใจในรายละเอียดภายในห้องเรียน เช่น การใช้สี Low VOC เพราะทางโรงเรียนได้คำนึงถึงคุณภาพอากาศภายในห้องเรียน รวมถึงพื้นที่ลดการสะสมของแบคทีเรีย
- มีเครื่องตรวจจับค่าคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และความชื้นที่เชื่อมต่อกับระบบระบายอากาศ เพื่อทำให้อากาศ และบรรยากาศภายในห้องเรียน สะอาด ปลอดภัย เป็นมิตรกับเด็กๆ และยังช่วยเสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองนั่นเองค่ะ
- ภายในห้องเรียนจะมีหน้าต่างที่เป็นกระจกใสอยู่รอบๆ ห้องเรียน เพื่อช่วยให้เด็กๆ ลดความเครียดทางสายตา จากการมองเห็นบรรยากาศที่ร่มรื่นด้านนอก และได้รับแสงธรรมชาติจากหน้าต่างทั้ง 2 ฝั่งของห้องเรียน
โรงเรียนอนุบาลนานาชาติฮัมมิ่งเบิร์ด เป็นโรงเรียนอนุบาลนานาชาติที่เราเห็นถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียด ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้เด็กๆ มีพัฒนาการและการเติบโตที่ดียิ่งขึ้น
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ย่านฝั่งธนที่กำลังมองหาโรงเรียนให้ลูกน้อย Parents One อยากขอแนะนำให้ลองไปเยี่ยมชมและพูดคุยกับทางโรงเรียนก่อน หรือถ้าสนใจแต่ยังลังเล ทางโรงเรียนก็มีเปิด Playgroup ให้คุณพ่อคุณแม่พาน้องๆ ไปลองเรียนดูก่อนได้เลยนะคะ
ตอนนี้ทางโรงเรียนอนุบาลนานาชาติฮัมมิ่งเบิร์ด กำลังเปิดรับสมัครนักเรียนประจำปีการศึกษา 2565 – 2566 สำหรับลูกน้อยในช่วงอายุ 18 เดือน ถึง 5 ปี สามารถนัดหมายเยี่ยมชมโรงเรียนได้ที่
- โทรศัพท์ : 095 193 2615
- LINE : @hummingbird_school
- หรือนัดหมายเยี่ยมชมผ่านทาง Virtual School Tour (นัดหมายล่วงหน้า 1 วัน) ที่ https://bit.ly/Virtual_School_Tour
- Official Website : www.hummingbird.ac.th
- Official Fanpage : www.facebook.com/hummingbirdinternationalkindergarten