เป็นเหมือนกันไหมคะที่มีอยู่หลายครั้ง เราพยายามจะสอนและพูดกับลูก แต่ลูกไม่เคยฟังหรือทำตามเราเลย จนต้องถามตัวเองอยู่บ่อยๆ ว่านี่เราทำอะไรผิดไปหรือเปล่า ทำไมพูดหูซ้ายทะลุหูขวาให้ได้อารมณ์เสียกันตลอด เลยลองมองย้อนกลับไปนึกถึงตัวเองในวัยที่น่าจะไม่ไกลจากลูกนัก ว่าวัยนั้นเราต้องการอะไร และเพราะอะไรที่เราไม่ฟังแม่ เลยมาปรับทางใหม่ รู้สึกว่าได้ผลดีขึ้น ลูกยอมฟังเรามากขึ้น เลยอยากจะขอแชร์เหตุผลที่สอนลูกแล้วลูกไม่ฟังและมีวิธีไหนที่ทำแล้วลูกทำตามเราบ้างค่ะ
หลายครั้งที่เราใช้อารมณ์กับลูกและผลลัพธ์ที่ได้คือยิ่งทำให้ลูกร้องไห้มากขึ้นและหงุดหงิดกันทั้งคู่ ลองทำอารมณ์ของตัวเองให้เย็นลงก่อนที่จะพูดกับลูกดูนะคะ เมื่อไหร่ที่อารมณ์แม่เย็น การที่ลูกจะฟังเราด้วยใจที่เย็นตามไปด้วยนั้นไม่ยากเลยค่ะ
ด้วยความที่เราเป็นผู้ใหญ่และสามารถทำหลายสิ่งได้คล่องแคล่วแล้ว ก็อาจจะมีบ้างที่บางครั้งเราคาดหวังจากลูกให้เขาทำอะไรได้ด้วยตัวเองได้เร็วเท่าใจของเรา ลองลดความคาดหวังลงหากลูกมีพัฒนาการสมวัยและทำอะไรได้ตามวัยของเขา แต่หากลูกทำได้ช้ากว่าวัย ก็ค่อยๆ หัดและฝึกดูอย่างใจเย็น จะช่วยได้ดีกว่าไปเร่งรัดและคาดหวังให้เขาทำได้โดยเร็วนะคะ
หลายครั้งที่เราพูดเสียงดังใส่ลูก เพื่อให้ลูกได้ยินและทำตาม แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับตรงกันข้าม นอกจากลูกดูจะไม่ฟังที่เราพูดแล้ว ลูกกลับไม่สนใจด้วยซ้ำ แทนที่จะพูดเสียงดัง ลองเดินเข้าไปใกล้ๆ ลูก นั่งลงในระดับสายตาของเขา สบตาลูกและค่อยๆ พูดด้วยเสียงที่ปกติ เท่านี้เขาก็จะได้ยินสิ่งที่เราพูดแทนการพูดเสียงดังแล้วค่ะ
ภาวะที่ไม่พร้อมจะฟังเกิดขึ้นได้ขณะที่ลูก ง่วง หิว หงุดหงิด หรือไม่สบายตัวค่ะ ให้โอกาสลูกได้ปรับอารมณ์หรืออยู่ในภาวะที่ปกติก่อน จะช่วยให้ลูกพร้อมที่จะฟังเรามากขึ้นนะคะ
ลองมองย้อนกลับมาที่ตัวเอง ขนาดตัวเรายังไม่ชอบให้ใครมาสั่งเลย แล้วลูกจะชอบได้อย่างไร ลองเปลี่ยนจากการสั่ง มาเป็นการให้ทางเลือก (ที่เรายอมรับได้) กับเขาดูค่ะ เมื่อไหร่ที่ลูกรู้สึกว่าเขามีส่วนร่วมและมีอำนาจในการตัดสินใจ การที่ลูกจะทำตามที่เราสอนนั้นจะง่ายขึ้นค่ะ