รับมือฝุ่นตัวร้าย! 4 วิธีดูแลเมื่อลูกมีอาการป่วยจากฝุ่นและอากาศที่เปลี่ยนแปลง

อากาศ คือปัจจัยสำคัญในการดำเนินชีวิตของเรา ถ้าคุณภาพอากาศดีก็ย่อมทำให้คุณภาพชีวิตดีไปด้วย แต่อย่างที่เห็นกันว่าช่วงนี้ในกรุงเทพคุณภาพอากาศค่อนข้างแย่

จากการสำรวจในประเทศไทยพบว่ามีคนเป็นโรคภูมิแพ้เพิ่มขึ้น 3-4 เท่า ภายในระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมา โดยโรคภูมิแพ้ของทางเดินหายใจส่วนบน คือ โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ที่มีอยู่ประมาณ 30% ของประชากรเท่ากับ 20 ล้านคน และโรคภูมิแพ้ของทางเดินหายใจส่วนล่าง คือ โรคหืดภูมิแพ้อีกประมาณ 4 ล้านคน

จึงส่งผลต่อสุขภาพของทุกคนโดยเฉพาะในเด็กเล็ก ซึ่งอาการที่เกิดขึ้นก็มักจะเกิดเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ อย่างโรคภูมิแพ้จากฝุ่น และอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป วันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าฝุ่นที่เป็นตัวการสำคัญของโรคภูมิแพ้จะอยู่ที่ไหนบ้าง และเราจะมีวิธีการดูแลลูกจากอาการภูมิแพ้ได้อย่างไรค่ะ

ฝุ่นละอองรอบตัวมีอะไรบ้าง

1. ฝุ่นละออง PM 2.5

ในสถานการณ์ตอนนี้ ฝุ่นที่มาแรงที่สุดก็คงจะเป็นฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่ปกคลุมอยู่ทั่วกรุงเทพและปริมณฑล โดยเป็นอนุภาคควันขนาดเล็กไม่ถึง 1 ใน 25 เท่าของความหนาจากเส้นผมมนุษย์ ก็ยิ่งทำให้ผ่านการกรองของขนจมูก และลงไปถึงปอดได้อย่างง่ายดาย ซึ่งมีผลกระทบที่ร้ายแรงต่อสุขภาพ โดยจะทำหน้าที่เป็นตัวกลาง พาสารอันตรายอื่นๆ เข้าสู่ปอด ด้วยการให้สารเหล่านั้นมาเคลือบผิว เช่น สารก่อมะเร็ง หรือสารโลหะหนัก

โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่ร่างกายยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ เมื่อสูดเอาอากาศที่มีฝุ่น PM 2.5 จำนวนมากเข้าไปในปอด ทำให้เกิดการระคายเคืองในโพรงจมูก และทางเดินหายใจส่วนบน ทำให้อาการภูมิแพ้กำเริบและหายใจไม่สะดวก รวมไปถึงทำให้เกิดการอักเสบเฉียบพลันที่หลอดลม จนมีอาการไอและเสมหะมากขึ้น และเมื่อภูมิต้านทานของหลอดลมลดลงจะทำให้เด็กเล็กเกิดการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้ง่าย

2. ไรฝุ่น

“ไรฝุ่น” เป็นสารก่อภูมิแพ้ที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้ของระบบทางเดินหายใจมากที่สุด โดยพบผู้ป่วยเด็กมากถึง 70% ที่มีอาการแพ้ไรฝุ่น โดยไรฝุ่นมักจะชอบซ่อนตัวอยู่บนที่นอน ไม่ว่าจะเป็นหมอน ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม หรือในตุ๊กตาสุดรักของเจ้าตัวเล็ก โดยคนที่แพ้ไรฝุ่น จะเกิดจากการแพ้โปรตีนที่เป็นของเสียจากไรฝุ่น ทั้งมูลและซากที่ตายแล้ว ซึ่งสามารถฟุ้งกระจายได้ง่าย และจะลอยเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจของเรา

3. แป้งฝุ่น

เป็นตัวร้ายที่แอบซ่อนอยู่แบบที่พ่อแม่ไม่รู้ตัว ด้วยแป้งฝุ่นมีละอองที่เล็กมาก เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ ซึ่งแป้งฝุ่นจะมีส่วนประกอบหนึ่งที่มีชื่อว่า ผงทัลคัม (Talcum) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยดูดซับความชื้น ลดการเสียดสีของผิวหนัง แต่ว่ามีอนุภาคที่เล็กมากตั้งแต่ 0.3 ถึง 75 ไมโครเมตรซึ่งง่ายต่อการฟุ้งกระจายในอากาศ หากลูกสูดดมเข้าไปมากๆ ก็จะก่อให้เกิดอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจของเด็กได้ ทำให้เกิดภูมิแพ้ รวมไปถึงทำให้เกิดปอดอักเสบได้อีกด้วย

4. ควันบุหรี่

ก่อให้เกิดอันตรายมากมาย เพราะเมื่อเกิดการเผาไหม้ก็จะก่อให้เกิดสารพิษมากกว่า 4,000 ชนิด นอกจากควันบุหรี่มือหนึ่ง ที่ผู้สูบได้รับอันตรายแล้ว ยังมีควันบุหรี่มือสองและมือสามที่คนได้รับผลกระทบส่วนใหญ่คือเด็กเล็ก และคนในครอบครัว ซึ่งมีอันตรายที่มากกว่าอีกด้วย

5. ควันธูป

ใครจะคิดว่าควันธูปจะเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคระบบทางเดินหายใจ เพราะเมื่อจุดธูปก็จะเกิดการเผาไหม้ของขี้เลื่อย กาว และน้ำหอมในธูป ซึ่งในควันธูปมีสารอันตรายต่างๆ เหมือนกับบุหรี่

ถึงแม้ว่าเราจะดูแลลูกให้ดีขนาดไหน แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าอาการในระบบทางเดินหายใจมักจะเกิดขึ้นแบบที่เราไม่คาดคิด และเมื่อลูกมีอาการแล้ว คนเป็นพ่อเป็นแม่อย่างเราก็คงต้องดูแลเจ้าตัวเล็กให้ดีที่สุด ดังนั้นเราไปดูกันดีกว่า ว่าเมื่อลูกมีอาการภูมิแพ้เราจะมีวิธีดูแลอย่างไรได้บ้าง

การล้างจมูก

อาการภูมิแพ้ มักจะก่อให้ลูกเกิดจมูกตัน หายใจไม่ค่อยออก เพราะเยื่อบุจมูกมีการอักเสบ จนทำให้คัดแน่น และมีน้ำมูก ดังนั้นการล้างจมูกเป็นหนึ่งในวิธีทำความสะอาดโพรงจมูกด้วยการฉีดน้ำเกลือความเข้มข้น 0.9% เพื่อชะล้างมูก คราบมูก ล้างคราบฝุ่นที่เกาะอยู่ที่ขนจมูก ซึ่งการล้างจมูกจะทำให้โพรงจมูกสะอาด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่โพรงจมูก รวมไปถึงทำให้ลูกหายใจโล่งมากขึ้น

โดยการล้างจมูกสามารถทำได้วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น หรือเมื่อเกิดอาการคัดแน่นจมูก

เลือกยาที่มาจากธรรมชาติ

เมื่อลูกไม่สบาย มีอาการภูมิแพ้ หรือคัดจมูก ยาคือช่วยตัวที่สำคัญในการรักษาอาการ และช่วยให้ลูกรู้สึกดีขึ้น ซึ่งการที่คุณพ่อคุณแม่เลือกผลิตภัณฑ์ยาที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติก็อาจจะช่วยรักษาอาการของลูกได้เช่นเดียวกับยาทั่วๆ ไป เนื่องจากในทุกวันนี้เด็กก็ได้รับสารพิษ จากมลภาวะ และฝุ่นรอบตัวอยู่แล้ว การทานยาที่มาจากสมุนไพรไม่มีส่วนผสมของสารเคมีจะดีต่อร่างกายมากกว่า เพราะไม่ต้องกังวลถึงผลข้างเคียงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น ได้ อย่างเช่น อาการตับเป็นพิษหรือตับวายเฉียบพลันจากการกินยาพาราเกินขนาดหรือกินบ่อยเกินไป

แต่คุณพ่อคุณแม่ก็อย่ามองว่ายาจากสมุนไพรจะมีกลิ่นที่แย่ หรือว่าจะมีรสชาติขม เพราะในปัจจุบันก็มียาสำหรับเด็กที่ทำมาจากสมุนไพร มีรสชาติและกลิ่นของผลไม้ที่เหมาะสำหรับเด็กที่กินยายาก อย่าง Mr. Herb ยาน้ำสมุนไพรสำหรับเด็ก จากอ้วยอันโอสถอีกด้วย

ใส่หน้ากากอนามัย

หน้ากากอนามัย คือสิ่งสำคัญในการช่วยป้องกันลูกจากฝุ่นและเชื้อโรคที่อยู่รอบตัว ไม่ให้เข้าไปสู่ระบบทางเดินหายใจ ซึ่งถ้าเป็นการกันฝุ่นหรือเชื้อโรคทั่วไปก็สามารถใส่หน้ากากอนามัยทั่วไปได้ แต่ถ้าเป็นเชื้อโรคหรือฝุ่นขนาดเล็กแบบ PM2.5 ก็ต้องใช้หน้ากากที่กันฝุ่นขนาดเล็ก อย่างเช่น หน้ากาก N95 ดังนั้นเมื่อลูกไม่สบายหรือจะออกไปข้างนอก ก็ควรที่จะให้สวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่กระจาย รวมไปถึงไม่ให้รับเชื้อโรคหรือฝุ่นเข้ามาเพิ่มเติม

หมั่นทำความสะอาดและไม่ทำให้เกิดฝุ่นในบ้าน

การทำความสะอาดจะช่วยกำจัดฝุ่นในบ้าน จากพวกเฟอร์นิเจอร์ ข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน โดยวิธีการทำความสำอาดจะต้องระมัดระวังไม่ให้ฝุ่นฟุ้ง โดยการใช้เครื่องดูดฝุ่น และควรทำความสะอาดแหล่งที่มีฝุ่นและไรฝุ่นอยู่มาก อย่าง โซฟา เตียงนอน ปลอกหมอน และผ้าห่ม เพื่อป้องกันลูกจากการสูดดมไรฝุ่นเข้าไป

นอกจากนี้หากเป็นไปได้ควรใช้เครื่องฟอกอากาศ เพื่อทำให้คุณภาพอากาศภายในบ้านดีต่อการหายใจ และที่สำคัญคือ ลดการทำให้เกิดฝุ่นหรือควันซึ่งเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ อย่างการสูบบุหรี่ และจุดธูปภายในบ้าน

Mr.Herb จากอ้วยอันโอสถ “ให้ธรรมชาติดูแลคนที่คุณรัก”

“มิสเตอร์เฮิร์บ” เป็นผลิตภัณฑ์ยาสำหรับเด็กที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เพื่อบรรเทาอาการไม่สบายที่เกิดขึ้นกับลูก ไม่ว่าจะเป็นอาการหวัด มีน้ำมูก หรืออาการไอก็ตาม โดย “มิสเตอร์เฮิร์บ” มีคู่หูบรรเทาอาการป่วยสำหรับเด็กอายุเกิน 2 ขวบขึ้นไปด้วยกัน 2 ชนิด คือ

1. ยาน้ำขวดสีม่วง ช่วยบรรเทาอาการหวัด และสร้างภูมิคุ้มกันโรคระบบทางเดินหายใจ ใช้ส่วนผสมจากสมุนไพร 100% ปราศจากแอลกอฮอล์ สารเคมี และกลิ่นสังเคราะห์ อีกทั้งยังมีส่วนประกอบสำคัญอย่าง เอลเดอร์เบอร์รี่ อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระอย่าง Flavonoid ที่มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ มีการวิจัยรองรับว่าช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อในปอด ลำคอ และจมูก ได้ถึง 33%

และยังมีส่วนผสมอย่างจากสมุนไพรตัวอื่นอย่าง หวงฉี เจี๋ยเกิง กันเฉ่า กุ้ยจือ ที่รวมกันแล้วทั้งช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ระงับการไอ บรรเทาอาการระคายเคือง ขับเสมหะ และลดไข้และระบายความร้อนอย่างอ่อนๆ

สามารถหาซื้อได้ที่ : Boots, Pure by Big C, LAB Phamarcy, FB Fanpage Ouayun kids by อ้วยอันโอสถ, ทางเว็บ http://bit.ly/3a8xvJT

2. ยาน้ำขวดสีส้ม ช่วยแก้ไอ และละลายเสมหะ มีส่วนผสมจากสมุนไพร 100% ปราศจากแอลกอฮอล์ สารเคมี และกลิ่นสังเคราะห์ โดยส่วนประกอบหลักก็คือ มะขามป้อม ที่มีสรรพคุณแก้กระหายน้ำ แก้หวัด แก้ไอ และช่วยละลายเสมหะได้เป็นอย่างดี

สามารถหาซื้อได้ที่ : 7-11, Boots, FB Fanpage Ouayun kids by อ้วยอันโอสถ, ทางเว็บ http://bit.ly/3adnX07

เห็นไหมคะว่า อากาศคือสิ่งสำคัญในการดำเนินชีวิตของทุกๆ คน หากคุณภาพอากาศดีก็ย่อมทำให้คุณภาพชีวิตดี แต่ถ้าไม่ ก็จะก่อให้เกิดโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะโรคภูมิแพ้จากฝุ่นและอากาศที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งเกิดขึ้นได้ง่ายในเด็กเล็ก และเมื่อมีอาการแล้ว คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องมีวิธีดูแลลูกที่ถูกต้อง เพื่อให้เจ้าตัวเล็กหายป่วยและกลับมาแข็งแรง วิ่งซนได้ไวๆ เหมือนเดิมค่ะ

ข้อมูลอ้างอิงจาก