เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ทุกคน อยากให้ลูกตัวเองเป็นเด็กอดทน ไม่ยอมอพ้ต่ออุปสรรคง่ายๆ วันนี้เราเลยมีนิทานน่ารักๆ 4 เรื่อง ที่สอนเรื่องราวของการไม่ยอมแพ้ และเหมาะจะนำมาเล่าให้ลูกฟังกันค่ะ
1.กระต่ายกับเต่า
นิทานสุดคลาสสิคที่หลายคนเคยได้ยินกัน โดยเป็นเรื่องของ “เต่า” กับ “กระต่าย” ที่วิ่งแข่งกัน ซึ่งเจ้ากระต่ายก็มักโอ้อวดในความเร็วของตัวเองอยู่ตลอด และได้ท้าแข่งกับเต่าที่ชอบเดินต้วมเตี้ยม เมื่อถึงวันเเข่งกระต่ายวิ่งสุดฝีเท้า ต่างจากเต่าที่ค่อยๆ คลานไปอย่างช้าๆ ทำให้กระต่ายชะล่าใจว่าตัวเองชนะแน่นอน เลยแอบไปงีบหลับ แต่พอตื่นขึ้นมาก็เห็นเต่ากำลังจะเดินเข้าเส้นชัย และแน่นอนว่าเจ้ากระต่ายกลายเป็นฝ่ายที่วิ่งแพ้เต่าไป
2. กากับเหยือกน้ำ
กาตัวหนึ่งรู้สึกหิวน้ำมาก มันไม่มีแรงแม้แต่จะขยับปีกบินไปที่หนองน้ำ แต่ด้วยความโชคดีทำให้เจอเหยือกน้ำที่ปากแคบๆ กว่าปากของมันเข้า ทำให้มันไม่สามารถก้มลงไปกินน้ำได้เลย เจ้ากาตัดสินใจเอาก้อนกรวดมาใส่ลงไปในเหยือกทีละก้อนสองก้อน จนในที่สุดระดับน้ำก็สูงขึ้นจนมันกินน้ำในเหยือกใบนั้นได้
3. ลูกหมูสามตัว
เรื่องราวของลูกหมูสามตัวที่เป็นพี่น้องกัน พวกมันตัดสินใจสร้างบ้านไว้ใกล้กัน โดยตัวแรกใช้ “ฟาง” ทำบ้าน ตัวที่สองใช้ “ไม้” มาทำบ้าน และตัวสุดท้ายใช้ “อิฐ” ที่หนักและสร้างยากที่สุดมาเป็นวัสดุสร้างบ้าน ลูกหมูสองตัวแรกต่างหัวเราะเยอะลูกหมูตัวที่สามว่าทำไมต้องสร้างบ้านด้วยความยากลำบากด้วย
จนในวันหนึ่งที่มีหมาป่ามาจับหมูเป็นอาหาร มันทำลายบ้านจาก “ฟาง” ของตัวแรก อย่างง่ายดาย จนมันต้องวิ่งหนีไปที่บ้านที่ทำจาก “ไม้” แต่เพราะไม้ไม่ได้แข็งแรงพอเข้าหมาป่าทำลายบ้านลงไปอีก ในที่สุดทั้งสองตัวก็วิ่งมาหลบที่บ้านจาก “อิฐ” และแน่นอนว่ามันแข็งแรงพอ เจ้าลูกหมูทั้งสามตัวจึงปลอดภัยในบ้านหลังนี้
4. หินอ่อนสอนใจ
เป็นนิทานดีๆ จาก ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา เรื่องราวของหินอ่อนสองก้อนที่เป็นเพื่อนกัน ทั้งสองถูกนำมาอยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่ง โดยก้อนแรกเป็นรูปเเกะสลักม้าอันสวยงาม ต่างจากอีกก้อนที่ถูกนำมาทำเป็นพื้นหินอ่อน
“ทำไมคนที่มาที่นี่ถึงเอาแต่เหยียบย่ำฉัน ไม่มีใครชื่นชมฉันเหมือนที่ชื่นชมเธอเลย ทั้งๆ ที่เรามาจากถ้ำแห่งเดียวกัน” พื้นหินอ่อนพูดขึ้น
“แล้วเธอจำตอนที่ขาพาพวกเราไปยังห้องใหญ่ ๆ แห่งหนึ่งแล้วเราก็ได้พบกับตาแก่คนหนึ่งที่โหดร้ายสุดๆ ได้ไหม” ม้าหินถาม
“จำได้สิตาแก่นั่นเอาค้อนมาทุบฉันเสียระบมไปหมดทั้งตัว ฉันล่ะโกรธจริง ๆ เลย แข็งขืนต่อต้านเสียยกใหญ่ไม่ยอมให้เขามาทำอะไรฉันได้เลย”
ในที่สุดหินอ่อนแกะสลักรูปม้าก็บอกว่า “นั่นล่ะจ้ะ คือเหตุผลว่าทำไมฉันจึงเป็นที่ชื่นชมของผู้คน ในขณะที่เธอต้องถูกคนอื่น ๆเหยียบย่ำ ทั้ง ๆ ที่เราต่างเป็นหินอ่อนเหมือนกันแท้ ๆ”
พื้นหินอ่อนจึงเข้าใจ ว่าเพราะม้าหินอ่อนยินยอมให้ช่างแกะสลักใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อทำให้ฉันกลายเป็นหินอ่อนที่มี่คุณค่าขึ้นมา เป็นการอดทน ไม่ย่อท้อต่อความเจ็บปวด จนทำให้หินอ่อนหนึ่งก้อนกลายเป็นหินอ่อนแกะสลักที่สวยงามชิ้นในพิพิธภัณฑ์นั่นเอง