fbpx

3 คำแนะนำ เพื่อหยุดแปลงร่างเป็นยักษ์ใส่ลูก ในยามไม่จำเป็น

Writer : OttChan
: 23 กันยายน 2564

ลูกทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ

ลูกทำผิดเรื่องเดิมซ้ำๆ

ลูกเอาของส่วนตัวเรามาใช้จนพัง

ลูกไม่ทำตามที่เราสั่ง

แค่คิดว่าเกิดขึ้นก็อยากจะกลายร่างเป็นยักษ์กันแล้วใช่ไหมคะกับการที่ลูกไม่เป็นดั่งที่ใจเราคิด และบางครั้งตอนกลายเป็นยักษ์ก็เสียงดัง, พูดจาทำร้ายจิตใจ, ลงไม้ลงมือไปซะแล้ว ทำทุกทางเพื่อทำให้ลูกอยู่ในโอวาท แต่ทว่าพออารมณ์ของเราเบาลง หรือหายโกรธแล้วกลับสู่ร่างเดิมก็รู้สึกสงสารลูก อยากพูดคุยกับลูกดีๆ ซึ่งกว่าจะเรียกความรู้สึกที่เสียไปของครอบครัวให้กลับมาก็ต้องใช้เวลามากทีเดียว

เพราะงั้นเราจะมาแนะนำ 3 วิธี เพื่อทำให้เราไม่กลายเป็นยักษ์ตอนที่กำลังรู้สึกไม่พอใจลูกของเรากันนะคะ ลองดูว่ามีวิธีไหนที่จะเหมาะกับเราบ้าง

ข้อแนะนำที่ 1 สำหรับพ่อแม่ปากไว

รู้ทันอารมณ์ตัวเอง หากโกรธ ก็ต้องบอกลูกว่าเราโกรธ

เป็นพ่อแม่ มักบอกว่าต้องมีความอดทนกับลูก แต่ในบางครั้ง การบอกให้ลูกรู้ถึงอารมณ์ของเรานั้นจะช่วยแก้ปัญหาได้มากกว่าค่ะซึ่งเสียงที่ใช้บอกนั้น แน่นอนว่าต้องไม่ใช่เสียงที่กลายร่างพร้อมเป็นยักษ์แล้วเพราะนั่นอาจจะสายเกินที่จะทำให้ลูกเข้าใจ หรือปรับตัวได้ทันว่าอารมณ์ของเราอยู่ในสภาวะไหน

ทางที่ดีที่สุดจึงควรบอกเขาเมื่อเราอยู่ในอารมณ์ที่เริ่มครุกกรุ่นว่า ” พ่อ/แม่ โกรธแล้วนะ ” , ” ตอนนี้พ่อ/แม่ ไม่พอใจมากนะ ”

และด้วยการคิดไม่ซับซ้อน ลูกจะสามารถเข้าใจคำนั้นได้ทันทีเหมือนเวลาเขาบอกเราว่า เขาโกรธ เขาหิว หรือเขาง่วงค่ะ ฉะนั้นพอเขารู้ว่าเราเริ่มโกรธ ลูกก็จะสงบลงและพยายามที่จะฟังเรามากขึ้น

 

ข้อแนะนำที่ 2 สำหรับพ่อแม่จุดเดือดต่ำ

เอาตัวเองออกมาจากจุดเดือด ก่อนจะระเบิด

หากข้อแนะนำแรกไม่สำเร็จเพราะเราไม่ทันได้บอกกล่าวกับลูกว่าเรากำลังจะกลายร่างแล้ว สิ่งที่ควรทำต่อจากนั้นคือการออกมาจากจุดที่จะทำให้ระเบิดมากที่สุด เพราะถ้าปล่อยให้ระเบิด หรือกลายร่างต่อหน้าลูก ก็คงจะเกิดปัญหาเดิมๆ ตามมา คือลูกรู้สึกว่าเราใจร้าย, น่ากลัว และเราก็จะรู้สึกแย่กับตัวเองเสมอเวลาที่เผลอดุ เผลอวีนไม่ตั้งใจ

ดังนั้นเมื่อรู้แล้วว่าอีกนิดจะต้องลงไม้ลงมือหรือตวาด รีบพาตนเองออกมาจากสถานที่ที่กระตุ้นที่จะทำให้เกิดเรื่องดั่งกล่าวขึ้นได้ และเมื่อใจเย็นลง จึงค่อยพาตนเองกลับเข้าไปใหม่เพื่อทำการปรับความเข้าใจ

 

ข้อแนะนำที่ 3 สำหรับพ่อแม่ที่อารมณ์ร้อนเป็นทุนเดิม

ทบทวนปัญหาที่เกิดขึ้นว่าเกิดจากนิสัยของเราที่ร้อน หรือลูกที่ซน

เวลาที่เราอารมณ์ขึ้น หรือรู้สึกแล้วว่าสิ่งที่ลูกกำลังทำนั้นในสิ่งที่ทำให้เรากลายร่างเป็นยักษ์ เรามักมุ่งความสนใจไปก่อนเลยว่า ลูกคือชนวนที่ทำให้เราโมโหเสมอ ซึ่งพอลองกลับมาย้อนคิดแล้วนั้น บางทีมันอาจเกิดจากตัวเราเองหรือเปล่าที่เป็นคนเจ้าอารมณ์อยู่แล้ว, ไม่ชอบในเรื่องนี้อยู่แล้ว จึงได้แสดงความรู้สึกด้านลบออกมาเหมือนเป็นความผิดของลูกทุกอย่างซึ่งปัญหานี้อาจแก้ง่ายกว่าที่คิดเมื่อเรารู้ตัวแล้วว่าสาเหตุมาจากอะไร ดังนั้นการแก้ที่ถูกต้องจึงควรเป็นการทำความเข้าใจเกี่ยวกับตัวของลูกมากกว่าใช้ตัวตนของเราเป็นที่ตั้ง อาทิ

  • ลูกอาจทำสิ่งที่เราต้องการไม่ได้เพราะเขายังไม่มีประสบการณ์ จึงควรสอนให้ทำ มากกว่ารำคาญที่เขาทำไม่เป็น
  • ลูกอาจยังแข็งแรงไม่พอจะทำด้วยตนเองได้ จึงต้องคอยขอพึ่งให้เราทำให้เสมอ เราควรช่วยเหลือจนกว่าลูกจะเริ่มจัดการด้วยตนเองได้
  • ลูกมองเราเป็นโลกทั้งใบของเขา จึงไม่แปลกที่ลูกจะเรียกเราตลอดเวลาเพราะเราเป็นทั้งเพื่อน ทั้งครู และ คนรู้ใจเขาทุกอย่าง

 

ที่มา SpoiledPediatrician , amarinbabyandkids

Writer Profile : OttChan

  • Blog :
  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



ชีวิตครอบครัว ชีวิตครอบครัว
2 กุมภาพันธ์ 2564
ลูกชอบพูดแทรก จะแก้อย่างไร
ชีวิตครอบครัว
Update
anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save