ถ้าพูดถึงเรื่องสติปัญญา ความฉลาด ที่มาจากพันธุกรรมแล้ว ส่วนที่เป็นปัจจัยสำคัญก็คือ สภาพแวดล้อมของเด็ก ถ้าเด็กอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี ที่ส่งเสริมต่อพัฒนาการทางสมอง ก็ทำให้เด็กฉลาดขึ้นได้ อีกทั้งความฉลาดที่กำลังพูดถึงนี้ไม่ใช่แค่ I.Q. ความฉลาดทางปัญญา การคิดคำนวณ การใช้เหตุผล แต่ยังรวมไปถึง E.Q. คือความฉลาดทางอารมณ์ การรับรู้ เข้าใจอารมณ์ของตนเองและผู้อื่น อีกด้วย แล้วจะทำยังไงให้ลูกของเราฉลาดทั้งสติปัญญาและอารมณ์ ไปดูกันเลยค่ะ
10 วิธีเลี้ยงลูกให้ฉลาด
1. สร้างโอกาสในการเรียนรู้ให้ลูก
สภาพแวดล้อมเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เด็กมีพัฒนาการด้านสมองที่ดีขึ้นได้ ทั้งสภาพแวดล้อมที่บ้านและที่โรงเรียน อีกทั้งคุณพ่อคุณแม่ควรเปิดโอกาสให้ลูกได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เปิดโลกทัศน์ของลูก ไม่จำกัดหรือปิดกั้นพัฒนาการเด็กด้วยคำว่า “อย่าทำ”
2. ให้ลูกดื่มนมแม่นานขึ้น
ผลการศึกษาเรื่องการพัฒนาสมองหลายชิ้น แสดงให้เห็นว่าระยะเวลาที่เด็กได้ดื่มนมแม่เชื่อมโยงกับการที่เด็กจะโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีฉลาด มีโอกาส
3. เรียนรู้จากการเล่น
ในวัยเด็กการเรียนรู้เกิดจากการเล่น ดังนั้น ควรส่งเสริมให้เด็กได้ทำกิจกรรมหรือศิลปะที่สร้างสรรค์ เช่น เกมกระดาน วาดภาพ เล่นดนตรี ร้องเพลง หรือเกมที่เน้นใช้ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายในการเคลื่อนไหว
4. พาลูกไปออกกำลังกาย
การออกกำลังกาย ช่วยให้เลือดเกิดการหมุนเวียนไปเลี้ยงสมองได้ดี เมื่อสมองได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ ความเร็วในการคิดวิเคราะห์ และกระบวนคิดอย่างมีเหตุผลของลูกจะได้เร็วขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มความสามารถในการเรียนรู้ให้กับลูกอีกด้วย
5. สอนให้ลูกคิดบวก
การคิดบวกหรือการตอบสนองเชิงบวก ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและคุณภาพสมองของลูกได้ ในทางกลับกันการคิดในแง่ลบจะเป็นการบั่นทอน สติปัญญา สมองและจิตใจ
6. สอนให้ลูกรักการอ่าน
การอ่านถือเป็นการสร้างความฉลาดที่ดีที่สุด คุณพ่อคุณแม่ควรหาหนังสือดีๆ มาอ่านให้ลูกฟังเป็นประจำหรืออ่านเป็นตัวอย่าง นอกจากนี้ควรเปิดโอกาสให้ลูกได้เลือกหนังสือที่ชอบเองด้วย พยายามอย่าบังคับลูกหรือสร้างข้อจำกัดในการอ่านของลูกมากเกินไป
7. ให้ความรักแก่ลูก
การที่พ่อและแม่ให้ความรัก แสดงความรักต่อลูกเป็นที่สิ่งสำคัญมาก เมื่อลูกมีความสุข รู้สึกอบอุ่น จะทำให้เด็กมีพัฒนาการที่ดี ทั้งด้านสติปัญญาและอารมณ์
8. อาหารบำรุงสมอง
ลูกควรได้รับสารอาหารครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน และไม่ควรข้ามอาหารมื้อใดมื้อหนึ่งไป รวมถึงลูกควรได้รับสารอาหารสำคัญที่จำเป็นต่อการทำงานของสมอง เช่น ดีเอชเอ และโอเมก้า เพื่อช่วยให้การทำงานของสมองเป็นไปอย่างมีประสิทธิ์ภาพ
9. เรียนรู้ผ่านเทคโนโลยี
ต้องยอมรับว่าในปัจจุบัน ทุกเพศทุกวัย ต่างใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกแอพพลิเคชั่นหรือวิดิโอที่เป็นประโยชน์เพื่อการเรียนรู้สำหรับเด็ก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ควรให้ลูกใช้เทคโนโลยีเท่าที่จำเป็นไม่มากจนเกินไป
10. การให้กำลังใจลูก
การกระตุ้นลูกฉลาดไม่ใช่การให้เขาลงมือทำเพียงครั้งเดียวแล้วจะประสบความสำเร็จ แต่เกิดจากการทำซ้ำบ่อยๆ อย่างต่อเนื่องจนเกิดเป็นทักษะ กระบวนการคิดเกิดเป็นการเรียนรู้ และความฉลาด ดังนั้น เราควรพูดให้กำลังใจลูกเพื่อให้ลูกมีกำลังใจและรู้สึกดีที่จะเรียนรู้สิ่งนั่นต่อไป