10 เพจหมอเด็กที่คุณพ่อ-คุณแม่ต้องติดตาม ประจำปี 2017

ทุกคนคงทราบกันดีว่าการเลี้ยงลูกไม่ใช่เรื่องง่าย และแน่นอนว่าเราก็ต้องการเลี้ยงลูกให้ได้ดีที่สุด ถ้าเป็นคุณพ่อ-คุณแม่มือใหม่ด้วยแล้วก็จะยิ่งกังวลใจและกลัวไปเสียทุกอย่าง กลัวว่าจะเลี้ยงลูกได้ไม่ดี กลัวว่าลูกจะไม่มีความสุข ซึ่งสิ่งที่เราทำคือขอคำแนะนำจากผู้ใหญ่ หรือคุณแม่ๆ ด้วยกัน รวมไปถึงคุณหมอเด็กต่างๆ ที่ในปัจจุบันเทคโนโลยีทำให้เราเข้าถึงคุณหมอได้ง่ายขึ้น ในวันนี้ Parents One จึงได้รวบรวม 10 เพจหมอเด็กที่คุณพ่อ-คุณแม่ต้องติดตามประจำปี 2017 มาฝากค่ะ

นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ เป็นจิตแพทย์ผู้ใหญ่ที่ใช้เวลาในการตรวจจิตเวชเด็กมามากกว่า 10 ปี เนื่องจากสถานที่ที่คุณหมออยู่ไม่มีจิตแพทย์เด็ก จึงทำให้คุณหมอเข้าใจในธรรมชาติของเด็ก เนื้อหาในเพจส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการใช้จิตวิทยาในการเลี้ยงลูกและสิ่งที่เราควรจะเข้าใจในธรรมชาติของเด็กแต่ละวัย เน้นให้พ่อแม่มีเวลาอยู่กับลูกมากๆ ให้เด็กเติบโตไปตามพัฒนาการของเขา ไม่ต้องรีบ เช่น เด็ก 3 ขวบไม่จำเป็นต้องรีบให้ลูกเข้าโรงเรียน ให้ลูกมีเวลาเล่นและอยู่กับแม่จนพร้อมที่จะไปโรงเรียนดีกว่า เป็นต้น

คุณหมอประเสริฐสนับสนุนให้พ่อแม่ทุกคนอ่านนิทานให้ลูกฟัง ลงไปเล่นกับลูกให้มากและให้เด็กมีส่วนช่วยในการทำงานบ้านจะทำให้ลูกมี EF (Executive Functions) คือกระบวนการทางการคิด ความรู้สึกและการกระทำที่ดีค่ะ

ติดตามคุณหมอได้ที่เพจ นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

หมอเสาวภา เลี้ยงลูกเชิงบวก

กุมารแพทย์เด็กผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการและพฤติกรรมเด็กให้ความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมและพัฒนาการของเด็ก โดยจะเล่าถึงวิธีการเลี้ยงลูกเชิงบวกว่าต้องเป็นอย่างไรซึ่งการเลี้ยงลูกเชิงบวกนั้นจะใช้การสอนแทนการทำโทษ ใช้ความเข้าใจแทนคำขู่ ใช้ความรักและเห็นอกเห็นใจแทนการทำให้อาย โดยหมอเสาวภาจะเล่าเรื่องและมีการยกตัวอย่างที่ทำให้เห็นภาพได้ง่ายและทำให้เข้าใจเนื้อหาได้อย่างชัดเจน แบ่งเนื้อหาเป็นตอนๆ ซึ่งแต่ละตอนไม่ได้ยาวมากนัก เน้นให้คำแนะนำแก่พ่อแม่

ติดตามคุณหมอได้ที่เพจ หมอเสาวภา เลี้ยงลูกเชิงบวก

เลี้ยงลูกนอกบ้าน

หมอโอ๋ พญ.จิราภรณ์ อรุณากูร เป็นหมอเด็กและแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์วัยรุ่น เห็นว่าการพาลูกออกไปผจญภัยนอกบ้านจะดีกว่าให้ลูกอยู่แต่ในบ้านแล้วไม่ได้พบเจอสิ่งใหม่ๆ เป็นเนื้อหาสั้นๆ เน้นประสบการณ์ แบ่งปันในสิ่งที่ตนใช้เลี้ยงลูกอีกทั้งยังให้เทคนิคการเลี้ยงลูกเชิงบวกเช่นเดียวกับหมอเสาวภา นอกจากนี้ยังนำเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับเด็กหรือมีผลอันเนื่องมาจากวัยเด็กหรือการเลี้ยงดู มาวิเคราะห์และให้ความรู้ อีกอย่างหนึ่งคือ หมอโอ๋ใช้ภาษาง่ายๆ ในการเล่าเพื่อให้คุณพ่อ-คุณแม่เข้าใจได้ง่าย

ติดตามคุณหมอได้ที่เพจ เลี้ยงลูกนอกบ้าน

เลี้ยงลูกตามใจหมอ

ผศ.นพ. วรวุฒิ เชยประเสริฐ หรือหมอวิน คุณหมอเจ้าของเพจที่ปัจจุบันเป็นคุณหมอเด็กทั่วไป และหมอเด็กโรคเลือดและโรคมะเร็งในเด็ก โดยเพจนี้เป็นเพจเกี่ยวกับแม่และเด็กที่แหวกแนวด้วยความที่เป็นการเลี้ยงลูกสไตล์คุณพ่อ อีกทั้งหมอวินยังใช้อารมณ์ขันในการถ่ายทอดสามารถเล่าเรื่องการเลี้ยงลูกได้อย่างเป็นธรรมชาติและน่าติดตามซึ่งทำให้คุณพ่อ-คุณแม่มีมุมมองใหม่ๆ ในการเลี้ยงลูกมากขึ้น สำหรับเรื่องความรู้เกี่ยวกับสุขภาพเด็กต่างๆ หมอวินก็มีเขียนไว้ในเพจเช่นเดียวกันค่ะ

ติดตามคุณหมอได้ที่เพจ เลี้ยงลูกตามใจหมอ

สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ

พญ.สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ กุมารแพทย์เชี่ยวชาญด้านทารกแรกเกิด โดยเพจนี้จะถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่และเทคนิคต่างๆ ที่เกี่ยวกับนมแม่โดยใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย เช่น เทคนิคการปั๊มน้ำนมแม่ ประโยชน์และคุณค่าของน้ำนมแม่ เป็นต้น อีกทั้งยังนำคำถามจากทางบ้านมาตอบเพื่อเป็นการให้ความรู้และเผยแพร่ให้คนอื่นๆ ได้รู้ด้วย นอกจากนี้ยังให้ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพเด็กที่คนมักเข้าใจผิด

ติดตามคุณหมอได้ที่เพจ สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ

เข็นเด็กขึ้นภูเขา

พญ.เบญจพร ตันตสูติ หรือที่รู้จักกันในนามหมอมินบานเย็น เพจที่ให้ความรู้เกี่ยวกับจิตวิทยาแก่พ่อแม่ที่มีลูกเล็กจนถึงช่วงวัยรุ่น เพราะหมอมินมักจะนำเรื่องราวจากในละคร ในซีรีส์ หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้นมาวิเคราะห์ต่อยอดด้วยมุมมองของจิตแพทย์ ที่น่าจะเคยเห็นผ่านตากันมาอย่างซีรีส์ฮอร์โมน ที่หมอมินมาวิเคราะห์การกระทำของตัวละครต่างๆ ในซีรีส์ โดยใช้ภาษาที่เข้าใจได้ง่าย มีการยกตัวอย่างจากสถานการณ์อื่นๆ มาประกอบการอธิบาย ทำให้เราได้เข้าใจความคิดของตัวละครและสามารถนำมาปรับใช้ในการเลี้ยงลูกได้

ติดตามคุณหมอได้ที่เพจ เข็นเด็กขึ้นภูเขา

ชมรมจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นแห่งประเทศไทย

เป็นเพจที่ให้ความรู้ทางจิตวิทยาโดยตรง โดยรวมจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นมาให้ความรู้แก่ทุกคน ซึ่งเนื้อหาส่วนใหญ่จะเป็นการให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องการเลี้ยงดูและปรับพฤติกรรมเด็กอย่างเหมาะสมตามวัย รวมไปถึงให้ความรู้เกี่ยวกับโรคทางจิตเวชเด็กและการรักษาโรค อีกทั้งเรายังสามารถปรึกษาปัญหาการเลี้ยงดูและพฤติกรรมเด็กกับจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นในเพจได้อีกด้วย สำหรับภาษาที่ใช้ เพจนี้ก็จะใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายเช่นกัน

ติดตามคุณหมอได้ที่เพจ ชมรมจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นแห่งประเทศไทย

เลี้ยงลูกให้เป็นคนปกติ

เป็นเพจคุณหมอที่โดดเด่นตั้งแต่การตั้งชื่อเพจ เพราะเป็นชื่อที่น่าสนใจและทำให้เราอยากรู้ว่าการเลี้ยงลูกให้เป็นคนปกติเป็นอย่างไร แตกต่างจากที่เราเลี้ยงไหม ซึ่งเพจนี้สร้างขึ้นโดยนพ.อัศวิน และ นพ.ญ.พรพิมล นาคพงศ์พันธุ์ หรือหมอตั้มและหมอก้อยนั่นเอง สำหรับชื่อเพจนั้น จริงๆ แล้วคุณหมอต้องการสื่อว่าโลกในยุคปัจุบันเปลี่ยนไปจากสมัยก่อนค่อนข้างมาก ทั้งเรื่องของพฤติกรรม ความคิดและการกระทำของคนซึ่งอาจจะบูดๆ เบี้ยวๆ ไปบ้าง แต่เมื่อลูกของเราเกิดในยุคนี้สิ่งที่ต้องทำคือเลี้ยงดูให้ลูกมีสุขภาพจิตดี โดยเนื้อหาในเพจส่วนใหญ่จะเป็นบทความแนะนำวิธีการเลี้ยงลูกที่ทำให้เราปรับเปลี่ยนมุมมองในการเลี้ยงลูก มองในสิ่งที่ลูกเป็น ไม่ใช่สิ่งที่เรา ‘อยาก’ ให้เขาเป็นค่ะ

ติดตามคุณหมอได้ที่เพจ เลี้ยงลูกให้เป็นคนปกติ

ฟันน้ำนม

เพจฟันน้ำนมของทพ.ญ. ปวีณา คุณนาเมือง เป็นเพจที่ให้ความรู้เกี่ยวกับฟันของลูกซึ่งมีประโยชน์มากๆ เพราะคุณแม่มักจะหลงลืมเรื่องของการดูแลฟันลูกน้อย หรือบางทีอาจจะมีข้อสงสัยหรือเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับฟันน้ำนม โดยคุณหมอปวีณาได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับฟันน้ำนมไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิธีแปรงฟันให้ลูกน้อย วิธีการดูแลฟันไม่ให้ผุ หรือสิ่งที่ควรรู้ต่างๆ เกี่ยวกับฟันน้ำนม เช่น ควรจะดูแลฟันของลูกตั้งแต่ซี่่แรก เป็นต้น นอกจากนี้ยังให้กำลังใจแก่คุณแม่ที่พยายามแปรงฟันให้ลูกแต่ประสบปัญหาเวลาที่แปรงฟันลูกแล้วลูกร้องไห้งอแง คุณหมอก็ได้ให้เทคนิคต่างๆ ในการแปรงฟันลูกที่น่าสนใจไว้ในเพจนี้ด้วยค่ะ

ติดตามคุณหมอได้ที่เพจ ฟันน้ำนม

Dr.Pam book club

คุณหมอแพมเป็นกุมารแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบบทางเดินหายใจในเด็ก อีกทั้งยังเป็นผู้ที่สนใจการอ่านหนังสือนิทานเด็กเป็นอย่างมากและยังเชื่ออย่างหมดใจว่า”การอ่าน” สำคัญกับชีวิตของลูกมากจริงๆ ดังนั้นหมอแพมจึงอยากจะมาแบ่งปันหนังสือนิทานที่อ่านแล้วรู้สึกชอบและเห็นว่าเป็นเรื่องที่มีประโยชน์ มารีวิวผ่านเพจนี้ ซึ่งการรีวิวของหมอแพมนั้นจะไม่ได้เจาะลึกในเรื่องของจิตวิทยาจ๋า แต่เป็นการเล่าสู่กันฟังในมุมมองที่น่าสนใจมากกว่า นอกจากเรื่องนิทานแล้ว ยังมีเรื่องของความรู้เกี่ยวกับสุขภาพของเด็กต่างๆ มาแบ่งปันให้คุณพ่อ-คุณแม่ทุกคน โดยใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายค่ะ