ช่วงวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้มีการประชุมกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา โดยมีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ. เกี่ยวกับการห้ามจัดสอบข้อเขียนเด็กชั้นอนุบาลและประถมศึกษา ให้ปรับเป็นการคัดเลือกแบบอื่นแทน เช่น สัมภาษณ์ สังเกตพฤติกรรม ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับเด็กๆ ที่ไม่ต้องติวข้อสอบกันอย่างหนักตั้งแต่เล็กๆ เราเลยนำกิจกรรมที่น่าทำในวันที่ไม่ต้องติวสอบมาฝากกัน
1. เล่นระบายสี
กิจกรรมทางศิลปะที่ช่วยเสริมจินตนาการได้เป็นอย่างดี ช่วยให้เด็กๆ ได้ปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ที่มีอยู่ในตัว และไม่แน่ว่าคุณพ่อคุณแม่อาจจะได้พบพรสวรรค์ที่อยู่ในตัวลูกด้วย
2. ปั้นแป้งโดว์
แป้งโดว์มีวิธีการเล่นเหมือนดินน้ำมัน แต่กลิ่นไม่แรงเท่า และเปื้อนมือน้อยกว่า ช่วยฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็กได้เป็นอย่างดี
3. ฝึกทำขนม
การเข้าครัวทำขนมกันทั้งครอบครัวก็สนุกดี ลองเลือกเมนูง่ายๆ ที่เด็กทำได้อย่าง ครองแครง ชีสพาย คุกกี้ลายน่ารักๆ แล้วฝึกทำกันก็ดีนะคะ
4. ต่อเลโก้
เลโก้เป็นของเล่นสนุกๆ ที่หลายคนคุ้นเคยกันดี อยากบอกว่าเลโก้หนึ่งชุดสามารถสร้างสรรค์ได้ออกมาหลายแบบเลย
5. เล่นบทบาทสมมุติ
ด็กวัยนี้เป็นช่วงวัยที่ช่างคิดช่างจินตนาการ คุณพ่อคุณแม่ลองสนุกไปกับบทบาทที่เด็กๆ มอบให้เเล้วเล่นละครไปด้วยกันก็ช่วยสร้างความสัมพันธ์กับเด็กได้เป็นอย่างดี
6. ชวนกันถ่ายรูป
จัดทริปเล็กๆ ออกไปถ่ายรูปกันทั้งครอบครัวก็น่าสนุก ไม่ว่าจะขึ้นภูเขา น้ำตก ทะเล ชมวิวธรรมชาติพร้อมเก็บภาพความประทับใจก็เป็นหนึ่งกิจกรรมที่อยากแนะนำ
7. ทำงานบ้าน
ฝึกให้ลูกๆ ทำงานบ้านง่าย เช่น ช่วยล้างจาน เก็บของเข้าที่ กวาดขยะ เพราะนอกจากบ้านสะอาดแล้วยังเป็นกิจกรรมพัฒนา EF ด้วย
8. สอนเรื่องเงิน
อ่านเเล้วอาจจะคิดว่าเป็นยากสำหรับเด็ก แต่อยากให้ปลูกฝังเรื่องเงินตั้งแต่เล็ก โดยเริ่มจากการอธิบายง่ายๆ ว่าพ่อแม่หาเงินมาได้อย่างไร เราใช้เงินทำอะไรบ้าง และเงินสำคัญแค่ไหน
9. ดูเมฆด้วยกัน
นอนดูเมฆในวันที่อากาศดี แล้วลองถามลูกว่าก้อนนี้รูปร่างเหมือนอะไร ให้ทายกันเล่นๆ เช่น ก้อนนี้เหมือนนก ก้อนนี้เหมือนหมี ก้อนนี้เป็นหนูกับพ่อและแม่
10. ฝึกการทรงตัว
ฝึกปั่นจักรยานสองล้อให้ได้ หรืออีกแบบง่ายๆ ที่อยากแนะนำคือ ลองวางเชือกเป็นเส้นตรง แล้วให้ลูกเดินตามก็เป็นการฝึกทักษะการทรงตัวที่ดีสำหรับเด็ก
จะเห็นได้ว่ามีกิจกรรมที่ช่วยเสริมทักษะสำหรับเด็กวัยนี้อีกมากมาย โดยในร่าง พ.ร.บ. บอกไว้ว่าถ้าหากโรงเรียนฝ่าฝืน มีการจัดสอบรับนักเรียนจะมีการลงโทษโด้วยการปรับเงินจำนวน 500,000 บาท ซึ่งเราไม่ได้มองว่าการติวด้านวิชาการไม่ดี เพียงแต่อยากให้คุณพ่อคุณแม่ลองหากิจกรรมดีๆ ทำควบคู่กันไปค่ะ 😀
ขอบคุณข้อมูลจาก – nation